Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
aomMONEY
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
3 ก.พ. เวลา 12:00 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
รู้จัก ‘Jevons Paradox’
ประเด็นที่ Satya Nadella CEO ของ Microsoft โพสต์เกี่ยวกับ Deepseek และทำไมอาจเป็นโอกาสการเติบโตครั้งใหม่ของ AI
เปิดสัปดาห์มาไม่มีข่าวอะไรที่สะเทือนวงการตลาดหุ้นเทคโนโลยีได้อย่าง DeepSeek อีกแล้ว
หลังจากที่สตาร์ตอัปจากประเทศจีนประกาศว่าพวกเขาสามารถพัฒนาโมเดล AI ที่แข่งขันกับ ChatGPT ได้ด้วยงบประมาณเพียง 5.6 ล้านดอลลาร์ โดยใช้ชิป AI รุ่นเก่า
ข่าวนี้ส่งผลให้หุ้น Nvidia ผู้ผลิตชิป AI ชั้นนำดิ่งลงอย่างหนัก จนสูญเสียมูลค่าตลาดไปถึง 600,000 ล้านดอลลาร์ในวันเดียว (มากกว่า GDP ประเทศไทยที่ 514,000 ล้านดอลลาร์ซะอีก)
แต่ท่ามกลางความโกลาหลนี้ สัตยา นาเดลลา (Satya Nadella) CEO ของ Microsoft ได้โพสต์ข้อความน่าสนใจบน X (Twitter เดิม) ในช่วงดึกของเมื่อวาน โดยอ้างอิงแนวคิดทางเศรษฐศาสตร์ที่เรียกว่า "Jevons Paradox" ซึ่งอาจเป็นกุญแจสำคัญในการทำความเข้าใจสถานการณ์นี้ได้เป็นอย่างดี
📍 [ Jevons Paradox คืออะไร และทำไมถึงสำคัญ? ]
'Jevons Paradox' เป็นแนวคิดที่ตั้งชื่อตาม วิลเลียม สแตนลีย์ เจวอนส์ (William Stanley Jevons) นักเศรษฐศาสตร์ชาวอังกฤษในศตวรรษที่ 19 หลักการนี้อธิบายปรากฏการณ์ที่น่าสนใจว่า: เมื่อประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากรเพิ่มขึ้น (ทำให้ต้นทุนต่อหน่วยลดลง) แทนที่การบริโภคจะลดลง กลับพบว่าการบริโภคโดยรวมเพิ่มขึ้น
เจวอนส์สังเกตปรากฏการณ์นี้ครั้งแรกในอังกฤษช่วงปฏิวัติอุตสาหกรรม เขาพบว่าเมื่อเครื่องจักรไอน้ำมีประสิทธิภาพมากขึ้น ใช้ถ่านหินน้อยลง แทนที่โดยรวมแล้วการใช้ถ่านหินควรจะลดลง กลับมีการเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล เพราะอุตสาหกรรมขยายตัวมากขึ้นตามต้นทุนที่ลดลง
หรือถ้าเป็นตัวอย่างที่ใกล้ตัวมากขึ้นเช่นรถยนต์สมัยใหม่ประหยัดน้ำมันมากขึ้น แต่คนกลับขับรถมากขึ้น เดินทางไกลขึ้น เพราะต้นทุนต่อกิโลเมตรถูกลง ทำให้การใช้น้ำมันโดยรวมไม่ได้ลดลงอย่างที่ควรจะเป็น
หรือการใช้ไฟฟ้า หลอดไฟ LED ประหยัดพลังงานมากกว่าหลอดไส้หลายเท่า แต่เพราะค่าไฟถูกลง หลายบ้านจึงเพิ่มจำนวนหลอดไฟ เปิดไฟทิ้งไว้นานขึ้น ทำให้การใช้พลังงานโดยรวมอาจไม่ได้ลดลงมากอย่างที่คาด
นาเดลลานำแนวคิดนี้มาประยุกต์กับสถานการณ์ของ DeepSeek อย่างชาญฉลาด เขาเขียนไว้บน X ว่า
"Jevons Paradox กลับมาอีกครั้ง! เมื่อ AI มีประสิทธิภาพและเข้าถึงได้ง่ายขึ้น เราจะได้เห็นการใช้งานพุ่งทะยานขึ้นไปบนฟ้า จนกลายเป็นปัจจัยพื้นฐานที่เราไม่มีวันอิ่มตัว”
พูดอีกอย่างคือ เมื่อ DeepSeek สามารถพัฒนา AI ได้ด้วยต้นทุนที่ต่ำลงนั้น แทนที่จะเป็นข่าวร้ายสำหรับอุตสาหกรรม กลับจะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการใช้งาน AI มากขึ้น เพราะเมื่อเทคโนโลยีมีประสิทธิภาพและเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ความต้องการใช้งานก็จะพุ่งสูงขึ้นตามไปด้วย
📍 [ มุมมองของผู้เชี่ยวชาญ: ตลาดอาจตอบสนองเกินจริง ]
ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านเห็นด้วยกับมุมมองของนาเดลลาด้วยเช่นกัน คริส เวอร์ซาเช่ (Chris Versace) ผู้จัดการพอร์ตการลงทุนที่มีประสบการณ์ในวอลล์สตรีท เตือนว่าเราไม่ควรด่วนตัดสินใจแบบ "ยิงก่อน ถามทีหลัง" เขาชี้ให้เห็นว่า DeepSeek เป็นเพียงสตาร์ตอัปอายุหนึ่งปีที่กำลังท้าทายบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีทั้งประสบการณ์และทรัพยากรมากกว่ามาก
มาร์ค มาเล็ค (Mark Malek) CIO ของบริษัทนายหน้าและบริการทางการเงิน Siebert มองว่าข่าว DeepSeek กลับเป็นข่าวดีสำหรับบริษัท AI ยักษ์ใหญ่ เพราะพิสูจน์ให้เห็นว่าการพัฒนา AI สามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งบริษัทใหญ่ๆ น่าจะกำลังทดลองวิธีการคล้ายๆ กันอยู่แล้ว
📍 [ โอกาสท่ามกลางวิกฤต ]
นักวิเคราะห์จาก BofA Securities มองว่าการพัฒนาของ DeepSeek อาจเป็นสัญญาณบวกสำหรับหุ้นซอฟต์แวร์ เพราะต้นทุนที่ต่ำลงในการรัน AI models จะเป็นประโยชน์ต่อกลุ่มซอฟต์แวร์โดยรวม
ซึ่งจริงๆ แล้ว หากพิจารณาให้ดี ตัวเลข 5.6 ล้านดอลลาร์ที่สร้างความตื่นตระหนกให้ตลาดนั้น ไม่ได้รวมต้นทุนการวิจัยก่อนหน้า และ แดน ไอเวส (Dan Ives) นักวิเคราะห์จาก Wedbush Securities ยังชี้ว่าบริษัทระดับ Global 2000 ในสหรัฐฯ คงไม่หันไปใช้บริษัท AI จากจีนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI ของตน และราคาของ Nvidia ที่ร่วงลงอาจจะเป็นโอกาสทองในการลงทุนด้วย
🎯 เหตุการณ์นี้สอนบทเรียนสำคัญเกี่ยวกับการลงทุนในยุค AI หลายประการ:
1) การตีความข่าวต้องมองให้รอบด้าน ไม่ด่วนสรุปจากตัวเลขเพียงตัวเดียว
2) การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่ดูเหมือนคุกคามอาจกลับกลายเป็นโอกาสในการเติบโตของตลาดโดยรวม
3) แนวคิดทางเศรษฐศาสตร์แบบ Jevons Paradox สามารถช่วยให้เราเข้าใจพลวัตของตลาดเทคโนโลยีได้ดีขึ้น
ในท้ายที่สุด การที่ตลาดหุ้นเริ่มฟื้นตัวอย่างรวดเร็วหลังการตกใจครั้งแรก (Nvidia ก็กลับมาบวก 9% แล้วคืนวันอังคาร) อาจเป็นสัญญาณว่านักลงทุนเริ่มเข้าใจภาพใหญ่มากขึ้น การพัฒนาของ DeepSeek ไม่ใช่จุดจบของยุค AI แต่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเติบโตครั้งใหม่ที่จะทำให้เทคโนโลยี AI แพร่หลายและเข้าถึงได้มากขึ้น ตามหลักการของ Jevons Paradox นั่นเอง
- โสภณ ศุภมั่งมี (บรรณาธิการ #aomMONEY)
⚠ *ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน*
#aomMONEY #JavonsParadox #Nvidia #Deepseek #SatyaNadella #Microsoft #การลงทุน #การเงิน #แนวทางการลงทุน #ตลาดหุ้น
2 บันทึก
6
2
6
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย