มิเกล เมริโน่ : กลางสารพัดประโยชน์ ที่อาร์เซน่อลหวังให้เป็น "ชาก้า" คนใหม่ | Main Stand
อาร์เซน่อล คว้าตัว มิเกล เมริโน่ กองกลางที่เพิ่งช่วยให้ทีมชาติสเปน คว้าแชมป์ ยูโร 2024 มาร่วมทีมเป็นที่เรียบร้อย
มีเหตุผลมากมายที่บ่งชี้ว่า กองกลางวัย 28 ปีรายนี้เป็นที่ต้องการของทัพปืนใหญ่ ไล่มาตั้งแต่ความสารพัดประโยชน์ที่เขาสามารถลงเล่นได้ทั้งหมดในแผงกองกลาง ทั้งในตำแหน่งกองกลางตัวรับ กองกลางบ็อกซ์ทูบ็อกซ์ รวมไปถึงตำแหน่งเพลย์เมกเกอร์
ผนวกกับอีกหนึ่งจุดเด่นของ มิเกล เมริโน่ นั่นคือความดุดัน ที่ยอมเข้าแลกทุกจังหวะ เจ็บเป็นเจ็บ และผสมผสานกับเล่ห์เหลี่ยมในการจ่ายบอล
จุดเด่นดังกล่าวของ มิเกล เมริโน่ ค่อนข้างคล้ายคลึงกับสไตล์การเล่นของ กรานิต ชาก้า อดีตกองกลางคนสำคัญของทีม ที่อำลาต้นสังกัดไปในปี 2023 จน เมริโน่ ถูกนำไปเปรียบเทียบกับ ชาก้า ถึงขั้นที่ว่าจะเข้ามาทดแทนในส่วนที่หายไปจากกองกลางชาวสวิตเซอร์แลนด์ผู้นี้
เมริโน่ มีดีขนาดไหน ? อาร์เซน่อล มองเห็นแง่มุมไหนของ ชาก้า ในตัวเขา ? ติดตามเรื่องราวของมิดฟิลด์สแปนิชผู้นี้ไปพร้อมกับ Main Stand
ดังจาก ยูโร 2024
มิเกล เมริโน่ เริ่มเป็นที่รู้จักต่อแฟนบอลโดยทั่วไปจากการที่เขาติดทีมชาติสเปน ชุด ยูโร 2024 ที่ประเทศเยอรมนี แม้ว่าตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์ เขาจะมีชื่อเป็นเพียงผู้เล่นตัวสำรองของทีม แต่เขามักเป็นตัวเลือกแรกอยู่เสมอที่ทาง หลุยส์ เดอ ลา ฟวนเต้ กุนซือใหญ่เลือกส่งลงสนามมาในช่วงเวลาครึ่งหลัง
และหนึ่งในเกมที่สร้างชื่อให้กับเขา หนีไม่พ้นเกมรอบ 8 ทีมสุดท้าย ที่ทัพกระทิงดุ ต้องโคจรมาพบกับเจ้าภาพ
เกมนัดดังกล่าว มิเกล เมริโน่ ถูกเปลี่ยนตัวลงมาในนาทีที่ 80 ก่อนที่จะสวมบท "ซูเปอร์ซับ" โหม่งประตูชัยในช่วงก่อนหมดเวลาพิเศษ นาที 119 พาทีมชาติสเปน เอาชนะทีมชาติเยอรมนี ไปในท้ายที่สุด 2-1
"ผมอยากให้เครดิตโค้ชของพวกเรา เพราะเขาเชื่อมั่นทุกคนในทีมทั้งผู้เล่นตัวจริง และผู้เล่นสำรอง ซึ่งก่อนที่ผมจะถูกส่งลงสนามเขาเดินมาบอกกับผมว่า ผมเชื่อมั่นในตัวคุณ ลงไปทำให้ดีที่สุดพาชัยชนะมาให้กับพวกเรา"
"เหตุการณ์ตอนนั้นมันเกิดขึ้นไวมาก ผมจำได้ว่าลูกฟุตบอลพุ่งเข้ามาที่หัวของผม ซึ่งในเวลานั้นสิ่งที่ผมคิดคือ ทำอย่างไรก็ได้ให้ลูกฟุตบอลเข้าประตู หลังจากที่ผมเห็นฟุตบอลเข้าประตูไปเป็นที่เรียบร้อย ผมแทบจะเป็นบ้าเลยด้วยซ้ำ"
"และผมคิดว่าสนามแห่งนี้เปรียบเสมือนสนามนำโชคของผมและครอบครัว พ่อของผมเคยทำประตูได้ที่นี่เมื่อ 33 ปีที่แล้ว ผมจึงคิดว่าสนามแห่งนี้เป็นสถานที่ พิเศษต่อครอบครัวของเรา" มิเกล เมริโน่ กล่าวความในใจหลังสวมบทฮีโร่ทำประตูชัย พาทัพกระทิงดุ เอาชนะอินทรีเหล็กที่ สตุ๊ตการ์ท อารีน่า สนามเดียวกับที่ อังเคล เมริโน่ คุณพ่อของเขา เคยยิงประตูให้ โอซาซูน่า ในเกมยูฟ่าคัพ เมื่อปี 1991
ประตูดังกล่าว ทำให้ชื่อเสียงของ มิเกล เมริโน่ กลายเป็นที่รู้จักต่อแฟนบอลทั่วโลกมากขึ้น ก่อนท้ายที่สุด ทีมชาติสเปน คว้าแชมป์ฟุตบอลยูโร 2024 มาครองได้สำเร็จ
นับเวลาต่อจากนั้น เขาตกอยู่ในสถานะแข้ง "เนื้อหอม" ทันที กลายเป็นเป้าหมายสำคัญในการเสริมทัพ ของทีมยักษ์ใหญ่ ในยุโรปทั้ง อาร์เซน่อล, บาร์เซโลน่า รวมไปถึง เรอัล มาดริด
จุดแข็งคือสารพัดประโยชน์
หนึ่งในจุดเด่นที่ส่งผลให้ มิเกล เมริโน่ กลายเป็นแข้งเนื้อหอมได้รับความสนใจต่อหลายสโมสรในยุโรป เป็นเพราะว่าการเล่นได้หลายตำแหน่งของเขา ที่ถูกยกให้เป็นกองกลางสารพัดประโยชน์ สามารถเล่นได้ทุกตำแหน่งในแผงมิดฟิลด์
ตลอดระยะเวลา 6 ปี กับการลงสนามให้กับ เรอัล โซเซียดาด เขาลงสนามใน ตำแหน่งกองกลางเบอร์ 8 ไปมากถึง 241 นัด และเล่นในตำแหน่ง กองกลางเบอร์ 6 ไปทั้งหมด 70 นัด และเล่นในตำแหน่งกองกลางเบอร์ 10 ไปอีกทั้งหมด 10 นัด
จุดเด่นของ มิเกล เมริโน่ ที่ได้รับการชื่นชมมาโดยตลอด นั่นคือการสอดขึ้นไปมีส่วนร่วมในการทำประตู ที่แสดงให้เห็นอยู่บ่อยครั้งตลอดการลงเล่นกับทั้ง เรอัล โซเซียดาด รวมไปถึงทีมชาติสเปน
"ในสมัยที่เขา (มิเกล เมริโน่) ยังเป็นผู้เล่นดาวรุ่ง และเล่นอยู่ที่ โอซาซูน่า เขาเป็นเด็กที่มีสภาพร่างกายยอดเยี่ยม และแฝงไปด้วยพละกำลังที่เต็มเปี่ยม สามารถวิ่งขึ้นช่วยทีมเล่นทั้งเกมรุกและเกมรับได้ตลอด 90 นาทีอย่างไม่มีหมด"
"แต่ในปัจจุบัน ผมคิดว่าฟอร์มการเล่นของเขาพัฒนาขึ้นมากกว่าเดิมเสียอีก เขาแสดงให้เห็นแล้วว่า เขาคือหนึ่งในกองกลางที่ครบเครื่องคนหนึ่งในโลกฟุตบอลตอนนี้" อัลเฟรโด้ ซานเชซ อดีตผู้ช่วยโค้ช โอซาซูน่า กล่าวชื่นชม มิเกล เมริโน่ ถึงการพัฒนาฟอร์มการเล่นแบบก้าวกระโดดอย่างเห็นได้ชัดเจน
นอกเหนือจาก อัลเฟรโด้ ซานเชซ อดีตผู้ช่วยโค้ช โอซาซูน่า ที่เคยร่วมงานกับเขาสมัยที่ มิเกล เมริโน่ ยังเป็นเด็กดาวรุ่งเพิ่งขึ้นมาใหม่ ๆ แล้ว มิเกล ฟลาโญ่ อดีตดาวเตะทีมชาติสเปน ยังได้ออกมาชื่นชมฟอร์มการเล่นของ มิเกล เมริโน่ เช่นกัน
"ในยูโร 2024 มิเกล เมริโน่ แสดงให้เห็นแล้วว่าเขาเป็นผู้เล่นที่มีความอันตรายอยู่ตลอดเวลา อย่างในเกมที่ทีมชาติสเปน เอาชนะทีมชาติเยอรมนี 2-1 เมริโน่ แสดงให้เห็นแล้วว่า หากมีโอกาสเดียวในการทำประตู เขามีความเด็ดขาดในการทำประตูได้อยู่เสมอ"
"นอกเหนือจากนั้น ผมมองว่า มิเกล เมริโน่ เป็นหนึ่งในกองกลางที่มีความหลากหลาย เขาเล่นได้ทุกตำแหน่งในแดนกลาง ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีต่อตัวเขาและสโมสรที่ได้นักเตะแบบเขาอยู่ในทีม ผมคิดว่าทีมใหญ่ในยุโรปควรดึงนักเตะรายนี้ไปร่วมทีม"
ทว่าที่สุดแล้ว เป็นทางด้านของ อาร์เซน่อล ที่เข้าป้าย ปิดดีลดาวเตะวัย 28 ปีรายนี้ ไปร่วมทีม ด้วยค่าตัว 33.5 ล้านยูโร เซ็นสัญญากับทัพ "ปืนใหญ่" เป็นเวลา 4 ปี พร้อมออปชั่นในการต่อสัญญาเพิ่มเติมอีก 1 ปี
ตัวแทนชาก้า ?
หลังจากที่ อาร์เซน่อล ตกลงปล่อยตัว กรานิต ชาก้า ออกไปให้กับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น เมื่อปี 2023 ทัพ "ปืนใหญ่" เหมือนขาดผู้เล่นตัวเก๋า กองกลางจอมทัพผู้เล่นในตำแหน่งหมายเลข 8 ที่เปรียบเสมือนเป็นแรงดุดันทั้งในเกมรุก และเกมรับ
แม้ว่า ดีแคลน ไรซ์ จะทำได้ดีในตำแหน่งดังกล่าว จากการขึ้นมายืนในตำแหน่งกองกลางหมายเลข 8 แต่อันที่จริงแล้ว มิเกล อาร์เตต้า ต้องการให้ ไรซ์ เป็นกองกลางตัวรับ ในตำแหน่งหมายเลข 6
ทว่าด้วยการที่ทีมยังหาผู้เล่นเข้ามาแทนที่ กรานิต ชาก้า ยังไม่ได้ มิเกล อาร์เตต้า จึงจำเป็นที่จะต้องดัน ดีแคลน ไรซ์ ขึ้นมายืนทดแทนในตำแหน่งดังกล่าว และเลือกใช้ โธมัส ปาร์เตย์ หรือ จอร์จินโญ่ ลงมาเล่นในตำแหน่งกองกลาง ตัวรับหมายเลข 6 แทน
ด้วยเหตุนี้เอง มิเกล อาร์เตต้า จึงอยากให้บอร์ดบริหารพยายามเซ็นสัญญากับ มิเกล เมริโน่ มาร่วมทีมให้ได้ เพื่อเข้ามาทดแทนในตำแหน่งหมายเลข 8 แบบ กรานิต ชาก้า ที่ขาดหายไป
ยกสองที่พรีเมียร์ลีก
มาถึงตรงนี้ แฟนบอลจำนวนไม่น้อยอาจสงสัยว่า เมริโน่จะไหวหรือไม่กับการมาเล่นในพรีเมียร์ลีก แต่หลายคนอาจนึกไม่ถึงว่า เขาเคยมาค้าแข้งในลีกต่างแดน รวมถึงเคยเล่นในพรีเมียร์ลีกมาแล้ว
ในอดีต มิเกล เมริโน่ เคยออกมาหาความท้าทายนอกประเทศตั้งแต่สมัยที่เขายังเป็นเพียงแข้งดาวรุ่ง โดยย้ายไปร่วมทีม โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เมื่อปี 2016 แต่การย้ายออกมาเล่นนอกประเทศเป็นครั้งแรกกับ "เสือเหลือง" มิเกล เมริโน่ ได้โอกาสลงสนามไปเพียง 9 นัดเท่านั้น เนื่องจากในเวลานั้น ดอร์ทมุนด์ ต่างเต็มไปด้วยนักเตะคุณภาพคับคั่ง ในตำแหน่งแดนกลาง ทั้ง กอนซาโร่ คาสโตร, สเวน เบนเดอร์, นูริ ซาฮิน, มาริโอ เกิตเซ่ และ ชินจิ คากาวะ
ด้วยเหตุนี้เองจึงเป็นที่มาให้เขาถูกปล่อยตัวไปให้กับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ในปี 2017 ด้วยสัญญายืมตัวตลอดซีซั่น ก่อนใช้ออปชั่นซื้อขาดในไม่กี่เดือนจากนั้น ด้วยค่าตัว 7 ล้านยูโร ซึ่งที่ เซนต์ เจมส์ พาร์ค เมริโน่ได้ลงเป็นตัวจริงค่อนข้างสม่ำเสมอ ในยุคที่ ราฟาเอล เบนิเตซ เป็นกุนซือ แม้มีอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่บ้าง
อย่างไรก็ตาม ด้วยการที่เขามีค่าฉีกสัญญาถูกมาก ที่ 12 ล้านยูโร ซึ่งถูกใส่ไว้ตั้งแต่สมัยย้ายมา ดอร์ทมุนด์ และออปชั่นดังกล่าวมีอยู่ในสัญญากับ นิวคาสเซิ่ล ด้วย เมื่อ เรอัล โซเซียดาด ติดต่อมา พร้อมสัญญาว่าจะได้ลงสนามเป็นตัวจริง เมริโน่จึงไม่ลังเลที่จะกลับไปเล่นที่บ้านเกิดอีกครั้ง แม้เล่นให้สาลิกาดงแค่ซีซั่นเดียว
การได้ย้ายกลับมาเล่นที่สเปน ทำให้ มิเกล เมริโน่ กลับมาแจ้งเกิด ได้อีกครั้ง เพราะการย้ายมาอยู่ที่นี่ เหมือนกับการที่ทำให้เขาได้ใช้ความสารพัดประโยชน์ ที่เปรียบเสมือนจุดเด่นได้ใช้ออกมาได้อย่างเต็มที่
ตลอดระยะเวลาการลงเล่นที่ เรอัล โซเซียดาด 6 ฤดูกาล มิเกล เมริโน่ กลายเป็นคีย์แมนตัวหลักในแดนกลางของทีม คอยบัญชาการสร้างสรรค์เกมได้ดีเยี่ยม และเป็นส่วนหนึ่งในการพาทีมคว้าแชมป์ โกปา เดล เรย์ ในปี 2019
นอกเหนือจากความสารพัดประโยชน์ที่เป็นจุดเด่นของเขา Sky Sports ยังได้วิเคราะห์ว่า หนึ่งเหตุผลที่จะทำให้ มิเกล เมริโน่ ปรับตัวได้ไวมากขึ้นกับการย้ายมาเล่นที่ อาร์เซน่อล เป็นเพราะว่า เขาเคยเล่นร่วมกับ มาร์ติน โอเดการ์ด ในสมัยที่แข้งทีมชาตินอร์เวย์รายนี้ ร่วมทีม เรอัล โซเซียดาด ในรูปแบบยืมตัวจาก เรอัล มาดริด เมื่อฤดูกาล 2019-20 และทั้งคู่กลายเป็นส่วนสำคัญในการพาทีมดังแห่งแคว้นบาสก์ คว้าแชมป์ โกปา เดล เรย์ ในซีซั่นดังกล่าว
รอดูกันว่า การเข้ามาของ มิเกล เมริโน่ จะสามารถเข้ามาแทนที่ของ กรานิต ชาก้า ตามที่แฟนบอล "กูนเนอร์ส" หมายปองเอาไว้หรือไม่ แต่ถ้าหากดูจากผลงานในช่วงหลัง และการเพิ่งคว้าแชมป์ ยูโร 2024 คงไม่ใช่เรื่องแปลกมากนัก ที่ทาง เมริโน่ จะกลายเป็นแข้งที่ถูกตั้งเป้าผลงานไว้
แต่การเล่นได้หลากหลาย รวมไปถึงจุดเด่นของเขาที่ทำได้ดีทั้งเกมรุกและเกมรับ มิเกล เมริโน่ ก็อาจเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญอีกหนึ่งตัวที่ทำให้ อาร์เซน่อล ในยุคของ มิเกล อาร์เตต้า ไปถึงเป้าหมายที่ใฝ่ฝันเอาไว้ … นั่นคือการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกให้ได้เสียที
บทความโดย : วิสุทธา วงค์หน่อแก้ว
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
