4 ก.พ. เวลา 00:24 • หุ้น & เศรษฐกิจ

🆙 ตลาดหุ้นฟื้นตัวหลังทรัมป์เลื่อนเก็บภาษีแคนาดาและเม็กซิโก 🤝

ตลาดหุ้นเอเชียมีแนวโน้มฟื้นตัวหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศชะลอการขึ้นภาษีสินค้าจากเม็กซิโกและแคนาดาออกไปอีกหนึ่งเดือน และมีแผนจะเจรจาการค้ากับจีนต่อไป ซึ่งช่วยลดแรงกดดันจากสงครามการค้าได้ชั่วคราว โดยตลาดหุ้นในซิดนีย์เปิดบวก ขณะที่ฟิวเจอร์สในฮ่องกงและโตเกียวปรับตัวขึ้น
ทั้งนี้นักลงทุนยังคงจับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับสงครามการค้าอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของตลาดทั่วโลก โดยเฉพาะในตลาดหุ้นจีนที่มีการปรับตัวลดลงเล็กน้อยหลังจากความกังวลเกี่ยวกับการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ หลังจากจะถึง deadline ใน 24 ชั่วโมงนี้
แม้ทรัมป์จะส่งสัญญาณพร้อมเจรจากับจีนเพิ่มเติม แต่ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสองประเทศยังคงสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นเกี่ยวกับเทคโนโลยีและนโยบายอุตสาหกรรม โดยตลาดได้รับผลกระทบจากความกังวลเกี่ยวกับการแข่งขันในเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ระหว่างจีนและสหรัฐฯ
โดยบริษัทจีนอย่าง DeepSeek กำลังสร้างแรงกดดันต่อตลาดเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนสถาบันอย่างกองทุนเฮดจ์ฟันด์ขายหุ้นสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ค่าเงินหยวนปรับตัวขึ้น 0.1% สู่ระดับ 7.3015 ต่อดอลลาร์สหรัฐ สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในตลาดการเงินจีน แม้ว่าจะยังมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเจรจาการค้ารอบใหม่
นักวิเคราะห์จาก BMO Wealth Management ระบุว่า "แม้ภาษีศุลกากรจะถูกใช้เป็นเครื่องมือในการเจรจา แต่ก็ยากที่จะคาดเดาว่าการเจรจากับจีนจะจบลงอย่างไรในระยะสั้น"
🤝 ข้อตกลงระหว่างสหรัฐฯ - แคนาดา - เม็กซิโกช่วยหลีกเลี่ยงสงครามการค้าชั่วคราว
ทรัมป์ตกลงชะลอการเก็บภาษี 25% กับแคนาดาและเม็กซิโกเป็นเวลา 30 วัน หลังจากทั้งสองประเทศให้คำมั่นที่จะใช้มาตรการที่เข้มงวดขึ้นในการควบคุมการอพยพและการค้ายาเสพติด โดยแคนาดาจะตั้ง “เจ้าหน้าที่พิเศษด้านเฟนทานิล” และออกมาตรการร่วมกับสหรัฐฯ ในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ
ค่าเงินดอลลาร์แคนาดาพุ่งขึ้นมากกว่า 1% หลังข่าวดังกล่าว ขณะที่ค่าเงินเปโซของเม็กซิโกก็นำกลุ่มสกุลเงินเสี่ยงปรับตัวขึ้น ทั้งนี้ แคนาดาเตรียมตอบโต้ด้วยการเก็บภาษี 25% กับสินค้าสหรัฐฯ มูลค่า 30 พันล้านดอลลาร์ หากภาษีดังกล่าวถูกบังคับใช้
ตลาดหุ้นและตลาดการเงินทั่วโลกได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายภาษีของสหรัฐฯ โดย
- ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 0.8% ขณะที่ Nasdaq 100 ลดลง 0.8%
- กลุ่มหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ "Magnificent Seven" ร่วงลง 1.7%
- หุ้นจีนที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง 0.5%
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี คงที่ที่ 4.53%
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 1% สู่ระดับ 72.40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
- ราคาทองคำทรงตัวหลังจากทำจุดสูงสุดระหว่างวัน
ขณะที่นักวิเคราะห์จาก UBS Global Wealth Management เชื่อว่าการประกาศภาษีอาจสร้างความผันผวน แต่ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจหรือกำไรของบริษัทในระยะยาว อย่างไรก็ตาม Goldman Sachs คาดการณ์ว่าหากมาตรการภาษีถูกบังคับใช้เป็นระยะเวลานาน อาจส่งผลให้ดัชนี S&P500 ปรับตัวลดลง 5% และลดคาดการณ์กำไรของบริษัทจดทะเบียนลง 2-3%
โฆษณา