10 มิ.ย. เวลา 11:23 • ประวัติศาสตร์

เจ้าหญิงมาร์กาเรตแห่งสโนว์ดอน: ชีวิตที่เต็มไปด้วยสีสันและการแหกกฎ

**เจ้าหญิงมาร์กาเรต โรส วินด์เซอร์ เคาน์เตสแห่งสโนว์ดอน** เจ้าหญิงผู้ทรงเสน่ห์และเต็มไปด้วยชีวิตชีวา ผู้ที่มักจะแหกกฎระเบียบอันเคร่งครัดของราชวงศ์อังกฤษอยู่เสมอ
เจ้าหญิงมาร์กาเรตประสูติเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ค.ศ. 1930 ที่ปราสาทกามิส ประเทศสกอตแลนด์ ทรงเป็นพระธิดาองค์ที่สองของเจ้าชายอัลเบิร์ต (ต่อมาคือสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6) และเลดี้เอลิซาเบธ โบวส์-ไลออน (ต่อมาคือสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธ พระราชชนนี) การประสูติของพระองค์เป็นเรื่องพิเศษ เพราะทรงเป็นรัชทายาทพระองค์แรกที่เกิดในสกอตแลนด์ในรอบ 300 ปี ในวัยเด็ก เจ้าหญิงมาร์กาเรตเป็นรัชทายาทลำดับที่ 4 ทำให้ทรงใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและไร้แรงกดดันจากราชวงศ์
ทรงเติบโตมาเคียงข้าง **เจ้าหญิงเอลิซาเบธ** พระเชษฐภคินี แม้ทั้งสองจะมีอุปนิสัยที่แตกต่างกันมาก เจ้าหญิงเอลิซาเบธทรงสุขุม ขณะที่เจ้าหญิงมาร์กาเรตทรงตลก ซุกซน และชอบเล่นแผลง ๆ บิดาของพระองค์เคยกล่าวว่า "เอลิซาเบธคือความภาคภูมิใจ ส่วนมาร์กาเรตคือความสุข" อย่างไรก็ตาม เจ้าหญิงทั้งสองพระองค์ไม่ได้รับการศึกษาในโรงเรียน แต่ทรงได้รับการสอนจากพี่เลี้ยง ทำให้มาร์กาเรตทรงแสดงความไม่พอใจในภายหลังว่าถูกตัดโอกาสทางการศึกษา
ชีวิตของเจ้าหญิงมาร์กาเรตและครอบครัวเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงเมื่อสมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 8 พระปิตุลา ทรงสละราชสมบัติเพื่อความรัก ทำให้เจ้าชายอัลเบิร์ต พระบิดา ต้องขึ้นครองราชย์เป็นสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6 โดยไม่คาดฝัน เจ้าหญิงเอลิซาเบธในวัย 10 ชันษา กลายเป็นรัชทายาทลำดับที่ 1 และมาร์กาเรตในวัย 6 ชันษา กลายเป็นรัชทายาทลำดับที่ 2 ครอบครัวย้ายมาประทับที่พระราชวังบักกิงแฮม และต้องเผชิญกับภาระหน้าที่ที่หนักอึ้งมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
หลังสงคราม เจ้าหญิงมาร์กาเรตเริ่มปฏิบัติพระราชกรณียกิจ และทรงกลายเป็น **แฟชั่นไอคอน** ที่สื่อให้ความสนใจอย่างมาก พระองค์มีข่าวซุบซิบกับชายหนุ่มมากมาย แต่ความรักที่โดดเด่นคือกับ **ปีเตอร์ ทาวน์เซนด์** ราชองครักษ์ส่วนพระองค์ ทั้งคู่เริ่มมีความรู้สึกดี ๆ ต่อกัน แต่ปีเตอร์แต่งงานแล้ว เมื่อปีเตอร์หย่าขาดจากภรรยา ทั้งคู่ก็เริ่มเปิดใจ แต่ศาสนจักรแห่งอังกฤษไม่อนุญาตให้ผู้ที่หย่าร้างแต่งงานใหม่
สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธจึงขอให้มาร์กาเรตรอจนกว่าจะอายุ 25 ปี ซึ่งในเวลานั้นเธอจะสามารถแต่งงานได้โดยไม่ต้องขอพระบรมราชานุญาต
เมื่ออายุครบ 25 ปี เจ้าหญิงมาร์กาเรตกลับประกาศว่าเธอตัดสินใจที่จะไม่แต่งงานกับปีเตอร์ ทาวน์เซนด์ โดยให้เหตุผลว่าทรงเลือกที่จะยึดถือคำสอนของศาสนจักรและต้องการรับใช้ประชาชน การตัดสินใจนี้แม้จะเป็นไปตามธรรมเนียม แต่กลับจุดประกายให้ชาวอังกฤษเรียกร้องให้ศาสนจักรเปลี่ยนแปลงกฎเกี่ยวกับการแต่งงานของผู้ที่เคยหย่าร้าง ซึ่งประสบความสำเร็จในที่สุด
ต่อมาในปี ค.ศ. 1960 เจ้าหญิงมาร์กาเรตทรงตัดสินใจอภิเษกสมรสกับ **แอนโทนี อาร์มสตรอง-โจนส์** ช่างภาพหนุ่มหล่อ และได้รับบรรดาศักดิ์เป็นเคาน์เตสแห่งสโนว์ดอน ทั้งคู่มีพระโอรสธิดาสองคนคือ **ลอร์ดเดวิด** และ **เลดี้ซาราห์** อย่างไรก็ตาม ชีวิตสมรสของเจ้าหญิงมาร์กาเรตเต็มไปด้วยความขมขื่น การทะเลาะเบาะแว้ง การนอกใจ และการใช้สารเสพติดจากสามี ในที่สุดทั้งคู่ก็หย่าร้างกันในปี ค.ศ. 1978
หลังการหย่าร้าง เจ้าหญิงมาร์กาเรตทรงเผชิญกับปัญหาสุขภาพหลายอย่าง ทั้งโรคทางเดินอาหาร โรคพิษสุราเรื้อรัง และปัญหาจากการสูบบุหรี่จัด ซึ่งทำให้ต้องผ่าตัดปอดและประสบปัญหาด้านการเคลื่อนไหว พระองค์ทรงสิ้นพระชนม์ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2002 และเป็นราชนิกุลชั้นสูงพระองค์แรกที่ได้รับการถวายพระเพลิงพระศพ โดยอัฐิของพระองค์ถูกบรรจุไว้เคียงข้างสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6 และสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธ พระราชชนนี ณ โบสถ์น้อยเซนต์จอร์จ ปราสาทวินด์เซอร์
ชีวิตของเจ้าหญิงมาร์กาเรตเต็มไปด้วยความซับซ้อน ทั้งความสุขในวัยเด็ก ปัญหาด้านการศึกษา แรงกดดันจากสถานะราชวงศ์ ความรักที่ต้องเสียสละ และชีวิตสมรสที่ล้มเหลว เรื่องราวของพระองค์สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายที่ราชนิกุลต้องเผชิญ รวมถึงการต่อสู้ระหว่างความปรารถนาส่วนตัวกับหน้าที่ต่อราชบัลลังก์และศาสนจักร
โฆษณา