หลัก “มือสะอาด” มีรากฐานมาจากกฎหมายโรมัน โดยสะท้อนออกมาในสุภาษิตของกฎหมายโรมัน เช่น “ex dolo malo non oritur actio” (การกระทำที่เกิดจากเจตนาไม่สุจริตย่อมไม่ก่อให้เกิดสิทธิเรียกร้อง), “nullus commodum capere potest de iniuria sua propria” (บุคคลไม่อาจหาผลประโยชน์จากการกระทำผิดของตน), และ “ex iniuria ius non oritur” (สิทธิย่อมไม่เกิดจากการกระทำอันไม่ชอบด้วยกฎหมาย – หลัก Estoppel)
หลักการนี้เคยถูกนำมาใช้ในกฎหมายระหว่างประเทศ ปรากฏอย่างชัดเจนในความเห็นของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศถาวร (Permanent Court of International Justice: PCIJ) ที่จัดตั้งขึ้นภายใต้สันนิบาตชาติ (League of Nations) ในคดี Meuse, Diversion of Water Case (Netherlands v Belgium)
โดย Sir Gerald Fitzmaurice อดีตที่ปรึกษากฎหมายของกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษ และอดีตผู้พิพากษา ICJ กล่าวบรรยายที่สถาบัน The Hague Academy เมื่อปี ค.ศ. 1957 ไว้ว่า “ผู้ใดจะร้องขอความยุติธรรมจากศาล ต้องมาด้วยมือสะอาด” (He who comes to equity for relief must come with clean hands) รัฐที่กระทำผิดกฎหมายอาจสูญเสียสิทธิในการฟ้องร้องต่อการกระทำที่ผิดกฎหมายแบบเดียวกันโดยรัฐอื่น โดยเฉพาะหากการกระทำนั้นเกิดขึ้นเพื่อตอบโต้การละเมิดของตนเอง