พอโตเป็นผู้ใหญ่ ประสบการณ์มักจะหล่อหลอมและแช่แข็งให้เรามีชุดความเชื่อว่า สิ่งนี้ทำได้-สิ่งนั้นทำไม่ได้
1
เมื่อคิดว่ารู้คำตอบอยู่แล้ว เราจึงเลิกตั้งคำถาม
พอปิดกั้นความเป็นไปได้ใหม่ๆ แต่ละวันจึงตายตัวและวนลูป
หากเราไม่โอเคกับสภาพที่เป็นอยู่ สิ่งที่ควรถามก็คือ "เราอยากใช้ชีวิตแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน?"
1
ถ้าคำตอบคือ "ไม่ได้อยากเป็นแบบนี้ตลอดไป" นั่นคือสัญญาณว่าเราควรทำอะไรต่างไปจากเดิม
แล้วเสียงในหัวก็จะเถึยงขึ้นมาอีกว่า ก็มันเลือกไม่ได้นี่
จริงๆ แล้วเราสามารถเลือกได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน เรื่องเงิน เรื่องครอบครัว เรื่องความรัก ที่คิดว่าเราเลือกไม่ได้ เพราะเรากลัวผลลัพธ์ที่จะตามมา
สมมติว่างานปัจจุบันนั้นไร้ความสุขและไร้อนาคต แต่เราก็ไม่ยอมเปลี่ยนงาน เพราะว่ามีภาระต้องดูแล เราจึงบอกว่าไม่มีทางเลือก แต่แท้จริงแล้วเราเลือกที่จะเปลี่ยนงานได้ถ้าเราพร้อมรับความเสี่ยง เช่นงานใหม่ไม่เวิร์ค ได้เงินน้อยกว่าเดิม ไม่ได้มีหน้ามีตาเท่าเดิม ไม่สามารถดูแลคนที่เรารักได้ดีเหมือนแต่ก่อน
แน่นอนว่าไม่ได้ง่าย แต่ในทางปฏิบัตินั้นเป็นไปได้ถ้าเราพร้อมเผชิญหน้ากับมัน
โจทย์จึงไม่ได้อยู่ที่เราขาดแคลนทางเลือก โจทย์อยู่ที่เราขาดแคลนความกล้า
3
เมื่อเรานิยามโจทย์เสียใหม่ ความเป็นไปได้ก็จะเริ่มเปิดกว้าง เราจะเริ่มตั้งคำถามและมองหาทางออก แทนที่จะพร่ำบอกตัวเองว่ามันคือทางตัน
คิดให้ดี คิดให้ถี่ถ้วน หากสุดท้ายได้ข้อสรุปเหมือนเดิมก็ไม่เห็นเป็นไร โลกกำลังหมุนไว เดือนหน้ากลับมาคิดใหม่ก็อาจได้ข้อสรุปที่แตกต่าง
เราชอบคิดว่าเราไม่มีทางเลือก
แต่ถ้าเรากล้าตั้งคำถาม และกล้าเผชิญผลลัพธ์ที่ตามมา เราจะรู้ตัวว่าเรามีทางเลือกเสมอครับ
26 ถูกใจ
6 แชร์
3.9K รับชม
แสดงความคิดเห็นของคุณ...
  • 26
    โฆษณา