Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
A Broad vot
•
ติดตาม
7 มิ.ย. เวลา 09:08 • ท่องเที่ยว
1️⃣1️⃣ สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของรัสเซีย
🇷🇺 ไม่ได้มีแค่เอียร์คุสต์ และมูรมันส์🌲🌲🌲
ในฐานะดินแดนอันกว้างใหญ่ไพศาลที่
ครอบคลุมทั้งยุโรปตะวันออกและเอเชียเหนือ
https://www.facebook.com/share/p/1C7QvY5KaZ/
รัสเซียคือขุมทรัพย์ของความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่หลากหลายและน่าทึ่ง ตั้งแต่ทะเล
สาบอันลึกสุดหยั่งถึงไปจนถึงภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่น
จากป่าโบราณไปจนถึงภูมิประเทศน้ำแข็งอันกว้างใหญ่ แต่ละแห่งล้วนบอกเล่าเรื่องราวของพลังแห่งธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ ได้รวบรวม สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของรัสเซียที่โดดเด่นที่สุด มาให้ได้รู้จัก
ถึงความงดงามอันเป็นเอกลักษณ์
ของดินแดนแห่งนี้รอให้เราไปค้นพบ
✅ ทะเลสาบไบคาล (Lake Baikal)
ทะเลสาบน้ำจืดที่ลึกที่สุดในโลก (ลึกถึง 1,642 เมตร) และมีปริมาณน้ำจืดมากที่สุดในโลก (ประมาณ 20% ของน้ำจืดบนโลก) ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO ด้วยอายุประมาณ 25-30 ล้านปี ทำให้เป็นทะเลสาบที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ทะเลสาบไบคาลเป็นที่อยู่อาศัยของพืชและสัตว์หลายพันชนิด รวมถึงสัตว์เฉพาะถิ่นที่ไม่พบที่อื่นใดในโลก เช่น
แมวน้ำไบคาล (Baikal Seal) ซึ่งเป็นแมวน้ำน้ำจืดชนิดเดียวในโลก ในฤดูหนาว น้ำแข็งบนทะเลสาบจะแข็งตัวหนา สร้างปรากฏการณ์น้ำแข็งที่สวยงามแปลกตา รวมถึงฟองอากาศที่ถูกกักอยู่ใต้น้ำแข็ง
คู่มือเทึ่ยวไบคาล 👇👇👇
https://www.facebook.com/share/p/19H4bctzMC/
✅ ภูเขาไฟคัมชัตกา (Volcanoes of Kamchatka) คาบสมุทรคัมชัตกาเป็นที่ตั้งของภูเขาไฟมากกว่า 300 ลูก โดยมีภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่ประมาณ 30 ลูก ทำให้เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีภูเขาไฟหนาแน่นที่สุดในโลก ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO เนื่องจากมีความหลากหลายทางชีวภาพและภูมิทัศน์ทางธรณีวิทยาที่เป็นเอกลักษณ์ ภูเขาไฟที่โดดเด่น เช่น Klyuchevskaya Sopka สูง 4,750 เมตร เป็นภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นที่สูงที่สุดในยูเรเซีย
และเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องการปะทุที่รุนแรง
👇👇👇 (เพิ่มเติม)
https://www.facebook.com/share/p/1CVKLYeEwN/
❌ ทะเลสาบแจ็ค ลอนดอน (Jack London)
ความงดงามอันลี้ลับแห่งมาดากัน
ท่ามกลางภูมิประเทศอันกว้างใหญ่และเปลี่ยวเหงาของภูมิภาคมาดากัน (Magadan)ทางตะวันออกไกลของรัสเซีย ใกล้กับแม่น้ำโคลิมาอันเลื่องชื่อ มีอัญมณีซ่อนเร้นแห่งหนึ่งที่งดงามราวกับภาพวาด นั่นคือ
ทะเลสาบแจ็ค ลอนดอน แม้บริเวณโดยรอบจะมีสภาพอากาศที่รุนแรงและมีหน้าประวัติศาสตร์ที่มืดมนจากค่ายกูลักอันโหดร้ายที่สุดในยุคโซเวียต
แต่ความงามตามธรรมชาติของทะเลสาบแห่งนี้ก็ยังคงไม่เลือนหาย และเปล่งประกายอย่างน่าอัศจรรย์
ทะเลสาบแจ็ค ลอนดอนเป็นทะเลสาบที่ยาวและแคบ มีลักษณะภูมิประเทศคล้าย ฟยอร์ด (fjord) ที่คดเคี้ยวไปตามหุบเขาอันสูงชัน น้ำในทะเลสาบมีความใสราวคริสตัล สะท้อนภาพภูเขาที่ปกคลุมด้วยป่าสนทึบและทุ่งทุนดราในฤดูร้อน และกลายเป็นสีขาวโพลนในฤดูหนาวที่ทุกสิ่งถูกปกคลุมด้วยหิมะและน้ำแข็ง ความโดดเดี่ยวและบรรยากาศอันเงียบสงบทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ที่เปี่ยมไปด้วยมนตร์ขลัง เหมาะแก่การสำรวจและค้นหาความสงบภายในใจ
สิ่งที่ทำให้ทะเลสาบแห่งนี้มีเสน่ห์เป็นพิเศษคือที่มาของชื่ออันแปลกประหลาด มีความเชื่อกันว่าชื่อนี้ได้รับการตั้งขึ้นโดย นักธรณีวิทยาผู้หลงใหลในผลงานของแจ็ค ลอนดอน jack London นักเขียนชาวอเมริกันผู้มีชื่อเสียงจากเรื่องราวการผจญภัยในดินแดนอันทุรกันดารและบทบาทของมนุษย์ในการเอาชีวิตรอดจากธรรมชาติอันโหดร้าย ซึ่งอาจเข้ากับบรรยากาศของภูมิภาคมาดากันได้อย่างลงตัว
ยังมีตำนานอีกบทหนึ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่า โดยเล่าว่าสมาชิกของคณะสำรวจชุดแรกที่เดินทางมาถึงทะเลสาบแห่งนี้ ได้ค้นพบหนังสือ.Martin Eden"
ซึ่งเป็นผลงานชิ้นเอกอีกเล่มหนึ่งของแจ็ค ลอนดอน วางอยู่ริมทะเลสาบอย่างลึกลับ การค้นพบที่เหลือเชื่อนี้ได้นำมาซึ่งการตั้งชื่อทะเลสาบเพื่อเป็นเกียรติแก่นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ผู้นี้ ซึ่งเรื่องราวของเขาก็สะท้อนถึงจิตวิญญาณแห่งการผจญภัยและการค้นพบที่ซ่อนอยู่ในสถานที่แห่งนี้
แม้จะมีความยากลำบากในการเข้าถึงและสภาพอากาศที่ท้าทาย ทะเลสาบแจ็ค ลอนดอนก็ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางในฝันสำหรับนักผจญภัยและผู้ที่ต้องการหลีกหนีจากความวุ่นวายของโลกภายนอก ที่นี่เป็นมากกว่าแค่ทะเลสาบ แต่เป็นสถานที่ที่ธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และตำนาน ผสานรวมกันอย่างลงตัว สร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำและกระตุ้นจินตนาการให้โลดแล่นไปกับเรื่องราวของดินแดนอันไกลโพ้นแห่งนี้
❌ เสาหินมานปูปูเนอร์ (Manpupuner Rock
Formations) หรือ เสาหินเจ็ดอันศักดิ์สิทธิ์
ท่ามกลางความเวิ้งว้างของภูมิประเทศอันห่างไกลในสาธารณรัฐโคมี (Komi Republic) ทางตอนเหนือของเทือกเขายูรัล ประเทศรัสเซีย มีกลุ่มรูปปั้นหินสูงตระหง่านที่ตั้งตระหง่านท้าทายกาลเวลา นั่นคือ
เสาหินมานปูปูเนอร์ หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่า ัเสาหินเจ็ดอันศักดิ์สิทธิ์ ปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยาอันน่าทึ่งแห่งนี้ถือเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของรัสเซีย*และเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวลี้ลับและพลังงานอันศักดิ์สิทธิ์
เสาหินแต่ละต้นมีความสูงที่แตกต่างกันไป ตั้งแต่ประมาณ 30 เมตร ไปจนถึง 42 เมตร*เทียบได้กับตึกสูงหลายสิบชั้น สิ่งที่ทำให้เสาหินโดดเด่นคือรูปทรงที่แปลกตาและแตกต่างกันไป บางต้นมีลักษณะคล้ายขวดคว่ำ บางต้นคล้ายหัวคน หรือบางต้นก็ตั้งตรงสูงเสียดฟ้า ราวกับถูกแกะสลักโดยประติมากรผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
แท้จริงแล้ว รูปทรงเหล่านี้คือผลงานอันยาวนานของธรรมชาติ เกิดจากการ กัดเซาะของลมและน้ำแข็ง*ที่พัดผ่านและกัดกร่อนหินมานานหลายล้านปี ทำให้ส่วนที่อ่อนนุ่มของหินถูกพัดพาไป เหลือไว้เพียงแกนหินที่แข็งแกร่งกว่าซึ่งยืนหยัดอยู่ได้จนถึงปัจจุบัน
นอกจากความงดงามทางธรณีวิทยาแล้ว เสาหินมานปูปูเนอร์ยังเปี่ยมไปด้วยตำนานและความเชื่อของชนพื้นเมืองชาว Mansiอาศัยอยู่ในแถบนี้มานานนับพันปี เชื่อว่าเสาหินเหล่านี้คือกลุ่มยักษ์เจ็ดตนที่ออกเดินทางเพื่อทำลายล้างชนเผ่ามันซี แต่แล้วก็ถูกสาปให้กลายเป็นหินโดยวิญญาณแห่งภูเขา ทำให้พวกมันต้องยืนนิ่งอยู่เช่นนั้นไปตลอดกาล ด้วยเรื่องเล่านี้ ทำให้เสาหินแห่งนี้ถูกมองว่าเป็นสถานที่ที่มีพลังงานลึกลับและเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนให้ความเคารพ
การเดินทางไปยังเสาหินมานปูปูเนอร์นั้นยากลำบากและใช้เวลา เนื่องจากตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ห่างไกลและเข้าถึงได้ยากที่สุดแห่งหนึ่งของรัสเซีย โดยทั่วไปแล้ว การเดินทางจะต้องผ่านป่าทึบและภูเขาด้วยวิธีการหลากหลาย ทั้งการเดินป่า การใช้ยานพาหนะออฟโรด หรือแม้แต่เฮลิคอปเตอร์ในช่วงฤดูร้อน
❌ เสาหินเลน่าา (Lena Pillars)
มหัศจรรย์หินปูนริมฝั่งแม่น้ำในสาธารณรัฐซาฮา
ในดินแดนอันกว้างใหญ่ไพศาลของสาธารณรัฐซาฮา ทางตะวันออกเฉียงเหนือของไซบีเรีย ประเทศรัสเซีย มีปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอันน่าตื่นตาตื่นใจที่ทอดยาวเลียบไปตามริมฝั่งแม่น้ำเลน่าอันยิ่งใหญ่ นั่นคือ เสาหินเลน่ กลุ่มเสาหินปูนธรรมชาติที่ตั้งตระหง่านราวกับป้อมปราการแห่งธรรมชาติ ความงามอันเป็นเอกลักษณ์และคุณค่าทางธรณีวิทยาทำให้เสาหินเหล่านี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO เมื่อปี 2012
เสาหินเลน่าแต่ละต้นมีความสูงที่น่าทึ่ง โดยบางต้นสูงถึง 100 เมตร หรือเทียบเท่าตึกสูงกว่า 30 ชั้น เสาหินเหล่านี้ไม่ได้ยืนอยู่โดดเดี่ยว แต่ทอดยาวเป็นแนวต่อเนื่องกว่าหลายกิโลเมตรตามแนวโค้งของแม่น้ำเลน่า สร้างทัศนียภาพที่น่าเกรงขามและชวนให้หลงใหล รูปทรงของเสาหินมีความหลากหลาย บางต้นเป็นแท่งตรง บางต้นมีลักษณะคล้ายปราสาท หรือบางต้นก็มีรอยเว้าแหว่งจากการกัดเซาะอย่างต่อเนื่อง
การก่อตัวของเสาหินเหล่านี้เป็นผลมาจากกระบวนการทางธรณีวิทยาที่ใช้เวลานานหลายล้านปี เดิมทีเป็นชั้นหินปูนที่สะสมตัวอยู่ใต้ทะเลเมื่อหลายร้อยล้านปีก่อน จากนั้นการยกตัวของเปลือกโลกทำให้ชั้นหินเหล่านี้โผล่ขึ้นมาสู่พื้นผิว และถูกกัดเซาะโดยลมและน้ำ โดยเฉพาะน้ำแข็งที่ละลายในช่วงฤดูร้อนและการขยายตัวของน้ำแข็งในรอยแยกของหินช่วงฤดูหนาว อย่างช้าๆ มาอย่างต่อเนื่อง ก่อให้เกิดรูปทรงที่น่าทึ่งที่เราเห็นในปัจจุบัน
การเยี่ยมชมเสาหินเลน่ามักทำได้โดยการล่องเรือไปตามแม่น้ำเลน่า ซึ่งเป็นแม่น้ำสายยาวที่ไหลผ่านภูมิประเทศที่งดงามและยังคงความบริสุทธิ์ การล่องเรือจะทำให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับความยิ่งใหญ่ของเสาหินเหล่านี้จากมุมมองที่แตกต่างกัน พร้อมทั้งได้ดื่มด่ำกับความเงียบสงบและทัศนียภาพของป่าสนทึบและภูเขาที่อยู่รายรอบ
✅ อ่าวติคายาและเกาะซาฮาลิน
บนผืนน้ำอันเวิ้งว้างทางตะวันออกสุดของรัสเซีย
ที่ซึ่งแผ่นดินใหญ่บรรจบกับมหาสมุทรแปซิฟิก
เกาะซาฮาลิน ตั้งตระหง่านอยู่โดดเดี่ยว แม้จะเป็นดินแดนที่ห่างไกลและมีสภาพอากาศที่โหดร้าย แต่ก็เป็นที่ซ่อนของความงามอันน่าทึ่ง หนึ่งในนั้นคือ
อ่าวติคายา (Tikhiy Bay) มีความหมายว่าอ่าวเงียบสงบ สะท้อนถึงบรรยากาศอันบริสุทธิ์และเงียบงันของสถานที่แห่งนี้
อ่าวติคายาได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ที่งดงามที่สุดบนเกาะซาฮาลิน ด้วยทัศนียภาพที่น่าหลงใหลและเป็นเอกลักษณ์ แม้ลมพายุจากมหาสมุทรแปซิฟิกจะพัดกระหน่ำอยู่บ่อยครั้ง แต่อ่าวแห่งนี้ก็ได้รับการปกป้องอย่างดีจากแนวชายฝั่งหินสูงชันที่โอบล้อมอ่าวไว้ทั้งสองด้านราวกับอ้อมกอดอันแข็งแกร่ง กำแพงหินธรรมชาตินี้ทำหน้าที่เป็นกำบังลมได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้น้ำในอ่าวค่อนข้างสงบและใสสะอาด
เกาะซาฮาลิน เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดของรัสเซีย มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและซับซ้อน เคยเป็นพื้นที่พิพาทระหว่างรัสเซียกับญี่ปุ่น ทำให้มีร่องรอยทางวัฒนธรรมของทั้งสองชาติผสมผสานกันอยู่
นอกจากอ่าวติคายาแล้ว เกาะซาฮาลินยังมีภูมิประเทศที่หลากหลาย ตั้งแต่ภูเขาไฟที่สงบแล้ว ป่าสนทึบ แม่น้ำที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยปลาแซลมอน ไปจนถึงชายฝั่งทะเลที่สวยงามและแนวหน้าผาที่น่าตื่นตาตื่นใจ ที่นี่เป็นแหล่งอาศัยของสัตว์ป่าหลายชนิด เช่น หมีสีน้ำตาล สุนัขจิ้งจอก และนกทะเลหายาก
เกาะซาฮาลินยังเป็นแหล่งทรัพยากรน้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่สำคัญ ทำให้เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมพลังงานของรัสเซีย มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัยเพื่อรองรับอุตสาหกรรม
https://www.facebook.com/share/p/193THNAR9Z/
การเดินทางไปยังเกาะซาฮาลินส่วนใหญ่จะใช้เครื่องบินไปยังเมือง (Yuzhno-Sakhalinsk) เป็นเมืองหลวงของเกาะ หรือทางเรือข้ามฟากจากแผ่นดินใหญ่
เมื่อก่อนความขัดแย้งสามารถนั่งเรือเฟอร์รี่ต่อทริปข้ามไปจากญี่ปุ่นได้เลย
👇👇👇
https://www.facebook.com/share/p/1AgpCYuCfQ/
❌ น้ำตกคินเซลิยุก (Kinzelyuk Waterfall)
อัญมณีแห่งเทือกเขาซายันสำหรับนักสำรวจผู้กล้าหาญที่ปรารถนาจะพิชิตความท้าทายและดื่มด่ำกับธรรมชาติอันบริสุทธิ์ น้ำตกคินเซลิยุก คือจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาด อัญมณีแห่งเทือกเขาซายันในเขตครัสโนยาสก์ ประเทศรัสเซียแห่งนี้ มอบทัศนียภาพอันน่าทึ่งที่จะสะกดทุกสายตา แม้ว่าการเดินทางไปถึงจะไม่ง่ายดายนัก แต่วิวทิวทัศน์ที่รออยู่ปลายทางนั้นคุ้มค่าแก่การผจญภัย
น้ำตกคินเซลิยุกมีความพิเศษตรงที่ไม่ได้ไหลลงมาจากหน้าผาเดียว แต่เป็นน้ำตกที่ไหลลดหลั่นกันลงมาเป็นชั้น ๆ ท่ามกลางภูมิประเทศภูเขาอันขรุขระ โดยเริ่มต้นจาก ทะเลสาบบนภูเขาแห่งหนึ่ง เป็นแหล่งกำเนิดน้ำที่บริสุทธิ์และเยือกเย็น ก่อนจะไหลทอดตัวลงสู่ทะเลสาบอีกแห่งหนึ่งที่อยู่ต่ำกว่า และท้ายที่สุดก็รวมสายธารเข้ากับ แม่น้ำบนภูเขา ที่ไหลเชี่ยวเบื้องล่าง ความสูงรวมของน้ำตกแห่งนี้อยู่ที่ประมาณ
90 เมตรถือเป็นหนึ่งในน้ำตกที่สูงที่สุดในภูมิภาคนี้
ความงดงามของน้ำตกคินเซลิยุกไม่ได้อยู่ที่ความสูงเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงสภาพแวดล้อมที่ยังคงความบริสุทธิ์ทางธรรมชาติไว้ได้อย่างสมบูรณ์ล้อมรอบด้วยป่าไม้เขียวขจี เทือกเขาหินแกรนิตที่ปกคลุมด้วยหิมะบางช่วง และเสียงคำรามของสายน้ำที่ดังก้องไปทั่วหุบเขา ทำให้นักเดินทางรู้สึกราวกับได้หลุดเข้าไปในอีกโลกหนึ่ง ที่นี่คือสวรรค์สำหรับผู้รักธรรมชาติ นักปีนเขา และช่างภาพที่ต้องการบันทึกภาพความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติอันบริสุทธิ์
การเดินทางสู่น้ำตกคินเซลิยุก จะต้องใช้ความพยายามอย่างมาก เนื่องจากเส้นทางเข้าถึงค่อนข้างยากลำบากและอาจต้องใช้เวลาหลายวันในการเดินป่าผ่านภูมิประเทศที่ท้าทาย รวมถึงการข้ามแม่น้ำและปีนป่ายขึ้นเนินเขา ความยากลำบากเหล่านี้กลับเป็นส่วนหนึ่งของเสน่ห์ ทำให้น้ำตกแห่งนี้ยังคงเป็นสถานที่ที่ไม่พลุกพล่านและยังคงรักษาความเป็นธรรมชาติไว้อย่างสมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายและสัมผัสกับความเงียบสงบของธรรมชาติ
❌ หุบเขาแห่งน้ำพุร้อน (Valley of Geysers)
ตั้งอยู่ใจกลางคาบสมุทรคัมชัตกาอันโดดเดี่ยวทางตะวันออกไกลของรัสเซีย ถือเป็นหนึ่งในปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดนโลก และเป็นสวรรค์ของนักธรณีวิทยาและผู้รักธรรมชาติ ด้วยความหนาแน่นของน้ำพุร้อนที่พวยพุ่งขึ้นจากพื้นดิน ทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีกิจกรรมทางธรณีความร้อนมากที่สุดในโลก รองจากอุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตนในสหรัฐอเมริกา
หุบเขาแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของเขตอนุรักษ์ธรรมชาติครอนอตสกี (Kronotsky Nature Reserve) ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลกโดย UNESCO สะท้อนถึงคุณค่าทางธรรมชาติอันเป็นเอกลักษณ์และสำคัญระดับโลก ที่นี่เต็มไปด้วยน้ำพุร้อนน้อยใหญ่กว่า 200 แห่ง ซึ่งมีทั้งน้ำพุร้อนขนาดเล็กที่พวยพุ่งขึ้นมาเบาๆ ไปจนถึงน้ำพุร้อนขนาดมหึมาที่ปะทุด้วยแรงดันมหาศาล พ่นไอน้ำร้อนและน้ำเดือดขึ้นสู่ท้องฟ้าสูงหลายสิบเมตรเป็นภาพที่น่าตื่นตะลึง
