Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Right Style by Bom+
•
ติดตาม
28 ก.ค. 2024 เวลา 05:06 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
“สงครามชิป” อเมริกา-จีน (อัพเดท กรกฎาคม 2024)
การควบคุมการส่งออกเทคโนโลยีชิปของอเมริกา อาจเป็นประโยชน์ต่อจีนในระยะยาว
ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่าง อเมริกา-จีน เพิ่มมากขึ้นตั้งแต่ปี 2022 รัฐบาลของไบเดนได้ออก “มาตรการควบคุมการส่งออกเทคโนโลยีชิป” ไปยังจีน วัตถุประสงค์ที่บอกไว้ในมาตรการคือ “เพื่อป้องกันไม่ให้จีนได้รับความสามารถด้านปัญญาประดิษฐ์ (ที่มาจากเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูง) ที่สามารถใช้เพื่อพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และอาวุธทั่วไปของจีนให้ทันสมัย”
1
ทางการอเมริกาก็ออกมาย้ำอยู่ตลอดว่ามาตรการควบคุมส่งออกชิปนี้ก็เพื่อขัดขวางการพัฒนาทางการทหารของจีนเท่านั้น (ไม่มีอย่างอื่นในกอไผ่) แต่ไม่บอกคนข้างนอกเค้าก็รู้ว่ามันช่วยเพิ่มความได้เปรียบด้านเทคโนโลยีและเศรษฐกิจของอเมริกาให้เหนือจีน จริงแล้วจีนสามารถใช้ชิปล็อตเก่าที่เคยนำเข้ามา หรือชิปที่ออกแบบและผลิตในประเทศ เพื่อเอามาปรับปรุงความสามารถกองทัพก็ได้
2
เครดิตภาพ: Luca D’Urbino / The Economist
บริษัทออกแบบชิปสองแห่งของอเมริกาคือ Nvidia และ AMD เป็นผู้นำตลาดชิป AI แต่บริษัทออกแบบชิปของจีนอย่าง Huawei และ Biren ก็ได้พัฒนาก้าวหน้าขึ้นแบบติดๆ เช่นกัน ทั้งสองบริษัทได้เปิดตัวชิปขั้นสูงคือ Huawei ในปี 2019 และ Biren ในปี 2022 โดยมีคุณสมบัติและประสิทธิภาพที่ใกล้เคียงกับชิปของบริษัทอเมริกัน
1
อย่างไรก็ตามถึงแม้จีนจะตามอเมริกามาแบบติดๆ เรื่องการออกแบบชิป แต่บริษัทจีนก็ยังตามหลังในด้านการผลิตเซมิคอนดักเตอร์แบบ Advanced-node ซึ่งเป็นชิปขนาดนาโนเมตรที่ใช้กำลังไฟต่ำกว่าและใช้ขับเคลื่อน AI ในปัจจุบัน
1
กระบวนการผลิตขั้นสูงที่สุดที่พัฒนาโดยบริษัทผลิตชั้นนำของจีนอย่าง Semiconductor Manufacturing International Corporation (SMIC) ตอนนี้กำลังผลิตชิปที่มีเทคโนโลยีตามหลังชิปที่ล้ำสมัยสุดเท่าที่เป็นไปได้อยู่ 5-6 ปี นอกจากนี้ปัจจัยด้านการผลิตชิปที่ดีที่สุดของ SMIC ยังคงต้องพึ่งพาอุปกรณ์จากเนเธอร์แลนด์ ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ เป็นอย่างมาก เนื่องจากอุปกรณ์ของจีนยังคงไม่สามารถผลิตชิปขั้นสูงที่สุดได้
3
จีน่า ไรมอนโด รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ได้เคยกล่าวสรุปแผนเมื่อธันวาคม 2023 ว่า “อเมริกาเป็นผู้นำโลกในด้านปัญญาประดิษฐ์ อเมริกาเป็นผู้นำโลกในด้านการออกแบบเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูง… เรายังนำหน้าจีนอยู่สองสามปี ไม่มีทางที่เราจะปล่อยให้จีนตามทัน ดังนั้นการควบคุมการส่งออกชิปชั้นสูงจึงมีความสำคัญ”
4
เครดิตภาพ: Tech Trends China
การควบคุมการส่งออกเทคโนโลยีชิปชั้นสูงของอเมริกาไปยังจีนจะช่วยหยุดยั้งการพัฒนากองทัพจีนได้น้อยมาก เนื่องจากระบบอาวุธปัจจุบันส่วนใหญ่ที่จีนใช้ไม่ได้พึ่งพาชิปขั้นสูงที่อยู่ภายใต้มาตรการดังกล่าว
หน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ เองก็ยอมรับเช่นกัน อธิบายว่าระบบอาวุธนั้นให้ความสำคัญกับเรื่อง “ชิปที่น่าเชื่อถือ (ผ่านการทดสอบอย่างดีมานานแล้ว)” ซึ่งหมายถึงผลิตจากเทคโนโลยีชิปรุ่นเก่า (ยังไม่ใช่ AI) โปรเซสเซอร์ที่ใช้ในอาวุธสงครามส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นรถถัง ระบบขีปนาวุธ และแม้แต่โดรน จึงไม่ถูกดิสรัปจากมาตรการควบคุมการส่งออกใดๆ ของอเมริกา ชิปขั้นสูงมีการใช้งานทางทหารอยู่บ้าง คือในการออกแบบระบบขีปนาวุธขั้นสูงและอาวุธทำลายล้างสูง
3
เครดิตภาพ: Asia Times
แต่หากกองทัพจีนต้องการความสามารถในการประมวลผลขั้นสูงเพื่อพัฒนาอาวุธและฝึกฝนโมเดล AI ก็มีแนวโน้มว่าจะทำได้ด้วยชิปที่ลักลอบนำเข้าและที่ผลิตในประเทศปริมาณมากซึ่งมีประสิทธิภาพต่ำกว่า
หากจีนสามารถลักลอบขนชิปล้ำสมัยอย่าง H100 ของ Nvidia ที่มีความสามารถด้าน AI ได้เพียง 3,500 ชิ้น ซึ่งคิดเป็น 0.25% ของ 1.5 ล้านชิ้นที่ Nvidia คาดว่าจะจัดส่งออกในปี 2024 กองทัพจีนจะสามารถฝึกโมเดล AI ได้ขนาดใหญ่ที่ค่อนข้างก้าวหน้าได้ในเวลาเพียง 11 นาที
2
ทำให้มาตรการควบคุมส่งออกเทคโนโลยีชิปของอเมริกาดังกล่าวจะมีผลน้อยลงไปอีกต่อความสามารถของจีนในการพัฒนาโมเดล AI ประเภทอื่นๆ ที่สามารถฝึกได้บนชิปปริมาณที่น้อยกว่าหรือรุ่นเก่ากว่า นอกจากนี้จีนยังสามารถใช้ชิปที่ผลิตในประเทศได้ ซึ่งชิปที่ดีที่สุดนั้นเร็วพอๆ กับชิปที่ดีที่สุดตัวหนึ่งของ Nvidia
การควบคุมการส่งออกอาจทำให้ต้นทุนความพยายามในการพัฒนากองทัพของจีนสูงขึ้นก็จริง แต่จีนมีประวัติที่พิสูจน์แล้วว่าได้ใช้ทรัพยากรที่จำเป็นในการบรรลุเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ของตน ความก้าวหน้าที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของจีนนั้นเกิดจากการลงทุนอย่างต่อเนื่องของปักกิ่งในภาคส่วนนี้ และเมื่อดูจากการแพร่กระจายของชิป AI ทั่วโลก จึงลำบากในการป้องกันการลักลอบนำเข้า การกีดกันของสหรัฐฯ จึงไม่มีแนวโน้มว่าจะทำให้ความพยายามในการพัฒนากองทัพของจีนทำได้ช้าลง
2
เครดิตภาพ: Georgia Perry / Wired
ปัญหาหลักของอเมริกาคือ การควบคุมการส่งออกอาจเร่งการพัฒนาอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในจีนโดยไม่ได้ตั้งใจ มันไปสร้างความต้องการใหม่สำหรับอุปกรณ์ ศักยภาพในการผลิต และชิป AI ของจีนในประเทศ ด้วยการจำกัดจีนไม่ให้เข้าถึงชิปและเครื่องมือการผลิตชิปจากต่างประเทศ จะไปสร้างแรงกดดันให้บริษัทต่างๆ ของจีนต้องลงทุนและร่วมมือกันในห่วงโซ่อุปทานเซมิคอนดักเตอร์
