21 พ.ย. เวลา 02:13 • ข่าว

กฎหมายสมรสเท่าเทียมดันการท่องเที่ยวไทยพุ่ง

กลายเป็นจุดหมายขวัญใจชาวสีรุ้งสร้างรายได้เข้าไทยไม่น้อยกว่า 7 หมื่นล้านบาท
1
Agoda แพลทฟอร์มด้านการจองที่พัก และ การท่องเที่ยวชั้นนำระดับโลกชี้ กฎหมายสมรสเท่าเทียมที่จะมีผลบังคับใช้ในเดือนมกราคม 2568 นี้ จะเป็นผลดีอย่างยิ่งต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย ที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มหลากหลายทางเพศเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 4 ล้านคนต่อปี
จากรายงานด้านการตลาดของบริษัท Agoda บ่งชี้ว่า กฎหมายสมรสเท่าเทียม ดันยอดนักท่องเที่ยวเข้าไทยเพิ่มได้ถึง 10% ต่อปี ซึ่งหมายถึงรายได้จากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยที่เพิ่มขึ้นอีก ราว 2 พันล้านเหรียญ (ประมาณ 7 หมื่นล้านบาท) ภายใน 2 ปีข้างหน้า
1
เพราะนี่เป็นการเปิดตลาดใหม่ ในเป็นจุดหมายในการจัดงานแต่งงานให้กับคู่สมรสเพศเดียวกันจากทั่วโลก ที่พวกเขาไม่สามารถทำได้ในประเทศตนเอง
เคิร์ท ถัง หนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัท Next Chapter LGBT รับจัดงานแต่งให้กับลูกค้ากลุ่ม LGBT ในฮ่องกง ปีละ 100-200 คู่ต่อปี มาตั้งแต่ปี 2018 มองว่า กฎหมายสมรสเท่าเทียมในไทย ทำให้ลูกค้ามีจุดหมายทางเลือกมากขึ้น ที่สามารถจัดงานสมรสอย่างเปิดเผยในต่างประเทศ ซึ่งไทยเป็นประเทศที่ 3 ถัดจากไต้หวัน และ เนปาล ที่ผ่านกฎหมายรับรองการสมรสเพศเดียวกัน ที่ยังรวมถึงให้สิทธิ์การรับเลี้ยงบุตรบุญธรรม ประกันสุขภาพ และ การรับมรดก
เช่นเดียวกับ มาริโอ โลเปซ ประธานบริษัท Destination Weddings Expert ในสหรัฐอเมริกา ก็รู้สึกตื่นเต้นมาก และมีลูกค้าจำนวนไม่น้อย สนใจที่จะเดินทางมาจัดงานแต่งงานในประเทศไทย
กลุ่มนักท่องเที่ยวที่จะเพิ่มขึ้น ไม่ได้มีเฉพาะคู่สมรสเพศเดียวกัน และเครือญาติ ที่เข้ามาจัดงานเลี้ยงสมรสในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงกลุ่ม LGBT+ ที่หลากหลายทั้งหมดด้วย
เนื่องจากสำหรับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ การท่องเที่ยวไม่ใช่แค่การไปเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังเท่านั้น แต่พวกเขาต้องการสถานที่ที่สามารถ เดินทางพักผ่อนได้อย่างสบายใจ และเป็นที่ยอมรับในตัวตนที่แตกต่าง ซึ่งประเทศไทยกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่ตอบโจทย์คนกลุ่มนี้
จากรายงานของทีมที่ปรึกษาด้านนโยบายสาธารณะ ที่คาดการณ์ว่ากฎหมายสมรสเท่าเทียมจะสร้างงานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยได้มากกว่า 76,000 ตำแหน่ง และเพิ่ม GDP ให้ประเทศได้ถึง 0.3%
ทิมโมที ฮิวจ์ส รองประธานฝ่ายพัฒนาธุรกิจของ Agoda กล่าวว่า ในขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านของไทย ในระยะบินไม่เกิน 5 ชั่วโมง เป็นตลาดที่มีประชากรรวมกันถึง 3.6 พันล้านคน แต่ยังไม่มีกฎหมายนี้ ส่งให้ไทยมีจุดเด่นในการรองรับนักท่องเที่ยวกลุ่ม LGBT+ อีกทั้งไทยยังมีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวสูง แต่อยู่ในงบค่าใช้จ่ายที่จับต้องได้มากกว่า เมื่อเทียบกับ ออสเตรเลีย และ นิวซีแลนด์ ที่ทำตลาดดึงกลุ่มนักท่องเที่ยว LGBT+ เช่นเดียวกัน
1
นั่นจึงทำให้ไทยกลายเป็นจุดหมายระดับ 4A ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ได้ดีกว่าชาติอื่นๆ อันประกอบด้วย
1. Attractiveness: มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าดึงดูด
2. Accessibility: เข้าถึงง่าย ด้วยนโยบายปลอดวีซ่า
3. Affordability: ค่าใช้จ่ายเหมาะสม
4. Availability of substitutes: มีความพร้อมที่สามารถทดแทนจุดหมายปลายทางอื่นๆได้
ซึ่งเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่ง ที่ประเทศไทยได้รับการยอมรับจากนักท่องเที่ยวต่างชาติในมิติของสังคมที่เปิดกว้าง ยอมรับความหลากหลายทางเพศสภาพ ที่ทำให้พวกเขาเลือกที่จะมาเที่ยวเมืองไทยได้อย่างสบายใจ จนกลายเป็นจุดหมายขวัญใจชาวสีรุ้งนานาชาติได้นั่นเอง
****************
ติดตามบทความของ "หรรสาระ" เพิ่มเติมได้ที่
Facebook - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
Twitter - @HunsaraByJeans
Blockdit - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
แพลทฟอร์มคุณภาพ ไม่ปิดกั้นการมองเห็นเนื้อหา
****************
แหล่งข้อมูล
โฆษณา