ทั้งนี้ รายงานจาก Deadline ก็เสริมด้วยว่า การเลื่อนกำหนดฉายของหนังทั้งสองเรื่องนั้น ซึ่งตอนนี้ถือเป็นหนึ่งในโครงการที่ใหญ่โตสุดเท่าที่เคยสร้างมา เกิดขึ้นเพื่อให้มีช่วงเวลาที่มากพอและสอดรับต่อวิสัยทัศน์อันยักษ์ใหญ่ของหนัง ซึ่งถึงแม้ แฟรนไชส์ของ “Avengers” มักจะเข้าฉายช่วงฤดูกาลบล็อคบัสเตอร์มาตลอด แต่การขยับไปช่วงปลายปี ก็อาจเป็นช่วงเวลาที่สามารถสร้างความประสบความสำเร็จทางรายได้แบบเดียวกับที่ “Spider-Man: No Way Home” เคยทำได้
โดยจากกำหนดฉายใหม่นี้ ทำให้หนังเรื่องถัดไปของ Marvel Studios ที่จะฉายต่อจาก “The Fantastic Four: The First Steps” นั้น จะกลายเป็นภาคต่อสไปเดอร์แมนของ ทอม ฮอลแลนด์ อย่าง “Spider-Man: Brand New Day” ที่มีกำหนดฉาย กรกฎาคม 2026 แทน
ซึ่งนอกจากกำหนดฉายของหนัง “Avengers” ทั้งสองภาค ทาง Disney ก็ยังวางกำหนดฉายของสตูดิโอ 20th Century Studios อย่าง “The Dog Stars” หนังไซไฟหลังโลกล่มสลายของผู้กำกับฯ ริดลีย์ สก็อตต์, ภาคต่อ “The Devil Wears Prada 2” รวมถึงกำหนดฉายของ “Avatar: The Way of Water” ที่เตรียมหวนกลับมาฉายอีกครั้ง เพื่อต้อนรับภาคต่ออย่าง “Avatar: Fire and Ash” ที่ฉายปลายปี 2025