เทียบราคาสตรีมมิ่งและความคุ้มค่า ประจำปี 2023
ภายในช่วงสัปดาห์เดียว สตรีมมิ่งใหญ่สองเจ้า Netflix และ Disney+ Hotstar ก็ประกาศข่าวช็อก โดย Netflix บอกว่า การแชร์รหัสผ่านให้คนที่ไม่ได้อยู่ในครัวเรือนเดียวกันนั้นสิ้นสุดลงแล้ว ไม่เช่นนั้นต้องจ่ายเพิ่มคนละ 99 บาท
ส่วน Disney+ Hotstar ก็ประกาศราคาใหม่แบบฟ้าผ่า โดยรวมมีการขึ้นราคาแบบก้าวกระโดดเกือบ 3 เท่า แต่ได้คุณสมบัติเพิ่มเติมจากเดิม เช่นการดูผ่านสมาร์ททีวี การแชร์จอได้มากขึ้น รวมถึงความละเอียดมากขึ้น
ทั้งหมดนี้ ทำให้ภาพรวมราคาสตรีมมิ่งในตลาดไทย เปลี่ยนแปลง TODAY Bizview จึงรวบรวมราคาของหลากลหายเจ้ามาให้เห็นภาพชัดขึ้น พร้อมเปรียบเทียบฟีเจอร์และความคุ้มค่า เพื่อประกอบการตัดสินใจกัน
ส่วนเรื่องคอนเทนต์ แต่ละเจ้ามีความเฉพาะตัวต่างกันออกไป Netflix ถือว่ามีคอนเทนต์หลากหลายครอบคลุมทุกแนว และมีคอนเทนต์ที่ผลิตจากหลายประเทศ ส่วน Disney+ Hotstar ชัดเจนว่าเน้นที่คอนเทนต์จากดิสนีย์ และมาร์เวล ที่คนทั่วโลกคุ้นเคยและชื่นชอบมาตั้งแต่รุ่นก่อน ซึ่งในช่วงหลังก็พยายามเพิ่มความหลากหลายด้วยคอนเทนต์เกาหลี คอนเทนต์ไทย
ส่วน HBO Go นั้น เน้นที่หนังซีรีส์ฝรั่งเต็มๆ ที่สำคัญยังมีคอนเทนต์คุณภาพที่เป็นขวัญใจคนรักการดูซีรีส์ทั่วโลกอย่าง Game of Thrones, House of the Dragon, Last of Us เป็นต้น
Prime Video เป็นน้องใหม่ที่เพิ่งเข้าไทยได้ไม่นาน แต่ก็สามารถตีตื้นเพิ่มคอนเทนต์เกาหลี และอนิเมะเข้ามาเรื่อยๆ จากเกิมที่มีคอนเทนต์ฝรั่งเป็นจุดเด่นอยู่แล้ว
ส่วน Apple TV+ ที่อาจไม่เห็นการโปรโมทในไทยมากนัก ก็ใช้จุดเด่นจากการที่เป็นเจ้าของฮาร์ดแวร์ Apple ยื่นข้อเสนอการใช้งานที่พิเศษกว่าคนที่ไม่ใช้ใช้อุปกรณ์ Apple
สตรีมมิ่งในไทยนอกจาก 5 เจ้าที่กล่าวถึงด้านบนแล้ว ยังมีอีกหลายแพลตฟอร์ม เช่น VIU ที่เด่นเรื่องคอนเทนต์เกาหลี, IQIYI กับ WeTV ที่เน้นคอนเทนต์จีน เป็นต้น
#TODAYBizview
#MakeTomorrowTODAY
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
