Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
“วันละเรื่องสองเรื่อง”
•
ติดตาม
28 พ.ค. เวลา 01:41 • ความคิดเห็น
🗣️ พูดให้โดนใจใน 5 นาที?
(Soft Power ลับของผู้นำยุคข้อมูลล้น 🌪️📈)
“บอกมาเลย คุณอยากให้ผมตัดสินใจอะไร?”
“ผมมีเวลาแค่ 5 นาที สรุปมาให้ชัด”
นี่คือประโยคสุดคลาสสิกที่คนทำงานระดับกลางถึงอาวุโสมักเจอเมื่อได้เข้าห้องคุยกับผู้บริหารระดับสูง (CXO) หรือ Stakeholder ใหญ่ๆ
และนี่แหละครับ — จุดตัดสินว่า คุณจะ "ได้ไฟเขียว" หรือ "โดนเชือดกลางห้อง" มันอยู่ที่ว่า…คุณพูดได้ สั้น ง่าย ได้ใจความ หรือไม่?
====
🎯 ทำไมผู้นำยุคนี้ต้องพูดแบบ "One Breath – Big Impact"
ในโลกที่ข้อมูลไหลเข้าหูคนตลอดเวลา "คนที่ พูดได้กระชับ และ เจาะตรงแก่น" คือคนที่สร้างอิทธิพลในห้องประชุมและนอกห้องประชุมได้จริง
❌ พูดเยิ่นเย้อ ไม่ได้แปลว่าคุณรอบรู้
✅ พูดให้รู้เรื่องในระยะเวลาสั้นๆ— นั่นแหละ "ของจริง"
โดยเฉพาะเมื่อคุณต้อง Present ต่อบอร์ด, เสนอแผนกับ C-level หรือ Convince ลูกค้า B2B ระดับ Enterprise — บอกเลยว่า "ไม่มีใครมีเวลาให้คุณ warming up"
“พูดไม่เคลียร์ = โอกาสหาย”
“พูดไม่เข้าใจ = เขาไม่ลงทุนต่อ”
และยิ่งในยุค AI ที่ทุกคนมี access ต่อ insight และ data มากมาย — คนที่พูดแล้ว "ตกผลึก" ได้ไว คือคนที่ได้ไปต่อ
====
🔍 C.L.E.A.R. Model: 5 ขั้นตอนสื่อสารให้สั้นแต่ทรงพลัง 💡
1. 🧠 C = Core Message ก่อนเสมอ
ถามตัวเองก่อนพูดว่า
* ประเด็นสำคัญสุดคืออะไร?
* ต้องการให้คนฟัง "รู้ รู้สึก หรือทำ" อะไรหลังจบ?
เทคนิค: สรุปให้ได้ใน 1 ประโยคก่อนเริ่มพูด เช่น “วันนี้ผมอยากเสนอให้เราปรับวิธี onboarding เพื่อให้ลูกค้าใช้บริการใน 3 วัน ไม่ใช่ 3 สัปดาห์”
Tip: ถ้าคุณพูดเกิน 15 วินาทีแล้วคนยังไม่รู้ว่าเราจะเสนออะไร = คุณยังไม่ได้เข้าแก่น
2. 👂 L = Listen & Adjust
อ่านคนฟังให้ออก
* เขาเป็นคน type ไหน? ชอบข้อมูล หรือชอบ Action?
* เขามีเวลามากน้อยแค่ไหน?
Tip: ถ้าเจอ C-level ที่ไม่ชอบรายละเอียด ให้พูดสั้นที่สุด แล้วรอคำถามเจาะกลับ
ยิ่งคุณรู้ว่าเขาเคยฟังอะไรมาแล้ว ยิ่งเลี่ยงการพูดซ้ำ — และใช้คำที่ connect กับบริบทเขา เช่น "ROI", "Risk", "Customer Impact"
3. 📊 E = Explain with Structure
ใช้สูตร What – Why – How?
* What: เรากำลังพูดเรื่องอะไร?
* Why: มันสำคัญเพราะอะไร?
* How: แล้วเราจะแก้ยังไง?
เพิ่ม Power ด้วยการ "เริ่มจากผลลัพธ์ก่อน (BLUF: Bottom Line Up Front)" เช่น: “เราต้องเปลี่ยนแพลตฟอร์ม เพราะลูกค้าลดลง 18% และระบบเก่ารับไม่ไหวในไตรมาสหน้า”
BLUF ใช้ดีมากเมื่อคุณมีเวลาน้อย หรือคนฟังอยากได้ผลลัพธ์ก่อนเหตุผล
4. 🚥 A = Align with Stakeholders
อย่าพูดคนเดียว!
* ชวนผู้ฟัง engage ด้วยคำถามเปิด
* สังเกตสีหน้า ท่าทาง ถ้ารู้สึกเริ่มเบื่อ — สรุปเลย!
ลองถามว่า: “ท่านเห็นด้วยไหมครับ ถ้าเราลอง solution A ก่อน แล้วค่อย scale?”
Alignment สำคัญกว่าการเล่าเรื่องให้จบ — ถ้าคนฟังไม่เดินไปพร้อมคุณตั้งแต่ต้น ต่อให้พูดดีแค่ไหน เขาก็ไม่ซื้อ
5. 🔁 R = Recap + Request Action
ก่อนจบ ต้องทำ 2 อย่าง
1. สรุปให้ฟังอีกรอบใน 1 ประโยค
2. ขอการตัดสินใจหรือ Action ทันที
ตัวอย่าง: “สรุปคือ เราเสนอให้ลด onboarding time ลง 70% ภายในเดือนนี้ ถ้าท่าน OK ผมจะ initiate sprint ได้ทันทีครับ”
ห้ามจบแบบปลายเปิด — ถ้าเขาไม่ตอบอะไรกลับมา = คุณไม่ได้อะไรเลย
===
✍️ ตัวอย่าง : Pitch แบบไหนได้งาน vs เสียโอกาส
❌ แบบเสียโอกาส
“คือ...ทีมเราก็ได้ลองดูหลายๆ แบบนะครับ แล้วก็พบว่ามีหลายจุดที่น่าจะต้องปรับ เช่น การใช้งานที่ลูกค้าบ่นมา…”
สถานการณ์นี้เกิดขึ้นจริงในการประชุม roadmap review ของบริษัทขนาดกลางในสาย SaaS ทีมพัฒนาถูกเชิญเข้ามาเสนอไอเดียเพื่อลด churn rate แต่กลับใช้เวลา 4 นาทีพูดวนอยู่กับปัญหาและ feedback ทั่วไป โดยไม่มีข้อมูลชัดเจนหรือข้อเสนอที่จับต้องได้ ผลคือ ผู้บริหารตอบกลับว่า "ขอเขียนสรุปมาใหม่ แล้วค่อยนัดอีกรอบ" — โอกาสจบไปตั้งแต่ยังไม่ทันเข้าเนื้อหา
✅ แบบได้งาน
“ลูกค้า 32% ไม่สามารถ activate ได้ภายใน 7 วัน เราจึงออกแบบ onboarding flow ใหม่ที่ลดเวลาลง 70% ขออนุมัติ A/B test สัปดาห์หน้า”
นี่คือตัวอย่างจาก startup ที่เพิ่ง pitching กับ VC โดยใช้หลักการ BLUF (Bottom Line Up Front) เปิดด้วยข้อมูลจริงที่ชี้ให้เห็น pain point ชัดเจน ตามด้วยแนวทางแก้ที่ทีมพร้อม execute ทันที พร้อม action request ที่เรียบง่ายและวัดผลได้ VC ตอบกลับทันทีว่า "go ahead — ส่งผลลัพธ์กลับมาภายใน 10 วัน" และการระดมทุนรอบ Seed ก็จบในเวลาไม่ถึง 3 สัปดาห์หลังจากนั้น
"ต่างกันแค่เริ่มต้น...แต่ impact ต่างกันเป็นโลก"
====
🚀 ดังนั้น Soft Skill จะกลายเป็น Hard Advantage
“พูดดี = ได้โอกาส” 🎯
“พูดแม่น = ได้ความเชื่อใจ” 🤝
“พูดได้ใจ = ได้คนร่วมทาง” ❤️
ผู้นำที่ดีไม่ใช่คนที่พูดเก่งสุดในห้อง แต่เป็นคนที่ พูดแล้วคนฟังเข้าใจ และอยากทำตาม มากที่สุด
และข่าวดีคือ: ทักษะนี้ฝึกได้ทุกวัน เริ่มจากทุก Meeting และทุกครั้งที่คุณต้องพูดต่อหน้าใครก็ตาม
🎤 เทคนิคทั้งหมดในบทความนี้ไม่ได้มีไว้แค่สำหรับ CEO หรือ Sales แต่เหมาะกับทุกคนที่ต้องสื่อสารให้เกิดผล — ไม่ว่าจะเป็น Project Manager, HR, Designer, Engineer หรือใครก็ตามที่ต้องสื่อสารเพื่อเปลี่ยนแปลง
💬 "ในโลกที่เวลาแต่ละวินาทีมีค่า คนที่พูดให้เข้าใจในลมหายใจเดียว...คือคนที่จะได้ไปต่อ"
#วันละเรื่องสองเรื่อง #พูดให้ได้งาน 🎯 #SoftSkillที่ผู้นำต้องมี 🤝 #LeadershipCommunication 🧠 #Pitchแบบได้ใจ 🔥
storytelling
บันทึก
1
1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย