18 ก.พ. เวลา 05:42 • ธุรกิจ

Boeing วิศวกรสร้าง MBA ทำลาย 80 ปีแห่งความยิ่งใหญ่ จบลงด้วยความโลภเพียงชั่วข้ามคืน

เคยสงสัยไหมว่าทำไมบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Boeing ที่เคยเป็นผู้นำด้านการบินมานานกว่า 80 ปี ถึงได้ประสบปัญหาครั้งใหญ่แบบนี้? ทั้งเครื่องบินที่ปัญหามากมาย ความไม่ไว้วางใจจากผู้โดยสาร หรือแม้กระทั่งสายการบินต่าง ๆ ที่เริ่มสั่งซื้อเครื่องบิน Boeing น้อยลง
เรื่องราวเริ่มต้นในปี 1916 ท่ามกลางสงครามโลกครั้งที่ 1 เมื่อ William Boeing ได้ก่อตั้งบริษัทผลิตเครื่องบินให้กับกองทัพเรือสหรัฐฯ เขาเป็นคนมองการณ์ไกล เชื่อว่าการเดินทางทางอากาศจะเป็นอนาคตของการขนส่ง
ตอนแรก Boeing ทำแค่เครื่องบินทหาร แต่หลังสงครามจบ เขาเริ่มหันมาทำเครื่องบินสำหรับพลเรือน William ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและคุณภาพมาก จนกลายเป็นวัฒนธรรมองค์กรที่ฝังรากลึก
ปี 1958 เป็นปีทองของ Boeing เมื่อพวกเขาส่งมอบ Boeing 707 เครื่องบินเจ็ทเชิงพาณิชย์ลำแรกที่ผลิตในอเมริกา มันเป็นการปฏิวัติวงการการบิน ทำให้ Boeing ก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดอย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้น Boeing ทุ่มเงินมหาศาลเพื่อวิจัยและพัฒนา พวกเขามีทีมวิศวกรที่เก่งและทุ่มเทสุดๆ ไม่ใช่แค่ออกแบบเครื่องบิน แต่ยังคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ล้ำหน้ากว่าใครในตลาด
จุดสูงสุดของ Boeing คือการสร้าง Boeing 747 ในปี 1965 พวกเขากล้าทุ่มเงินถึง 1 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นครึ่งหนึ่งของรายได้บริษัทในตอนนั้น เพื่อสร้างเครื่องบินที่ใหญ่ที่สุดในโลก
Boeing 747 เจ๋งมาก บรรทุกคนได้ 460 คน บินไกลได้ถึง 9,200 ไมล์โดยไม่ต้องแวะเติมน้ำมัน ในขณะที่คู่แข่งอย่าง Airbus 300 บรรทุกได้แค่ 247 คน บินได้ไกลแค่ 4,600 ไมล์
สิ่งที่ทำให้ Boeing เจริญรุ่งเรืองมา 70 ปีคือการที่บริษัทบริหารงานโดยวิศวกร พวกเขาให้ความสำคัญกับคุณภาพและความปลอดภัยมากกว่ากำไร ผู้บริหารก็เป็นวิศวกรที่เข้าใจงานจริงๆ เรื่องผลกำไรเป็นเพียงเรื่องรอง
แต่แล้วในปี 1996 Boeing ตัดสินใจซื้อกิจการ McDonald Douglas มูลค่า 13 พันล้านดอลลาร์ ดูเหมือนจะเป็นการตัดสินใจที่ดี เพราะจะได้เพิ่มส่วนแบ่งตลาดจาก 53% เป็น 72%
แต่สิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดคือ Harry Stonecipher ซีอีโอของ McDonald Douglas กลับได้มาเป็นผู้นำ Boeing แถมยังพาทีมผู้บริหารเก่ามาด้วย
การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเร็วมาก พวกเขาแยกทีมงานออกเป็นหน่วยย่อยๆ ลดอำนาจวิศวกร และหันมาเน้นผลกำไรเป็นหลัก Boeing เริ่มจ้างบริษัทภายนอกผลิตชิ้นส่วน ทั้งในญี่ปุ่น อิตาลี และมาเลเซีย
การจ้างงานนอกสร้างปัญหาเยอะมาก ควบคุมคุณภาพยาก ผิดพลาดบ่อย สื่อสารยุ่งยาก งบบานปลายจาก 8-20 พันล้านเป็น 32 พันล้านดอลลาร์
แถม Boeing ยังเลิกจ้างพนักงาน 50,000 คน ทำให้เสียความเชี่ยวชาญภายในองค์กร แทนที่จะลงทุนพัฒนาผลิตภัณฑ์ กลับเอาเงิน 61 พันล้านดอลลาร์ไปซื้อหุ้นคืนเพื่อปั่นราคาหุ้น
เรื่องแย่ลงเมื่อ American Airlines ที่เคยซื้อเครื่องบินจาก Boeing อย่างเดียวมา 15 ปี เริ่มหันไปซื้อจาก Airbus เพราะเครื่องบินมีประสิทธิภาพดีกว่า
แทนที่จะลงทุน 20 พันล้านดอลลาร์พัฒนาเครื่องบินใหม่ Boeing กลับเลือกทางลัด ใช้เงินแค่ 2.5 พันล้านปรับปรุง 737 เดิม แล้วเรียกว่า 737 MAX
การตัดสินใจแบบลัดขั้นตอนนำไปสู่โศกนาฏกรรม เครื่องบิน 737 MAX ตกสองลำในเวลาใกล้เคียงกัน คร่าชีวิตผู้โดยสารและลูกเรือ 346 คน
สาเหตุคือระบบ MCAS ที่ติดตั้งเพิ่มเพื่อแก้ปัญหาเครื่องยนต์ใหม่ แต่กลับไม่แจ้งให้นักบินรู้ ทำให้พวกเขาควบคุมเครื่องไม่ได้เมื่อระบบทำงานผิดพลาด
วิกฤตนี้ทำให้ราคาหุ้น Boeing ดิ่งลง 49% ใน 5 ปี เสียคำสั่งซื้อมูลค่ามหาศาล และที่แย่ที่สุดคือเสียความเชื่อมั่นจากทั่วโลก
ปัญหายังไม่จบ ใน 10 ปีที่ผ่านมา มีเหตุการณ์ผิดปกติถึง 970 ครั้ง ล่าสุดต้นปี 2024 มีประตูฉุกเฉินหลุด สลักเกลียวหลวม และน้ำมันรั่ว
เรื่องของ Boeing สอนเราว่า ธุรกิจต้องสร้างคุณค่าระยะยาว ไม่ใช่แค่หวังกำไรเร็วๆ การลงทุนพัฒนาและรักษาคนเก่งๆ ไว้สำคัญมาก
วัฒนธรรมองค์กรที่ดีและความปลอดภัยเป็นสิ่งที่ต้องรักษาไว้ ไม่ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรก็ตาม การเติบโตต้องค่อยๆ ทำ ไม่ใช่รีบร้อนจนเสียหลัก
เรื่องนี้เตือนใจว่า แม้แต่บริษัทยักษ์ใหญ่ก็ล้มได้ ถ้าลืมคุณค่าที่ทำให้ตัวเองประสบความสำเร็จ ความสำเร็จที่แท้จริงไม่ได้วัดแค่ตัวเลข แต่ต้องดูที่การรักษาสมดุลระหว่างธุรกิจ คุณภาพ และความรับผิดชอบต่อลูกค้าด้วย
◤━━━━━━━━━━━━━━━◥
หากคุณชอบคอนเทนต์นี้อย่าลืม 'กดไลก์'
หากคอนเทนต์นี้โดนใจอย่าลืม 'กดแชร์'
คิดเห็นอย่างไรคอมเม้นต์กันได้เลยครับผม
◣━━━━━━━━━━━━━━━◢
ติดตามสาระดี ๆ อัพเดททุกวันผ่าน Line OA ด.ดล Blog
คลิกเลย --> https://lin.ee/aMEkyNA
รวม Blog Post ที่มีผู้อ่านมากที่สุด
——————————————–
ติดตาม ด.ดล Blog เพิ่มเติมได้ที่
=========================
โฆษณา