ถึงแม้บริษัทต่างๆ ในญี่ปุ่น เนเธอร์แลนด์ และสหรัฐอเมริกายังคงมีอำนาจเหนือเครื่องมือที่จำเป็นในการผลิตชิปที่ล้ำหน้าที่สุด แต่การควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ ป้องกันไม่ให้บริษัทเหล่านี้ขายอุปกรณ์ของตนให้กับจีนด้วย ทำให้เกิดเงื่อนไขทางการตลาดที่จะผลักดันรายได้ให้กับผู้ผลิตอุปกรณ์ของจีนเอง ทำให้บริษัทเหล่านี้สามารถลงทุนในกิจกรรมการวิจัยและพัฒนาที่จำเป็นในการผลิตเครื่องมือที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นได้
1
เมื่อพิจารณาจากอัตราความก้าวหน้าในปัจจุบัน มีแนวโน้มว่าในไม่ช้านี้ จีนจะสามารถผลิตอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูงได้ เมื่อสิ่งนั้นเกิดขึ้น บริษัทออกแบบชิปที่มีความสามารถของจีนจะสามารถใช้กำลังการผลิตในประเทศเอง ไม่ต้องพึ่งตะวันตก เพื่อผลิตชิป AI ในระดับขนาดใหญ่และกระจาย AI ไปทั่วเศรษฐกิจของจีนได้
เทคโนโลยีการผลิตชิปก้าวหน้าขึ้น บริษัทออกแบบชิป AI กำลังเชื่อมต่อชิปซึ่งมีประสิทธิภาพสูงในจำนวนที่ใช้น้อยกว่าเข้าด้วยกัน ซึ่งเรียกว่า “ชิปเล็ต” (Chiplets) เพื่อสร้างแพ็คเกจประสิทธิภาพสูงเพียงตัวเดียวที่มีความสามารถในการฝึกและใช้โมเดล AI ได้ดีขึ้น บริษัทเซมิคอนดักเตอร์หลายแห่งกำลังใช้กลยุทธ์นี้เพื่อลดต้นทุนการออกแบบและการผลิต และบริษัทจีนก็กำลังทำตามโดยได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล
1
เครดิตภาพ: pressxpress.org
การควบคุมส่งออกชิปไปยังจีนจะทำให้ผู้ผลิตชิปและเครื่องมือที่เกี่ยวข้องในสหรัฐฯ และประเทศพันธมิตรสูญเสียธุรกิจในจีนไปจำนวนมาก ทำให้บริษัทเหล่านี้มีเงินลงทุนในการวิจัยและพัฒนาน้อยลง ในระยะสั้นผลกระทบน่าจะไม่มากนัก การเติบโตของ AI ในปัจจุบันทำให้เกิดความต้องการชิปประสิทธิภาพสูงที่เกินอุปทานอย่างมาก ชิปที่ Nvidia ควรจะขายในจีนกลับถูกขายในที่อื่นแทน แต่ในระยะยาวคาดว่าการถอนตัวออกจากตลาดขนาดใหญ่อย่างจีนจะส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทในตะวันตกอย่างมาก
2
การควบคุมการส่งออกนี้ยังอาจทำให้โลกเกิด “การแบ่งขั้วทางเศรษฐกิจ” (Economic Decoupling) เร็วขึ้น และทำให้ช่องว่างทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างจีนและอเมริกากว้างขึ้นไปอีก พื้นที่ที่ใหญ่ขึ้นและรั้วที่สูงขึ้นจะทำให้เกิดลดการพึ่งพากันทางเศรษฐกิจและเพิ่มการแข่งขันทางภูมิรัฐศาสตร์ สงครามชิปได้ทำให้ความตึงเครียดระหว่างอเมริกาและจีนทวีความรุนแรงขึ้น
เรียบเรียงโดย Right Style
28th July 2024
■
แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
https://www.foreignaffairs.com/china/limits-china-chip-ban
<เครดิตภาพปก: Guillem Casasus / The Economist>
สหรัฐอเมริกา
จีน
ai
9 บันทึก
56
13
11
9
56
13
11
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย