26 ก.ย. 2023 เวลา 13:28 • ข่าว

ตำรวจอังกฤษนับร้อยขอปลดอาวุธตัวเอง

หลังเพื่อนตำรวจถูกตั้งข้อหาฆาตกรรม ยิงแรพเปอร์คาด่านตรวจ
ดราม่าในวงการตำรวจ ไม่ได้มีแค่ในเมืองไทย ที่เมืองผู้ดี ประเทศอังกฤษเขาก็มีเหมือนกันนะเออ
3
เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีรายงานข่าวจากสื่ออังกฤษว่า ตำรวจลอนดอนมากกว่าร้อยนาย ขอปลดอาวุธตัวเอง ด้วยการคืนใบอนุญาติพกพาอาวุธปืนระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ให้แก่กรมตำรวจ หลังจากที่เพื่อนตำรวจคนหนึ่ง ถูกตั้งข้อหาฆาตกรรม จากเหตุยิงวิสามัญนาย คริส คาบา แรพเปอร์หนุ่มผิวสี วัย 24 ปี เพราะเข้าใจผิด เมื่อช่วงเดือนกันยายน 2022 จนสร้างกระแสไม่พอใจต่อการกระทำที่เกิดกว่าเหตุของตำรวจอังกฤษ
3
คดีของ คริส คาบา เกิดขึ้นเมื่อ 5 กันยายน ปีที่แล้ว เมื่อตำรวจได้เรียกให้ คริส คาบา หยุดรถเพื่อตรวจค้นขณะที่เขาขับรถ Audi Q8 ผ่านด่านตรวจที่เมืองสตรีทแฮม ฮิลล์ ชานกรุงลอนดอน
ซึ่งทางตำรวจลอนดอนยอมรับว่าไล่ติดรถ Audi ของ คริส คาบา และบังคับให้จอดที่ด่านตรวจ เนื่องจาก เป็นรถต้องสงสัยว่าพัวพันกับเหตุยิงกันในเมืองก่อนหน้านี้ 1 วัน โดยกลุ่มเพื่อนร่วมแก๊งค์ของเขา
แต่เมื่อตำรวจสั่งให้คริส คาบา ลงจากรถเพื่อตรวจค้น เจ้าตัวปฏิเสธ ไม่ยอมลงจากรถ แถมขับรถพุ่งเข้าหารถตำรวจอีกคันของเจ้าหน้าที่ติดอาวุธ ทำให้ตำรวจนายนั้น ที่ตอนนี้ระบุเพียงนามแฝงว่า NX121 ตัดสินใจยิงสวนไป 1 นัด ทะลุกระจกรถโดนคริส คาบา เข้าที่ศีรษะพอดี ทำให้เขาเสียชีวิตในเวลาต่อมา
3
โดยเหตุการณ์ที่ด่านตรวจมีพยานรู้เห็น และยืนยันว่าคริส คาบา ขับรถพุ่งไปหารถตำรวจจริง
3
แต่เมื่อนำคดีขึ้นศาลอังกฤษ วันนี้ได้พิจารณาตั้งข้อหา NX121 ตำรวจผู้ก่อเหตุในความผิดฐานฆาตกรรม ที่ทำให้กลุ่มเพื่อนตำรวจลอนดอนจำนวนไม่น้อย รู้สึกใจฝ่อ ท้อแท้ ในการปฏิบัติหน้าที่ หากวันหนึ่งเกิดต้องตกอยู่ในสถานการณ์บีบคั้นให้ต้องตัดสินใจ ทำดีก็แค่เสมอตัว แต่ถ้าตัดสินใจผิด ก็ติดคุกอย่างเดียว
8
กรณีตำรวจยิงผู้ต้องสงสัย ไม่ว่าจะเป็นเหตุสุดวิสัย ตั้งใจวิสามัญ หรือ เพราะเข้าใจผิด มักเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันอยู่เสมอ กับขอบเขตการตัดสินใจของเจ้าหน้าที่ผู้ได้รับสิทธิ์ติดอาวุธ ว่าทำอย่างไรจึงจะเรียกว่าไม่ล้ำเส้นจนกลายเป็น License to Kill ฆ่าได้อย่างไม่ผิดกฎหมาย ซึ่งกรณีนายตำรวจ NX121 ก็มีทั้งกลุ่มผู้ประนาม และ กลุ่มที่เห็นใจตำรวจ
2
แต่ทว่า เมื่อกลุ่มตำรวจติดอาวุธของอังกฤษนับร้อยประกาศปลดอาวุธตัวเอง ที่บางส่วนอาจเพราะน้อยใจที่เหตุสุดวิสัยจากการปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้รับการคุ้มครอง แต่แล้วคนที่เข้ามาราดน้ำมันเติมไฟให้ดราม่านี้ลุกโชนยิ่งขึ้นไปอีก กลับเป็น ซูเอลลา เบรเวอร์แมน รัฐมนตรีมหาดไทยของอังกฤษ
3
โดย ซูเอลลา เบรเวอร์แมน ได้มาโพสต์ความเห็นของเธอลงใน ทวิตเตอร์ X แสดงจุดยืนเคียงข้างตำรวจติดอาวุธ ว่าเป็นที่พึ่งของประชาชนในสังคมที่เต็มไปด้วยอันตราย และ ความรุนแรง แสดงความเห็นใจงานพิทักษ์สันติราษฎร์ เป็นงานที่กดดันสูง และต้องตัดสินใจให้ขาดภายในเสี้ยววินาที อีกทั้งยังย้ำให้ตำรวจอย่างเพิ่งกลัวที่จะปฏิบัติหน้าที่ และเธอก็พร้อมจะทำทุกอย่าง ตามอำนาจที่เธอมีสนับสนุนเจ้าหน้าที่ทุกคนอย่างเต็มที่เช่นกัน
2
ซึ่งขอบเขตอำนาจที่เธอมีตอนนี้คือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย!!!
ถึงแม้จะมีชาวอังกฤษแท้ๆ จำนวนไม่น้อยเห็นใจเจ้าหน้าที่แต่ ไม่ใช่ทุกคนที่เห็นด้วยกับรัฐมนตรีมหาดไทยหญิง ที่ออกมาแสดงความเห็นในเรื่องนี้
4
เพราะ มันได้ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย ในช่วงเวลาที่คดียังอยู่ในชั้นศาล ก็ต้องว่ากันด้วยพยานหลักฐานอย่างตรงไป ตรงมา เพื่อความกระจ่างในสังคม
2
แต่เมื่อ รมต.หมาดไทย ออกมาโพสต์ข้อความที่คล้ายการชี้นำสังคม และลงความเห็นว่าเจ้าหน้าที่ตัดสินใจในสถานการณ์นั้นเหมาะสม และยังย้ำถึงสังคมที่อันตราย และ การใช้ความรุนแรง ที่ตำรวจมีหน้าที่ปกป้องประชาชน ถึงจะไม่พูดตรงๆ แต่ก็สื่อเป็นนัยได้ว่าผู้ตายเป็นฝ่ายที่ใช้ความรุนแรงนั้น
นอกจากนี้ ยังมีข่าวว่า ฝ่ายกลาโหมประกาศว่า พร้อมจะส่งกำลังทหารพร้อมอาวุธมาเสริมให้ที่ลอนดอน เมื่อมีตำรวจติดอาวุธหลายนายขอสละสิทธิ์การใช้อาวุธปืน ให้กรุงลอนดอนมีเจ้าหน้าที่ติดอาวุธเพียงพอที่จะสร้างความอุ่นใจให้กับประชาชน
3
ซึ่งการเคลื่อนไหวที่สอดรับกันของคนในกรมตำรวจ รัฐบาล และ กองทัพ แทนที่จะดูเป็นทีมเวิร์ค กลับทำให้ชาวอังกฤษเริ่มไม่แน่ใจหนักกว่าเดิมอีกว่า บ้านเมืองของเราเป็นเมืองที่ปลอดภัยจริงหรือเปล่า??
2
จากข้อมูลจาก BBC รายงานว่าในกรุงลอนดอน มีตำรวจอยู่ราว 34,000 นาย ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ได้พกอาวุธปืน และในจำนวนนั้น มีเพียง 2400 นายเท่านั้นที่ได้รับบทบาทให้เป็นเจ้าหน้าที่ติดอาวุธ ที่ต้องพกพาอาวุธขณะปฏิบัติหน้าที่ แต่โดยตามหลักกฎหมายแล้ว สามารถใช้อาวุธในเหตุเพื่อป้องกันตัวเอง เพื่อนร่วมงาน และ ประชาชนเท่านั้น ซึ่งถ้าสามารถพิสูจน์เจตนาได้ ไม่ถือเป็นการก่ออาชญากรรม
2
แต่หลายครั้งที่มักเกิดกรณีที่ก้ำกึ่ง ความรุนแรงในสังคมมีมากขึ้น ความซับซ้อนเหตุการณ์ก็มากขึ้นตามยุคสมัย รวมถึงมุมมองในประเด็นเรื่องความรุนแรงของมนุษย์ด้วยเช่นกัน
1
****************
ติดตามบทความของ "หรรสาระ" เพิ่มเติมได้ที่
Facebook - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
Twitter - @HunsaraByJeans
Blockdit - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
แพลทฟอร์มคุณภาพ ไม่ปิดกั้นการมองเห็นเนื้อหา
****************
 
แหล่งข้อมูล
โฆษณา