EP : 1,236 MW วิปลาสฆาตกร
ผมไม่ค่อยเห็นผลงานแนว “ฆาตกรรม” ของ อ.Tezuka Osamu ในตลาดเท่าไหร่นัก เท่าที่จำได้จากที่อ่านงานของ อ. มา หากมีการนำเสนอเรื่องราวแนวฆาตกรรม ก็มักจะหยิบไปใช้เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวแนวอื่นซะเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ตัวผมเองนึกไม่ออกจริงๆว่าเคยอ่านมังงะที่มีเนื้อหาและการเล่าเรื่องแนวนี้มาก่อน จากเรื่องไหนบ้างหรือเปล่าครับ
เพราะผมนึกไม่ออกจริงๆ ทำให้สำหรับผมแล้ว นี่อาจจะเป็นเรื่องแรกของผลงาน อ. ที่ผมได้อ่านงานแนว ฆาตกรรมและฆาตกร แบบเต็มๆก็ได้ กับเรื่องราวของจิตใจมนุษย์อันแสนหยั่งลึก กับการฆาตกรรมที่มีจุดมุ่งหมาย ด้วยเบื้องหลังที่อิงกับเหตุการณ์ใหญ่ อันส่งผลถึงจิตใจของมนุษย์คนนึงตลอดไป ใน “MW วิปลาสฆาตกร”
แต่ก่อนจะเข้าเนื้อหาเรื่อง “MW วิปลาสฆาตกร” ผมจะบอกว่าหนังสือเล่มนี้ไม่ใช่มีเรื่องสนุกแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวนะครับ ยังประกอบไปด้วยมังงะเรื่องสั้น(ที่บางเรื่องก็มีเนื้อหาเยอะใช่ย่อย) อีก 3 เรื่องด้วยกัน ทำให้เล่มนี้มีผลงานของ อ. รวมอยู่ถึง 5 เรื่องครับ และพอเป็นอย่างนั้นผมก็เลยต้องรีวิวแยกทั้ง 5 เรื่องนี้เพื่อให้ทุกท่านพอเข้าใจภาพกว้างว่าแต่ละเรื่องพูดถึงอะไร และผมขอเริ่มต้นด้วยเรื่องเอก ที่มีชื่อเดียวกับหนังสือเล่มนี้ครับ
“MW วิปลาสฆาตกร”
>
บาทหลวงหนุ่ม “กาไร” ต้องตกใจผวาอีกครั้ง เมื่อรู้ว่าชายคนนั้นได้เข้ามาสารภาพบาปในโบสถ์ที่เขาอยู่อีกครั้ง ใช่ ... ชายคนนี้ได้สารภาพว่าเขาเพิ่งได้ ฆาตกรรม พ่อลูก คู่หนึ่งมาและกำลังหนีการตามล่าของตำรวจที่แกะรอยจะมาถึงโบสถ์แห่งนี้ในไม่ช้า ...
“ทำไมนายถึงมาสารภาพบาปกับฉันละยูกิ” ... “เพราะรู้ว่านายไม่มีวันส่งตัวฉันให้กับตำรวจแน่ไงละ ... กาไร” เรื่องราวเลวร้ายที่เกิดขึ้นและกำลังจะเกิดต่อไป กับความสัมพันธ์ของชาย 2 คนที่มีอดีตอันเลวร้ายร่วมกัน เรื่องราวฆาตกรรม การหักหลังและความรุนแรงใน “MW วิปลาสฆาตกร”
แม้จะไม่มีข้อกังขาในเรื่องฝีมือการนำเสนอของ อ. แต่ผมต้องบอกว่า ผมแปลกใจไม่น้อย ที่ อ. เล่าเรื่องแนว ฆาตกรรม เพียวๆ ออกมาได้ทันสมัยและซับซ้อนได้ขนาดนี้ ซึ่งมาคิดดูแล้ว ก็อาจเป็นเพราะปกติ งานของ อ. เกือบทุกเรื่องมักจะผสมผสานเนื้อหาหลายๆแนวเข้ามาใช้ในการเล่าเรื่องอยู่เสมอ ทำให้เนื้อหาในเรื่องนี้นอกจากลึกในแง่ของนำเสนอจิตใจมนุษย์ มันยังสนุกและซับซ้อนจากหลายๆเหตุและผล องค์ประกอบ ที่ อ. ใส่เข้ามาเพื่อชูรสให้ความน่ากลัวจากการฆาตกรรมมันดูโดดเด่นและมีมิติเอามากๆ
ด้วยการสร้างตัวละครที่ความซับซ้อนในแง่จิตใจอย่าง “ยูกิและกาไร” แต่มีความชัดเจนในแง่บุคลิก เมื่อนำเสนอเรื่องราวทับซ้อนในแง่ความสัมพันธ์ในแบบโลกยุคใหม่เข้าไป มันทำให้เรื่องนี้ทั้งดูทันยุคและดูใกล้ตัวคนอ่านอย่างผม ที่อยู่ในสภาพสังคมปัจจุบันอันซับซ้อน
ทั้งๆที่เรื่องนี้เขียนเอาไว้ช่วงปี 1978 แต่ผมพบว่า อ. ยังคงล้ำหน้าด้วยเนื้อหาและการผูกเรื่องที่ล้ำสมัยไปไกลกว่าตอนที่เขียนมาก ความล้ำมันไม่ใช่เรื่องของแม้สภาพแวดล้อมและสังคมในเนื้อหาแต่กลับเป็นการนำเสนอความสัมพันธ์เชิงเพศระหว่างชายและชายเข้ากับความเชื่อทางศาสนาด้วยสถานะทางสังคมของทั้งคู่ ด้วยอาชีพ ที่พัวพันกับความผิดชอบชั่วดี
ผมชอบการออกแบบและการวางความสัมพันธ์ของสองตัวเอกมาก มันซับซ้อนแต่ก็นำเสนอให้ออกมาเข้าใจได้ง่ายๆ ทั้งปูมหลังทั้งความเกี่ยวข้องที่ดึงให้เรื่องมันวิ่งไปถึงแต่ละจุด ดูเนียนตาและน่ากลัวไปพร้อมๆกัน อึดอัดในอารมณ์ของ 2 ตัวละครที่ไม่ค่อยได้เห็นในงานมังงะในยุคเดียวกัน และยิ่งความสัมพันธ์แบบนี้แล้วละก็ น่าจะไม่มีเรื่องไหนกล้าหยิบมานำเสนอแบบนั้นในยุค 70 ครับ
ตัวเรื่องเล่าได้อย่างรวดเร็ว มีความกระชับ และมีที่มาที่ไป เพื่อสร้างความสมเหตุสมผล ให้กับการกระทำและจุดมุ่งหมายที่ดูโหดร้าย แม้จะดูง่ายไปหน่อยในหลายๆเหตุการณ์แต่หากมองภาพรวมผมถือว่า อ. ผูกเอาไว้ได้อย่างดี ช่วยให้การเล่าเรื่องมันลื่นไหนไปได้อย่างสนุก
ด้วยเนื้อหาที่สมจริงในส่วนตัวละครและการโยงเรื่องที่เข้าสไตล์ที่ อ. ถนัดได้ดี เรื่องนี้มีเนื้อหาและการนำเสนอที่ถูกใจผม ถือว่าเป็นเรื่องที่อ่านสนุกมากกว่าที่คิด และทำให้อยากอ่านงานของ อ. แนวนี้อีกเยอะๆเลยครับ ที่สำคัญตอนจบชวนคิดมากครับ
.
.
“ภูเขาไฟ”
เพราะเคยมีประสบการณ์ทำนองนี้มาในตอนเด็ก เหตุการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นมารอบๆเมืองอาบุตะ ที่ “มิมะสึ” หัวหน้านายไปรษณีย์อาศัยอยู่นี้ ทำให้เขาจับตามองด้วยความกังวล และแบบนั้นเขาจึงทำการว่าจ้างชายแปลกหน้าที่เพิ่งเข้ามาอาศัยในเมืองนี้ ทำการสำรวจภูเขาที่อยู่ในเมืองร่วมกับเขา เพราะเขามั่นใจว่า ปัญหาใหญ่กำลังจะเกิดขึ้นในเมืองแห่งนี้
ในแง่เนื้อหาเรื่องนี้ถือว่าไม่เข้าพวกกับเรื่องราวอีก 4 เรื่องที่อยู่ในเล่มนี้ เพราะเนื้อหามันคือการเล่าถึงชีวประวัติคุณมิมะสึ มาซาโอะ ชายผู้สำรวจภูเขาโชวะ ที่เกิดปัญหาการปะทุของภูเขาในอดีต ซึ่งแตกต่างจากเรื่องอื่นๆที่พูดถึงแนวฆาตกรรมครับ
แต่ไม่ได้หมายความว่าเรื่องนี้ไม่สนุกนะครับ เพราะการดัดแปลงที่ดี การวางตัว
ละครที่ทำออกมาได้น่าสนใจมาก เรื่องนี้แม้จะมีความเป็นกึ่งสารคดีชีวประวัติ แต่เต็มไปด้วยรายละเอียดที่น่าจดจำเอามากๆ โดยเฉพาะบุคลิกของตัวละครที่เสริมเข้ามา ช่วยให้เรื่องนี้น่าสนใจมากๆ ว่าทำไม อ. ถึงสร้างเขาคนนั้นให้มีบุคลิกออกมาแนวนั้น
ส่วนตัวชอบมากทั้งงานภาพ เนื้อหาและการเล่าเรื่อง อ่านแล้วประทับใจในสิ่งที่คุณมิมะสึได้ทำเพื่อส่วนรวมของญี่ปุ่นไป ซึ่งมีส่วนสำคัญในเรื่องราวเกี่ยวกับภูเขา รู้สึกได้เลยว่าสังคมต้องมีคนแบบนี้อยู่บ้างครับ ชอบสุดๆครับเรื่องนี้
.
“บันทึกของปีเตอร์ เคอร์เทน”
วางเพลิง 6 คดี พยายามค่า 12 คดี ฆาตกรรม 4 คดี เหล่านี้เกิดขึ้นจากฝีมือคน คนเดียว และเป็นคนที่ตำรวจในเมือง ดุสเซลดอร์ฟ กำลังต้องการตัวมากที่สุด เพราะนอกจากผลการกระทำข้างต้นที่ทำไว้แล้ว มันคนนี้ยังมีพฤติกรรมส่งจดหมายสถานที่ที่เขาได้ทิ้งศพของเหยื่อให้กับตำรวจอีกด้วย การกระทำที่เสมือนท้าทายตำรวจโดยตรงแบบนี้ ทำให้ตอนนี้เหล่าตำรวจพยายามตามล่าเขาคนนี้อย่างสุดความสามารถ
แต่...แม้พวกตำรวจจะระดมคนและสามารถจับผู้ต้องสงสัยได้เป็นร้อย ก็ยังไม่พบฆาตกรตัวจริงเลย สร้างความปวดหัวและเจ็บใจให้กับเหล่าผู้เกี่ยวข้อง รวมถึงความรู้สึกว่าจะต้องมีคนตายเพิ่มขึ้นหากพวกเขายังหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษไม่ได้
“สถานีตำรวจใช่ไหมคะ รองสารวัตรลูเธอร์ อยู่ไหมคะ” ประโยคคำพูดนี้ ที่โทรเข้าสถานีตำรวจ กำลังจะเปิดเผยตัวตนของฆาตกรที่มีตัวตนอยู่จริงในหน้าประวัติศาสตร์ ใน “บันทึกของปีเตอร์ เคอร์เทน”
.ในแง่เนื้อหาเรื่องนี้เกาะกลุ่มเข้ากับอีก 4 เรื่องได้ดี เพราะมันคือเรื่องราวที่มีการเล่าเกี่ยวกับการ ฆาตกรรม เหมือนกัน แต่หากมองในแง่เนื้อเรื่อง เรื่องนี้เกาะกลุ่มกับเรื่อง “ภูเขา” เพราะเป็นเรื่องเล่าเกี่ยวกับชีวประวัติ เพียงแต่ เรื่องภูเขา นั่นคือชีวประวัติของคนที่น่ายกย่อง แต่กับเรื่องนี้ คือชีวประวัติของฆาตกรที่ไม่ควรเกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้
เนื้อหาเล่าเรื่องราวในช่วงที่เขาใช้ชีวิตตอนโตอยู่ในเมือง เป็นการเล่าที่ไม่ซับซ้อน ถือว่าเป็นการเล่าที่ไม่ได้โหดร้ายหรือทารุณอะไรมาก แต่ก็สร้างความรู้สึกว่าเขาคือฆาตกรโหดให้รับรู้ได้อยู่ดี เนื้อหาผสมกันระหว่างเรื่องราวคดีที่ดำเนินไป และ การใช้ชีวิตของเขากับครอบครัวที่ดูเหมือนอบอุ่น ผมชอบตัวละครภรรยาของเขา ในฐานะที่ทั้งรักตัวเขาและต้องรับผิดชอบในทางสังคมครับ ภาพรวมเป็นเรื่องที่กระชับ เข้าใจง่าย แต่ก็หนักดีครับ
.
.
“ค่ำคืนอันหมองหม่น”
เพราะคำล่ำลือถึงหญิงสาวที่ไม่มีวันแก่ ... เขาจึงยอมเสียเงินเสียทองมากมายเพื่อมาถึงจุดจุดนี้ ที่จะได้มีอะไรกับเธอ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่หนุ่มมากรักและร่ำรวยอย่างเขาชื่นชอบ มันก็คงเหมือนการซื้อกินที่เขาเคยได้พบมา เพียงแต่ว่า มันมีเรื่องราวมากกว่านั้น เรื่องของเธอผู้นี้ที่เฝ้ารอคนอย่างเขามาหา
เรื่องนี้เริ่มต้นได้อย่างน่าสงสัย มีกลิ่นแฟนตาซีหน่อยๆกับสิ่งที่เขาใส่มาให้เราได้อ่านในช่วงแรก ก่อนที่จะพบว่ามันเป็นการหักมุมแบบนึง ที่ทำออกมาได้ดี และไม่คิดว่าจะออกมาแบบนี้ เนื้อหาไม่ยาว อาจจะทำให้เรื่องมันดูห้วนๆไปหน่อย แต่ก็ถือว่าสร้างเรื่องราวชวนให้ติดตามอยู่ครับเรื่องนี้
.
“ณ คฤหาสน์แห่งไรน์”
ตามสามีย้ายไปทำงานที่ยุโรป... ชีวิตของคู่สามีภรรยาของพวกเขา ควรจะมีความสุขกับชีวิตท่ามกลางประเทศที่พัฒนาแล้ว แต่มันกลับไม่เป็นอย่างนั้น เพราะเธอเริ่มจับได้ว่าเขามีผู้หญิงคนใหม่ และกำลังจะทิ้งเธอให้เคว้งอยู่ในประเทศที่ไม่ใช่ประเทศแม่ของเธอ แต่นั้นยังเลวร้ายไม่พอ เพราะเธอกำลังจะพบเจอเรื่องหนักกว่า ที่เธอไม่ได้รับรู้เลยว่า ทุกอย่างมันเริ่มต้นขึ้นจากวันนั้น วันที่เขาและเธอได้ไปเดินเล่นกันในปราสาทเก่าแห่งหนึ่งข้างแม่น้ำไรน์ ....