นอกจากน้ำพุร้อนแล้ว ภูมิทัศน์ของหุบเขายังประกอบด้วยบ่อโคลนเดือดที่ปุดๆ พ่นฟองแก๊สร้อนขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงน้ำพุร้อนธรรมชาติที่สวยงามราวกับภาพวาด ซึ่งบางแห่งมีสีสันสดใสจากแร่ธาตุต่างๆ ที่ละลายอยู่ในน้ำ ไม่ว่าจะเป็นสีเขียวมรกต สีส้มสนิม หรือสีน้ำตาลแดง ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นผลมาจากกิจกรรมทางธรณีวิทยาอันทรงพลังใต้พื้นผิวโลกของคาบสมุทรคัมชัตกา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ "วงแหวนไฟ" รอบมหาสมุทรแปซิฟิก
การเข้าถึงหุบเขาแห่งน้ำพุร้อนนั้นค่อนข้างจำกัดและต้องอยู่ภายใต้การควบคุมอย่างเข้มงวด เพื่อรักษาสภาพแวดล้อมที่บอบบางแห่งนี้ไว้ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งจะพาชมทิวทัศน์อันกว้างใหญ่ของคาบสมุทรที่มีภูเขาไฟสลับซับซ้อน ป่าทึบ และแม่น้ำใสสะอาด
ก่อนจะลงจอดที่หุบเขา เพื่อสัมผัสกับพลังธรรมชาติอันน่าเกรงขามอย่างใกล้ชิด การได้ยินเสียงไอน้ำพวยพุ่ง สัมผัสถึงความร้อนจากพื้นดิน และมองเห็นสีสันอันน่าทึ่งของธรรมชาติ เป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน และทำให้ผู้มาเยือนเข้าใจถึงความยิ่งใหญ่และความบริสุทธิ์ของธรรมชาติได้อย่างแท้จริง
✅ เทือกเขาอัลไต (Altai Mountains)
เทือกเขาขนาดใหญ่ที่ทอดยาวผ่านรัสเซีย คาซัคสถาน มองโกเลีย และจีน ส่วนที่อยู่ในรัสเซียเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องความงามของธรรมชาติที่ยังไม่ถูกรบกวน มีทั้งยอดเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ ป่าสน ทะเลสาบสีคราม และทุ่งหญ้าอัลไพน์ มรดกโลกของ UNESCO "Golden Mountains of Altai" เป็นที่อยู่ของสัตว์ป่าหายาก เช่น เสือดาวหิมะ และเป็นแหล่งรวมความหลากหลายทางชีวภาพและวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์
https://www.facebook.com/share/p/1AhV381ocE/
❌ ภูเขาเอลบรุส (Mount Elbrus)
ยอดเขาที่สูงที่สุดในยุโรปและรัสเซีย สูง 5,642 เมตร เป็นภูเขาไฟที่สงบแล้ว ตั้งอยู่ในเทือกเขาคอเคซัสตะวันตก ยอดเขาปกคลุมด้วยหิมะและธารน้ำแข็งตลอดทั้งปี เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักปีนเขาและนักผจญภัยที่ต้องการพิชิตยอดเขาที่ท้าทายแห่งนี้ ทิวทัศน์จากยอดเขาสุดลูกหูลูกตาและงดงามตระการตา
https://www.facebook.com/share/p/1Yj1GTYdxm/
ℹ️ A Broad Vot เช็คอินมาแล้ว 4 จาก 11
ความมุ่งหวัง จะไปพิชิตเอลบรุส ถือว่าบรรลุ
ภารกิจในรัสเซีย มีใครสนใจไปทำร้ายเข่า 🤭
อ้อ..... เดือนหน้าใคร จะไปรัสเซียต้องลงทะเบียน
ผ่าน App ล่วงหน้านะ (ไม่ยาก)
https://www.facebook.com/share/p/19GNNv27Ja/
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
(รวมกว่า 100 เรื่องราวเกี่ยวกับรัสเซีย🔹)
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1517344955466929&id=100015743169755&mibextid=9R9pXO
russia
ท่องเที่ยว
ต่างประเทศ
2 บันทึก
2
2
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย