ฟุตบอลละครสัตว์ : อาร์เจนตินา vs โมร็อกโก เกิดอะไรในเกมสุด "อิหยังวะ" ของ ปารีส 2024 ? | Main Stand
เกมฟุตบอลชาย โอลิมปิก ปารีส 2024 ที่ อาร์เจนตินา แพ้ โมร็อกโก 1-2 ถือเป็นเกมที่วุ่นวายและจบได้งงที่สุดเกมหนึ่งในประวัติศาสตร์โลกฟุตบอล
1 เกม 1,000 เหตุการณ์ และใช้เวลาแข่งขันกว่า 4 ชั่วโมง เกิดอะไรขึ้นบ้างและมีทฤษฎีสมคบคิดแบบไหนที่ถูกพูดถึงเกม ๆ นี้ ซึ่งถูกสื่อเรียกว่า "ละครสัตว์"
นี่คือหลายเรื่องที่ซ่อนอยู่ ที่คุณอาจะแปลกใจเมื่อได้รู้ทั้งหมด ติดตามที่นี่กับ Main Stand
เกมที่ไม่น่าจะมีอะไร
เกม ๆ นี้เป็นเกมแรกในรอบแบ่งกลุ่ม ของกลุ่ม B ที่ลงแข่งขันกันในเวลา 15:00 น. หรือบ่ายสามโมงตามเวลาท้องถิ่น โมร็อกโก ออกนำไป 2-0 จาก ซูฟายาน ราฮิมี ที่ยิงคนเดียว 2 ลูก ขณะที่ อาร์เจนตินา ได้ประตูจาก ฮูเลียโน่ ซิเมโอเน่ ลูกชายคนที่สองของ ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ ในนาทีที่ 68
แต่ปัญหาคือเกมนี้มีประเด็นมากมาย เริ่มตั้งแต่เมื่อครบ 90 นาทีของเกม ผู้ตัดสินที่สี่ชูป้ายบอกว่าจะมีการทดเวลาออกไปถึง 15 นาที ... ทันทีจากนั้นเสียงโห่ก็ดังระงม ฝั่งแฟนบอลโมร็อกโก หรือแฟนบอลฝั่งใด ๆ ก็ตามที่ไม่ใช่อาร์เจนตินา ต่างมองว่านี่คือการทดเวลาที่นานเกินกว่าเหตุ
แม้ว่าในเกมนักเตะของ โมร็อกโก จะเล่นแท็คติกถ่วงเวลา แต่ไม่มีทางจะถึงทดเวลา 15 นาทีแน่นอน นั่นคือความรู้สึกของแฟนบอล มันจึงกลายเป็นประเด็นทันทีว่า "มีงาน" หรือแปลกให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือนี่คือการทดเวลาที่จะทดไปจนกว่า อาร์เจนตินา จะยิงได้ ... ซึ่งมันก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ
ในนาทีที่ 90+166 อาร์เจนตินา ก็ยิงประตูตีเสมอ 2-2 จาก คริสเตียน เมดิน่า ในขณะที่ อาร์เจนตินา ฉลองสุดขั้ว เพราะประตูนี้มันสุดจริง ๆ เมื่อนักเตะของ อาร์เจนตินา โหม่งชนคานไปถึง 2 รอบ ก่อนจบที่ดาบสุดท้ายของ เมดีน่า ...
กลับกัน ฝั่งแฟนบอล โมร็อกโก บนอัฒจันทร์ก็เดือดสุดขีด ความโกรธแค้นย้อนกลับไปในตอนที่ผู้ตัดสินทดเวลา 15 นาที เพราะมีเหตุสำคัญตรงที่ว่าภาพที่เห็นในการถ่ายทอดสดคือ ในตอนแรกมีการทดเวลาบาดเจ็บแค่ 2 นาทีเท่านั้น ก่อนที่จู่ๆ ตัวเลขจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็น 5 นาที ต่อด้วย 9 นาที และสุดท้ายตัวเลขก็ขึ้นว่าจะมีการทดเวลานานถึง 15 นาที !
แฟน โมร็อกโก ที่มาเยอะมาก เนื่องคนเชื้อสายโมร็อกโก คือคนที่อาศัยอยู่ในฝรั่งเศสมากเป็นอันดับที่ 2 รองจาก แอลจีเรีย จนทำให้แฟนบอลเข้ามาในสนามเยอะมาก ความอินและอารมณ์ต่อเกมก็พุ่งทะยานสูงเช่นกัน
พวกเขาเริ่มจุดพลุไฟและโยนของลงสนาม นอกจากนี้ยังมีบางกลุ่มที่วิ่งลงสนามด้วย เกล็นน์ นีเบิร์ก ผู้ตัดสินชาวสวีเดนเห็นท่าไม่ดีจึงสั่งหยุดเกมและให้นักเตะเข้าไปในห้องแต่งตัว ขณะที่ป้ายสกอร์บอร์ดในสนามเปลี่ยนเป็นข้อความว่า "การแข่งขันของคุณถูกระงับ กรุณาไปที่ทางออกที่ใกล้ที่สุด"
นั่นคือสถานการณ์ในนาทีที่ 90+16 หรือทดเวลา นาทีสุดท้าย จนทำให้หลายคนคิดว่าเกมจบไปแล้ว แม้กระทั่งเว็บไซต์ของฟีฟ่าก็ยังขึ้นสกอร์ว่าเสมอกัน 2-2 ... ทว่าอีก 2 ชั่วโมงต่อมาคู่นี้ก็กลับมาแข่งใหม่อีกครั้ง ในแบบที่งงกันทั้งโลก
ทำไมถึงกลับมาแข่งใหม่ ?
ข่าวแพร่สะพัดใน 90 นาทีต่อมาว่า ประตูตีเสมอของอาร์เจนตินาถูกปฏิเสธเนื่องจากล้ำหน้า แต่หลายคนยังไม่แน่ใจว่ามันจะเป็นแบบนั้นหรือไม่ ? แถมยังมีการแจ้งว่าทั้งสองทีมจะต้องลงมาแข่งอีกครั้งในเวลาที่เหลืออีก 3 นาที ซึ่งก็เหมือนกับว่าลงสนามให้จบ ๆ กันไป ให้มีเสียงนกหวีดยาวให้ดังกับหู
โฆษกของ Paris 2024 กล่าวอธิบายว่า "การแข่งขันฟุตบอลระหว่างอาร์เจนตินากับโมร็อกโกที่สนามกีฬา Saint-Etienne ถูกระงับเนื่องจากมีผู้ชมจำนวนเล็กน้อยบุกรุกสนาม จากนั้นการแข่งขันจึงเริ่มต้นใหม่และสามารถจบลงได้อย่างปลอดภัย Paris 2024 กำลังดำเนินการร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องเพื่อทำความเข้าใจสาเหตุและระบุการดำเนินการที่เหมาะสม"
ส่วนเรื่องการทดเวลาบาดเจ็บที่นานเกินเหตุนั้นเกิดขึ้นจากนโยบายของฟีฟ่า ที่ชื่อว่า "การทดเวลาตามจริง" ที่ใช้กันมาตั้งแต่ฟุตบอลโลก 2022 กล่าวคือเกมหยุดเท่าไหร่ ก็จะทดเวลาออกไปเท่านั้น นั่นดูไม่น่าจะใช่ปัญหาอะไร เพราะหลังจากที่กลับมาลงเล่นในช่วง 3 นาที ... ผู้ตัดสิน เกล็นน์ นีเบิร์ก ก็เข้าเช็ก VAR และบอกว่าลูกยิงของ เมดิน่า เป็นลูกล้ำหน้า และจบเกมด้วยการตัดสินกลับมาให้ โมร็อกโก ชนะไป 2-1 หลังจากนั้นความสงสัยต่าง ๆ ก็ตามมามากมาย เพราะไม่เคยเกิดอะไรแบบนี้มาก่อนในวงการฟุตบอล
"ผมอยู่ในวงการนี้มาเป็นเวลานาน และอยู่ในระดับสูงมา 25 ปีแล้ว ผมไม่เคยเห็นอะไรที่บ้าคลั่งขนาดนี้มาก่อน" ทิม ฮาวเวิร์ด อดีตนายด่านทีมชาติอเมริกาที่เป็นทีมงานกูรูของช่อง USA Network ซึ่งถ่ายทอดสดเกมนี้กล่าว "มันเหลือเชื่อมากที่พวกเขาพาผู้เล่นกลับมาได้ภายใน 2 ชั่วโมงหลังจากเสียงนกหวีดหมดเวลาและไม่ยอมให้ประตูเกิดขึ้น มันเป็นฉากที่เหลือเชื่อจริง ๆ"
หลายข้อสงสัยยังไร้คำตอบ และเรื่องที่เกิดขึ้นนี้อาจจะทำให้ฟุตบอลชายในโอลิมปิก 2024 น่าจับตาขึ้นอีกมากโข ... และด้วยความที่ไม่เคลียร์นี้เอง จึงทำให้เกิดทฤษฎีสมคบคิดเกี่ยวกับความมั่วครั้งนี้เกิดขึ้น ?
ละครสัตว์และทฤษฎีสมคบคิด
ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ กุนซือของ อาร์เจนตินา เปิดเผยภายหลังว่า จริง ๆ แล้วแม้แต่เขาและนักเตะก็ยังไม่รู้ว่าต้องลงมาแข่งต่ออีก 3 นาที พวกเขาคิดว่าเกมจบลงไปแล้วด้วยซ้ำ ดังนั้นพวกเขามั่นใจว่าพวกเขาได้ 1 แต้มจากเกมนี้ไปแล้ว จากประตูของ เมดิน่า ลูกนั้น
"เราไม่เคยได้รับการแจ้งเลยว่าจะมีการกลับไปเช็ก VAR ลูกยิงของ เมดิน่า ไม่เคยมีใครบอกเราเลย มีเพียงการแจ้งว่าเกมต้องตัดจบด้วยเหตุผลของความปลอดภัย ... หลังจากเราเข้ามาในห้องแต่งตัวครบ 1 ชั่วโมง ไม่มีใครมาแจ้งอะไรเรา ไม่เคยมีคำอธิบายใด ๆ ทั้งสิ้น" มาสเคราโน่ ที่ตะโกนใส่กล้องว่า "แม่งโคตรจะละครสัตว์เลย" อธิบายภายหลัง
ทุกอย่างเกิดขึ้นหน้างานเหมือนอยากจะเปลี่ยนการตัดสินใจอย่างไรก็ได้ ดังนั้นจึงเกิดทฤษฎีสมคบคิดที่ว่านี่คือเรื่องของการสร้างกระแสฟุตบอลชายให้น่าสนใจตั้งแต่เกมแรก
โปรดจงอย่าลืมว่า อาร์เจนตินา เพิ่งมีเหตุกับ ฝรั่งเศส สด ๆ ร้อน ๆ จากการที่ เอ็นโซ่ เฟอร์นานเดซ ร้องเพลงเหยียดนักเตะเชื้อสายแอฟริกันของทีมชาติฝรั่งเศส จนเกิดเป็นการ "วอร์" กันเล็ก ๆ ของทั้งสองฝั่ง
ดังนั้นถ้า อาร์เจนตินา แพ้กับ โมร็อกโก เกมนี้ พวกเขามีโอกาสที่จะต้องไปเจอกับ ฝรั่งเศส ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ซึ่งเป็นเกมที่แฟนบอลฝรั่งเศสถูมือรอเพราะแผลที่เกิดยังสดใหม่ และทุกครั้ง ๆ ที่เพลงชาติอาร์เจนตินาดังในโอลิมปิก 2024 ก็จะมีเสียงโห่ดังขึ้นมาตลอด นั่นหมายถึงความเกลียดชังที่ยังคุกกรุ่น
เรื่องราวยังชวนให้คิดกันต่อว่า ถ้าเป็นแบบนั้นทำไมจึงทดเวลาจนกว่าอาร์เจนตินาจะยิงได้ ? คำตอบที่ว่าอาจจะดูแปลก ๆ ไปสักหน่อยแต่คอมเมนต์ในโลกโซเชี่ยลบอกว่าพวกเขาอยากให้ อาร์เจนตินา รับบทผู้ร้ายประจำทัวร์นาเมนต์ ทำให้ทุกทีมเกลียด ไม่ใช่แค่ ฝรั่งเศส เท่านั้น แต่ยังเป็นคนเชื้อสายโมร็อกโกอีกจำนวนมากที่พร้อมจะเปิดโจทย์ เป็นคู่ปรับที่เกลียดชัง อาร์เจนตินา อีกชาติหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ทฤษฎีสมคบคิดที่กล่าวมาดูจะหลักลอยเกินไปหน่อย เพียงแต่ว่าปลายทางมันไม่แตกต่างกันนัก มาสเคราโน่ บอกว่าจะชนะทุกเกมที่เหลือ ลืมเกม ๆ นี้และจะเข้ารอบต่อไปให้ได้ … ซึ่งแน่นอน จากการแพ้ พวกเขามีโอกาสจะเป็นที่ 2 ของกลุ่มและต้องไขว้ไปเจอ ฝรั่งเศส ที่ก็พร้อมจัดเต็มเพื่อเหรียญทองเช่นกัน
ท้ายที่สุดแล้ว สิ่งที่ฝ่ายจัดการแข่งขันแจกแจงนั่นก็มีเหตุผลเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือพวกเขาต้องเบรกเกมเพื่อความปลอดภัยของนักเตะและแฟนบอลในสนาม
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ฝ่ายจัดสอบตก ก็คือเรื่องการสื่อสารกับทีมงานทั้ง 2 ชาติ ที่พวกเขาไม่รู้อะไรล่วงหน้าเลย พวกเรารับรู้เรื่องราวกันหน้างานด้วยคำอธิบายที่ไม่เคลียร์เลย แม้กระทั่งตอนนี้นักเตะทั้ง 2 ฝั่งก็ยังตอบไม่ถูกว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ย้ำอีกครั้งว่าปลายทางมันตรงกับทฤษฎีสมคบคิด … ฟุตบอลชายในโอลิมปิก 2024 จะต้องถูกจับตามองและได้รับความสนในตั้งแต่ต้นจนจบอย่างแน่นอน
บทความโดย : ชยันธร ใจมูล
- 3
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