เรื่องนี้ถือว่าสั้นที่สุดในบรรดา 5 เรื่องในเล่มนี้ครับ และหากมองในแง่เนื้อหา ผมอาจจะชอบเรื่องนี้น้อยที่สุดด้วย ด้วยปมและการนำเสนอที่แม้จะชวนติดตาม แต่ก็เดาได้ไม่ยาก เพียงแต่คำตอบที่ได้ถือว่าแปลกไม่น้อยสำหรับผม ซึ่งนั่นก็ไม่ได้ทำให้ผมประทับใจเท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะเพิ่งอ่าน 3 เรื่องข้างต้นที่ถูกใจมากๆมาแล้ว พออ่านเรื่องนี้ต่อเนื่องเลยรู้สึกดร๊อปด้วยความชอบส่วนตัวก็ได้นะ แต่ภาพรวมคืออ่านได้ง่าย วางปมไว้ให้ชวนติดตามครับ
นี่คือทั้ง 5 เรื่องที่อยู่ในมังงะ “MW วิปลาสฆาตกร” เล่มนี้ ภาพรวมถือว่าเป็นเล่มที่คลุมโทนออกมาในมังงะแนวฆาตกรรมเป็นหลัก แม้เรื่อง ภูเขา อาจจะยกเว้นไว้ก็ตาม แต่ละเรื่องมีความสนุกกันทั้งนั้น ตามที่ผมบอกไปในแต่ละตอนว่าชอบไม่ชอบอะไรตรงไหน ซึ่งภาพรวมคือเป็นเล่มที่อัดแน่นด้วยเรื่องราวชวนอ่านมากครับ
“MW วิปลาสฆาตกร” เป็นอีกหนึ่งผลงานของ สนพ ไพเรทอย่าง OLD BOY comic ซึ่งเป็นอีกค่าย ที่นำเสนองานน่าสนใจออกมาอยู่เสมอ ถือเป็นขาประจำอีกค่าย ที่ผมมักหยิบจับงานมาอ่านและรีวิวไว้ในเพจนี้ โดยในครั้งนี้ทาง สนพ ทำตัวเล่มออกมาแบบ 2 เล่มจบ ด้วยขนาดเล่ม BB หยิบจับและอ่านได้สบายตา
เล่มนี้ยังคงทำออกมาแบบปกสองชั้น ปกนอก พิมพ์ภาพสี บนพื้นสีขาว ออกแบบเรียบๆ ส่วนปกในใช้ภาพเดียวกับปกนอก เพียงแต่พิมพ์เป็นภาพสองสีบนกระดาษสีเนื้อไล่โทน ตัวเล่มเปิดอ่านแบบญี่ปุ่น เล่ม 1 มีภาพสี 1 หน้า นอกนั้นเป็นภาพขาวดำทั้งหมด งานพิมพ์ถือว่าทำออกมาได้ดีคมชัดตามมาตรฐาน พิมพ์บนกระดาษกรีนรีด แปลไทย อ่านได้สนุกและเข้าใจดี ภาพรวมถือว่ายังคงทำออกมาได้ดีตามเดิม ไม่มีปัญหาอะไรให้ตำหนิครับ
เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่ผมคิดว่าน่าสนใจและอยากแนะนำให้อ่าน อาจจะเพราะผมไม่ค่อยเจองานของ อ. ที่ทำออกมาแนวนี้เป็นหลักด้วยมั้งครับ ซึ่งพอได้อ่านแล้วรู้สึกว่าทำออกมาได้ดีเลยมองว่าเรื่องนี้น่าสนใจสำหรับคนอื่นเหมือนกัน แนะนำครับ ทั้งคนชอบและไม่ชอบแนวนี้ รวมถึงเป็นแฟนงานของ อ. ด้วยเช่นกัน เป็นอีกเล่มที่อ่านเพลินครับ
ภาพ 8.9/10
เรื่อง 9/10
ความประทับใจ 9/10
#Manga #รีวิวการ์ตูน #จบ #2เล่มจบ #OldboyComic #การ์ตูนแนวฆาตกรรม #การ์ตูนแนวชีวประวัติ #MangaAnimeReviews #การ์ตูนแนวสืบสวนสอบสวน #9คะแนน #MWวิปลาสฆาตกร #หนังสือการ์ตูน #Rate15 #การ์ตูนแนวรวมเรื่องสั้น #เธอๆอ่านเรื่องนี้หรือยัง
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
