12 พ.ค. 2023 เวลา 03:13 • ประวัติศาสตร์
สหราชอาณาจักร

26 ปีแห่งการจากไปของกุหลาบอังกฤษ...เจ้าหญิงไดอาน่า Princess of Wales

กลางดึกของคืนวันที่ 31 สิงหาคม 2540 เกิดเสียงดังสนั่นลั่นไปทั่วบริเวณอุโมงค์ ปองต์ เดอ ลัลมา (Pont de l'Alma)
ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ภายในนั้นพบซากของรถเบนซ์ในสภาพยับเยินภายในพบร่างผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตอีก 4 คน หนึ่งในนั้นคือ นายโดดี้ อัลฟาเยด ลูกชายของมหาเศรษฐีเจ้าของห้าง Harrods ณ กรุงลอนดอน
โดยข้างๆเขามีหญิงสาวผู้หนึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสจากแรงกระแทกของรถเบนซ์ W140 ที่พุ่งเข้าชนอุโมงค์ จากการที่คนขับรถดังกล่าวพยายามขับหลบหนีบรรดาปาปาราสซี่ที่ขับมอเตอร์ไซค์ไล่ตามเพื่อจะทำข่าว แต่แล้ว โศกนาฏกรรมก็บังเกิดขึ้นเพียงเสี้ยววินาที ท่ามกลางกลางดึกสงัด ณ กรุงปารีส โดยที่ประชาชนทั้งอังกฤษและทั่วโลกต่างไม่ได้รับรู้เลยว่าได้เกิดเหตุร้ายขึ้นกับเจ้าหญิงของพวกเขา...เจ้าหญิงของประชาชน...Diana, Princess of Wales
เสียงหวอจากรถพยาบาลและรถตำรวจวิ่งให้วุ่นทำลายความเงียบไปอย่างสิ้นเชิงรถเบนซ์คันงามที่ตอนนี้กลายสภาพเพียงเศษเหล็กที่ปกคลุมร่างทั้งสี่ร่าง ได้ถูกงัดแงะเพื่อช่วยเหลือผู้รอดชีวิต
เจ้าหญิงไดอาน่าทรงมีพระอาการบาดเจ็บสาหัสและมีเลือดคั่งบริเวณทรวงอก พระองค์ถูกนำตัวส่ง รพ.ปีเต-ซัลแปร์ติแยร์ ทันที กุหลาบงามแห่งอังกฤษได้ถึงมีแพทย์ผู้ทำการรักษาแล้ว หากแต่ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตของพระองค์ไว้ได้ เจ้าหญิงไดอาน่าได้หลับใหลตลอดกาล ณ เวลา 03.57 นาที โดยมีพระญาติและคนในครอบครัวไว้อาลัยกับการจากไป
พระสวามี เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์แห่งอังกฤษเสด็จจากกรุงลอนดอนมาหาคู่ชีวิตที่เคยร่วมทางกันมาหลายปี แม้จะไม่ราบรื่นนัก มากล่าวคำอำลาครั้งสุดท้ายกับร่างไร้พระวิญญาณของอดีตชายาที่เป็นพระมารดาของพระโอรสถึง 2 พระองค์
...เช้าวันรุ่งขึ้น จะเป็นวันที่ท้องฟ้ามืดมน แม้แต่แสงอาทิตย์คงไม่กล้าทอแสง ดอกไม้พากันลู่ลง นกส่งเสียงเศร้าราวกับจะไว้อาลัยผู้วายชนม์ ประชาชนทั่วโลกจะต้องจดจำวันนี้ไว้ ว่าเป็นวันที่กุหลาบแห่งอังกฤษปลิดกลีบสุดท้ายร่วงโรยลงแล้ว...
Diana Frances Spencer เกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ.2504 ราศีเมถุน
ณ แซนดริงแฮม นอร์ฟอล์ค ประเทศอังกฤษ
บิดาคือ John Spencer,( ยศ Viscount Althorp) และ มารดาชื่อ Francesมีพี่น้องทั้งหมดรวมไดอาน่าด้วย 4 คน ประกอบด้วย Sarah, Jane และน้องชายคือ Charles
ครอบครัวของท่านถือว่าเป็นครอบครัวที่ถวายการรับใช้พระบรมวงศานุวงศ์มานานย่าของไดอาน่าเป็นนางสนมของควีนมัม หรือ Queen Elizabeth The Queen Mother
โดยบ้านที่แซนดริงแฮมเองก็เป็นของราชินีอลิซาเบธที่ 2 และใกล้เคียงกับบ้านหลังนี้ก็เป็นที่ประทับในวันหยุดของพระบรมวงศานุวงศ์
ในวัยเด็ก ไดอาน่าจึงเป็นเพื่อนเล่นกับสองเจ้าชายพระโอรสองค์เล็กของราชินีบ่อยๆ คือ เจ้าชายแอนดรูว์ และเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด
บิดาของไดอาน่าได้แต่งตั้งเป็น Earl Spencer ที่ 8 ซึ่งหลังจากนั้นมา Miss Diana จึงเป็น Lady Diana Spencer
หลังจากบิดาและมารดาของ Lady Diana หย่าร้างกัน บิดาก็สมรสใหม่ มารดาก็สมรสใหม่เช่นกัน
การศึกษา:
- Silfield Private School in Gayton, Norfolk
- Riddlesworth Hall School
- West Heath Girls' School in Sevenoaks, Kent
- Institut Alpin Videmanette, a finishing school in Rougemont, Switzerland หลังจากเรียนที่สวิตเซอร์แลนด์ เลดี้ไดอาน่าก็กลับมายังลอนดอน อาศัยอยู่กับเพื่อนๆ ณ แฟลตของมารดา โดยไปเรียนทำอาหารขั้นสูงเพิ่มเติมด้วย
- ทรงเคยทำงานพาร์ทไทม์หลากหลายงาน เช่น เป็นครูสอนเต้นรำให้เด็กๆ แต่หลังจากเกิดอุบัติเหตุจากการเล่นสกีก็หยุดงานไปสามเดือน, เคยเป็นครูผู้ช่วยในโรงเรียนอนุบาล, ทำความสะอาดให้กับพี่สาวของเธอและเพื่อนๆ, เป็นพี่เลี้ยงเด็กให้กับครอบครัวโรเบิร์ตสันซึ่งเป็นครอบครัวชาวอเมริกันที่อยู่ในลอนดอน และเป็นครูพี่เลี้ยงเด็กในโรงเรียนสอนเด็กเล็กใน Pimlico
Lady Diana มีความสามารถพิเศษด้านดนตรี และกีฬา ทรงเป็นนักเปียโนที่เก่ง นักเต้นรำที่หาตัวจับยาก และยังชื่นชอบการว่ายน้ำและดำน้ำเป็นชีวิตจิตใจ แม้พระองค์จะขี้อาย แต่เมื่อได้ทำกิจกรรมแล้วพระองค์กลายเป็นเด็กสาวผู้ร่าเริงไปเลยทีเดียว
ครั้นเมื่อเลดี้ไดอาน่าอายุ 17 ปี ก็ได้กลับมาอยู่ลอนดอน และได้มีโอกาสได้มางานสังคมตามที่พี่สาวของเธอพาไป
ซาร่าห์ พี่สาวคนโตของเธอ ณ ตอนนั้นกำลังมีข่าวว่ากำลังสานสัมพันธ์กันเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ พระราชโอรสองค์โตในสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบ็ธที่ 2 กับเจ้าชายฟิลิปป์ ดยุคแห่งเอดินเบอระ ฟ้าชายชาร์ลส์ถือว่ามีพระรูปงาม พระยศสูง การศึกษา การกีฬาดีเลิศ เป็นที่หมายปองของสาวๆทั่วสังคมชั้นสูง พระองค์จึงมีตัวเลือกมากมาย คู่ควงไม่ซ้ำหน้า แต่เมื่อเจ้าชายทรงทอดพระเนตรเห็นไดอาน่าพระองค์ก็ทรงเป็นกันเอง เนื่องจากคนทั้งคู่เคยเจอกันมาก่อน (เจ้าชายชาร์ลส์เป็นพระเชษฐาของเจ้าชายแอนดรูว์และเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด)
และแล้ว ความรักของทั้งชาร์ลส์และไดอาน่าก็เติบโตอย่างรวดเร็วจากการพบผะกันบ่อยครั้งตามงานเลี้ยง ในเวลานั้น เลดี้ไดอาน่าอายุ 18 ปี เจ้าชายอายุ 30 ปี เป็นความรักครั้งแรกที่กำลังเบ่งบานและสุกงอมทั่วอังกฤษ ประชาชนให้ความสนใจคู่ควงคนใหม่คนนี้ของเจ้าชายอย่างถึงที่สุด และต่างให้หัวข้อว่า คนนี้รึเปล่าที่จะมาเป็นเจ้าหญิงคนใหม่?
ความสัมพันธ์ของทั้งคู่มาจนถึงจุดที่เจ้าชายต้องตัดสินใจ พระองค์ขอเลดี้ไดอาน่าแต่งงานเธอตอบตกลง ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 1981และนี่คือความสุขที่สุดวันหนึ่งในชีวิตของไดอาน่า
วันประกาศหมั้น เลดี้ไดอาน่าในชุดสีฟ้าน้ำเงินพร้อมเจ้าชายเคียงข้างกายดูเธอจะเป็นคนที่โชคดีที่สุดในตอนนั้นเลย
ในที่สุด ก็ถึงวันอภิเษกสมรส ในวันที่ 29 ก.ค.1981 ณ มหาวิหาร St.Paulมีการถ่ายทอดพิธีนี้ทางโทรทัศน์ทั่วโลก ทุกคนจับตามองเจ้าสาวของเจ้าชายกันอย่างไม่วางตา เลดี้ไดอาน่าสวมชุดแต่งงานฟูฟ่องสีขาวยาวสวยราวกับเจ้าหญิงในเทพนิยาย ได้เคียงคู่กับเจ้าชายว่าที่พระสวามี โดยเลดี้ไดอาน่าได้พระราชทานพระยศเป็น Her Royal Highness The Princess of Wales
ก่อนที่จะมีช่วงพระราชพิธีอภิเษกสมรส เคยมีปรากฏในเรื่องราวของเจ้าหญิงหลายเล่มว่ามีครั้งหนึ่ง ทั้งสองพระองค์จะต้องไปงานเลี้ยงตอนช่วงค่ำแห่งหนึ่งเนื่องจากเจ้าหญิงทรงยังเยาว์และไม่ประสีประสาเรื่องพิธีการหรือการแต่งองค์ไปงานจึงทรงเลือกชุดเดรสสีดำเกาะอกยาวมาสวมใส่
ครั้นเมื่อเจ้าชายเสด็จทอดเนตรก็ทรงกริ้วและบอกว่า เขาไม่ใส่ชุดดำซึ่งเป็นสีไว้ทุกข์กันในงานแบบนี้ครั้นจะกลับไปเปลี่ยนก็ทำไม่ได้แล้ว จึงต้องเสด็จไปทั้งอย่างนั้นในงานนี้เจ้าหญิงก็โดนวิพากษ์วิจารย์ถึงความไม่เหมาะสมจนรู้สึกเครียดแต่แล้วพระองค์ก็ได้พบกับเจ้าหญิงเกรซแห่งโมนาโค ผู้ซึ่งมาร่วมงานนี้ด้วยเจ้าหญิงเกรซทรงให้กำลังใจเจ้าหญิงไดอาน่าจนเรียกได้ว่า สร้างกำลังใจให้ได้มากทีเดียว
หลังจากพิธีอภิเษก เจ้าหญิงก็ได้ค้นพบว่าตนคงเป็นหญิงสาวสามัญชนที่โชคดีที่สุดแต่ทว่า ความสุขชั่วนิรันดร์แบบในเทพนิยายที่พระองค์ชอบนั้น ออกจะดูยาวไกลเหลือเกิน
เมื่อวันหนึ่ง ในช่วงฮันนีมูน ไดอาน่าค้นพบรูปถ่ายของพระสวามีกับผู้หญิงคนหนึ่งผู้หญิงคนนั้นมีนามว่า คามิลล่า ปาร์กเกอร์ โบว์ล ซึ่งเป็นเพื่อนหญิงคนสนิทและน่าจะเป็นคนเคยรักๆของชาร์ลส์ด้วย
แต่ถึงกระนั้น นอกจากเรื่องความขมขื่นที่พระสวามีทรงไม่เอาใจใส่เฉกเช่นก่อนแต่งงาน กฏระเบียบภายในวังก็ทำให้เจ้าหญิงเกิดความเครียดขึ้นมาทีละเล็กทีละน้อย จนพระองค์เกิดภาวะหนึ่งของโรคบูลิเมียขึ้นมา นั่นคือ พระองค์จะเสวยทีละมากๆแล้วหลังจากนั้นก็จะอาเจียนออกมาทันที ชีวิตในวังตามที่ฝันไว้ ไม่สวยหรูเสียแล้ว...
แต่แล้ว วันชื่นคืนสุขของเจ้าหญิงก็เกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อพระองค์ทรงตั้งครรภ์พระโอรสองค์แรก ยังความปลื้มปิติมาทั่วแผ่นดินอังกฤษ และในวันที่ 21 มิถุนายน 1982 เจ้าชายน้อยวิลเลี่ยม อาร์เธอร์ ฟิลืปป์ หลุยส์ ก็ประสูติ
ความสุขท่ามกลางมรสุมแห่งชีวิตช่างหอมหวานไม่เบาเลยการมีพระโอรสทำให้เจ้าหญิงเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขอีกครั้งแม้จะไม่ได้มาจากพระสวามี หากแต่ก็กล้ำกลืนฝืนทนความขมขื่นไว้ในใจและข่าวดีครั้งที่สองก็มาเยือน เมื่อเจ้าหญิงตั้งครรภ์ครั้งที่ 2 ในวันที่ 15 กันยายน 1984 เจ้าชายน้อยก็ประสูติ พระนามว่า เฮนรี่ ชาร์ลส์ อัลเบิร์ต เดวิด หรือที่เราเรียกพระองค์ว่าเจ้าชายแฮร์รี่
...การออกงานร่วมกันของพระองค์และหม่อมฉัน...
ทั้งสองพระองค์ยังคงออกงานตามที่มีหมายกำหนดการมาให้ในบางครั้งก็จะมีไปปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ณ ต่างประเทศแต่การไปเยือนประเทศต่างๆ กลับไม่ได้ทำให้ทั้งสองพระองค์สมานรอยร้าวในหัวใจของกันและกันได้เลย
ทรงเยือนประเทศไทยวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 1988เจ้าหญิงไดอาน่าได้สวมชุดราตรียาวสีม่วงออคิด สวยงามมากค่ะ
...ไม่มีอีกแล้ว ครอบครัวของเรา...
สำหรับสองเจ้าชาย การเฝ้าฝันให้พระบิดาและพระมารดากลับมาคืนดีกันคงเป็นไปได้ยากความสัมพันธ์ของทั้งคู่เปรียบดั่งรอยร้าวบาดลึกที่ไม่อาจจะเยียวยาและรอวันแตกกระจายพระบิดาไม่เคยมาเหลียวแล พระมารดาออกงานต่างๆตามลำพังรอยร้าวที่ว่า ใกล้จะมาถึงจุดแตกหักที่ไม่อาจนำภาพของครอบครัวอุ่นรักมาช่วยได้เลยทั้งหมดทั้งมวล นำไปสู่การ...หย่าร้าง
ทั้งสองพระองค์ประกาศแยกทางกันออกมาก่อนที่จะตามมาด้วยการหย่าร้างประกาศแยกทางกันวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 1996 ประกาศหย่าร้างวันที่ 28 สิงหาคม 1996
...ออกงานคนเดียว งานเพื่อสังคม...
เจ้าหญิงไร้เงาของเจ้าชายเคียงข้าง ทรงตัดสินพระทัยดำเนินงานเพื่อช่วยเหลือสังคมมากมายพระองค์รณรงค์การวางกับระเบิด การดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อน โรคเอดส์ ผู้ไม่มีที่อยู่อาศัย ผู้ยากไร้ต่างๆพระองค์เดินทางไปทั่วโลกเพื่อรับรู้ปัญหาทางสังคมและพยายามอย่างยิ่งที่จะช่วยเหลือพวกเขา
เจ้าหญิงได้เป็นประธานสมาคมการกุศลเกือบ 100 องค์กรแต่หลังจากที่ทรงหย่ากับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ก็เหลือแค่ 6 องค์กรสำคัญคือ
- องค์กรช่วยเหลือผู้ป่วยโรคเอดส์
- องค์กรช่วยเหลือผู้เร่ร่อนและไร้ที่อยู่
- องค์กรช่วยเหลือเด็ก
- องค์การวิจัยโรคมะเร็ง
- องค์กรช่วยเหลือผู้ป่วยโรคเรื้อน
- สมาคมบัลเล่ต์
เจ้าหญิงผู้ทรงขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าหญิงแห่งแฟชั่น ทรงมีฉลองพระองค์ไม่ต่ำกว่า 500 ชุด ไหนจะเครื่องประดับและอิสริยยศมากมาย แต่เมื่อพระองค์ได้เริ่มทำองค์กรการกุศล พระองค์ก็ทรงนำฉลองพระองค์ชุดต่างๆ 79 ชุดมาออกประมูลเพื่อหารายได้สมทบทุนให้กับสถาบันวิจัยโรคมะเร็ง ชุดงานอภิเษกสมรสของพระองค์ก็เช่นเดียวกัน และได้รับการประมูลเป็นเงินถึง 100 ล้านบาท
และภารกิจสุดท้านก่อนสิ้นพระชนม์ ก็คือ การเข้าร่วมองค์กรกาชาดสากลและสหประชาชาติ เป็นผู้นำในการต่อต้านการใช้ระเบิดทั่วโลก
... การแต่งกายคือการแต่งจิตใจให้ชื่นบาน ...
เจ้าหญิงโปรดปรานการแต่งองค์ในสไตล์ที่หลากหลายท่านคือเจ้าหญิงที่กล่าวได้ว่า เป็น The Most Iconic Princess of the World คนหนึ่งของโลก
ทุกงานที่ท่านปรากฏตัวพร้อมด้วยฉลองพระองค์สีสดใสแสนสวยนั้นจะกลายเป็นที่จับตามองแทบตลอดเวลาพระองค์ท่านได้รับการโหวตคะแนนเสียงจากอเมริกาว่าเป็นสุภาพสตรีที่แต่งกายได้ยอดเยี่ยมของโลกเพราะในแต่ละปีนั้นเธอจ่ายเงินสำหรับซื้อเสื้อผ้ามากถึง 300,000 เหรียญ หรือราวๆ 7 ล้านบาทไทยในขณะนั้น
จึงไม่แปลกใจที่ฉลองพระองค์ของท่านจะมีราคาของเสื้อผ้าต่างๆสะสมถึง 5.6 ล้านดอลลาร์ หรือ 190 ล้านบาทไทย
จากสถิติเมื่อปี พ.ศ.2523 ท่านมีเสื้อคลุมยาว 95 ตัว เสื้อชุด 176 ชุด ชุดสูท 178 ตัว เสื้อโค้ท 54 ตัว กางเกง 25 ตัวเสื้อแจ็กเก็ต 29 ตัว กระโปรง 29 ตัว สเวตเตอร์ 28 ตัว เสื้อคลุมสั้น 71 ตัว หมวก 141 ใบชุดเล่นกีฬาและสกีอีกมากมาย รองเท้าและบ็ทอีก 350 คู่ กระเป๋าถือ 200 ใบนั่นคือสถิติเมื่อ 26 ปีก่อนที่พระองค์จะสิ้นพระชนม์ ลองคำนวณดูคร่าวๆว่าปัจจุบันจะมีอีกจำนวนมากแค่ไหน
...จากวันนี้ ไม่มี Her Royal Highness Diana, Princess of Wales อีกแล้ว...
เป็นที่รู้กันว่าชีวิตในพระราชวังมีกฏระเบียบมากมาย ไหนจะขนบธรรมเนียมสารพัดผู้คนที่ดูเฉยชาและเย็นชา ทั้งข้าราชบริพารและเชื้อพระวงศ์ความเขินอายที่เธอมีในตอนแรกเริ่มเข้าวังทำให้ไดอาน่าดูเป็นคนไม่ค่อยกล้าพูดน้อย ส่วนมากจะยิ้ม และก้มหน้าเงียบๆยิ่งงานพระราชพิธีที่ต้องออกพร้อมกับครอบครัวฝั่งพระสวามีบางครั้งอาจทำให้อึดอัดไม่น้อย
แต่ถึงกระนั้น ครั้นพอมีพระโอรสองค์น้อยสองพระองค์ความสัมพันธ์ของทั้งสองฝั่งก็ดูเหมือนจะพอไปได้บ้าง
แรกเริ่มเดิมทีในวัยเยาว์ ทั้งไดอาน่าและเหล่าเจ้าชายได้เคยพบกันมาแล้ว ณ ตำหนักแซนดริงแฮม อันเป็นที่ประทับในฤดูหนาว และอยู่ในตำบลเดียวกับบ้านเกิดของไดอาน่า ทำให้เจ้าหญิงได้ทรงเคยเล่นกับเจ้าชายน้อยๆมาก่อน และเจ้าชายที่ทรงคอยให้กำลังใจมาเสมอก็คือ เจ้าชายแอนดรูว์
เจ้าชายแอนดรูว์เป็นพระอนุชาคนที่สองของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มีอายุราวคราวเดียวกับเจ้าหญิง ในวัยหนุ่ม สามหนุ่มใบเถาตระกูลวินด์เซอร์ เป็นที่หมายปองของบรรดาสาวๆทั่วอังกฤษ แต่น่าแปลก ที่ทั้งสามพระองค์ทรงมีพระชายามาจากครอบครัวสามัญชนทั้งสามคน (ไดอาน่า - ซาร่าห์ - โซฟี) (ราชวงศ์อังกฤษสมัยก่อนประสงค์จะให้สะใภ้หรือบุตรเขยเป็นเชื้อพระวงศ์เช่นเดียวกัน บ้างก็มาจากต่างประเทศ หรือแม้แต่ลูกหลานของคนในตระกูลเองก็เช่นกัน)
รูปคู่กับเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด
จะเห็นว่าในพิธีแต่งงาน ทั้งสองน้องเขยก็มาเป็น Best man ให้เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์
ครั้นเมื่อเจ้าชายแอนดรูว์ได้พบเจอกับว่าที่ชายาในอนาคต คือ ซาร่าห์ เฟอร์กูสันเจ้าหญิงไดอาน่าและซาร่าห์ก็ทรงมีความสนิทสนมกันในช่วงที่อยู่ในวังก่อนที่ทั้งสองพระองค์จะย้ายไปอยู่คนละตำหนัก
2 สะใภ้อังกฤษพูดคุยกันในเรื่องต่างๆ (สมัยนี้อาจใช้คำว่าเม้ามอย)
หรือแม้แต่สะใภ้คนสุดท้อง โซฟี ที่เข้ามาเป็นพระชายาเจ้าชายเอ็ดเวิร์ดในช่วงนั้น โซฟีและไดอาน่ามีลักษณะท่าทางที่คล้ายกันมากจนบางคนแอบจำสองพระองค์สับสนกันเลยทีเดียว
การเป็นเจ้าหญิงนั้นไม่ง่ายสำหรับใครๆเลย แต่สำหรับไดอาน่าพระองค์ทรงได้พิสูจน์แล้วว่าพระองค์งดงามทั้งกายและใจเป็นแม่ที่น่ารักของลูกชาย เป็นเจ้าหญิงผู้ทุ่มเทของปวงชน การที่เราเขียนเรื่องนี้ขึ้นมาก็เพื่อได้รำลึกถึงท่านท่านสิ้นพระชนม์และมีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลก เลยมีโอกาสได้ดูจำได้ว่าเป็นบรรยากาศที่เศร้ามาก สองเจ้าชายและเชื้อพระวงศ์เดินตามพระบรมศพพระองค์หลับใหลตลอดกาลในโลงที่คลุมธงเอาไว้ประชาชนสองฝั่งหลั่งน้ำตาไม่ขาดสายพระราชพิธีฝังพระศพยังคงมีในยูทูป เผื่อใครสนใจลองไปย้อนดูได้
ช่างเป็นบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความเงียบงันในความรู้สึกพระราชวังที่เคยประทับเต็มไปด้วยดอกไม้เป็นล้านๆที่ประชาชนพร้อมใจมาถวายพระองค์
คนดังมากมายตบเท้าเข้ามาถวายความอาลัย ในรูปคือทอม แฮงค์, สตีเว่น สปีลเบิร์ก, ทอม ครูซ, นิโคล คิดแมน ในวันนี้ เซอร์เอลตัน จอห์นก็มาร้องเพลงกล่อมเจ้าหญิงให้ฝันดีตลอดกาล (ทรงเป็นเพื่อนสนิทกัน)
จริงๆแล้ว เรื่องราวของเจ้าหญิงไดอาน่ายังคงมีอีกหลายต่อหลายแง่มุมที่ จขกท.ยกมานี่คือส่วนหนึ่ง ในฐานะที่ยกย่องพระองค์ในบทบาทของหญิงสาวสู้ชีวิตที่มีความอดทนอย่างมากกับทุกๆเรื่อง แม้มันจะยากลำบากแค่ไหนความอดทนของผู้หญิงคนหนึ่งที่รักผู้ชายคนหนึ่งโดยไม่มีเงื่อนไขกลับกลายเป็นความรักที่แค่ลวง แต่กระนั้นพระองค์ก็มีเพื่อนชายมากมายเช่นกัน
เขาว่ากันว่า เราควรมองคนหลายๆด้าน คนหนึ่งคน อาจก่อให้เกิดหนังสือเกี่ยวกับเขาได้หลายเล่มบางเล่มสรรเสริญเขา บางเล่มใส่ร้ายป้ายสีเขา เพราะฉะนั้น เราควรเปิดใจและทำความเข้าใจแต่ละแง่มุมน่าจะดีที่สุดหากท่านใดเคยไปอ่านเรื่องราวอีกแง่มุมจากในรอบรั้วอังกฤษ ก็อาจจะพบเจออีกรูปแบบหนึ่งก็ได้
เจ้าหญิงไดอาน่า แท้จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงธรรมดา ที่มีความรู้สึก นึกคิดเฉกเช่นคนทั่วไปบางการกระทำเราอาจไม่เข้าใจพระองค์ เช่นเดียวกันว่าเราไม่อาจรู้ข้อเท็จจริงได้แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น พระองค์ก็ยังคงเป็นต้นแบบของผู้หญิงที่เข้มแข็งอีกคนหนึ่งให้เราได้ศึกษาเราเรียนรู้บุคคลในประวัติศาสตร์เพราะต้องการจะศึกษา ทั้งแนวคิดและการกระทำให้เข้าใจ โพสต์นี้ก็มีจุดมุ่งหวังเพียงแค่ให้คนรุ่นหลัง (รวมถึงรุ่นเราที่ทัน) ได้รำลึกถึงท่านอีกครั้ง
🎀🌹✨

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา