19 มิ.ย. เวลา 15:47 • หุ้น & เศรษฐกิจ
หลังจากที่เมื่อคืน ผมตกลงใจจ่ายเงินแบบ Plus ให้กับ ChatGPT เพราะผมอยากจะใช้มันอย่างไม่บันยะบันยัง (คือผมขี้งกครับ ผมก็เลยไม่ชอบเสียเงินอะไรเท่าไร)
แต่พอผมสมัครแล้ว ผมก็รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเด็กได้ของเล่นใหม่เลยครับ
ผมอยากจะเข้าใจจักรวาล Cyber Security ให้มากกว่านี้ ซึ่งผมยังไม่ได้อ่านพวกหมวดนี้ละเอียดสักเท่าไร เพราะสนใจเรื่องอื่นอยู่
แต่ก่อนหน้านี้ผมได้ใช้ Google Notebook LM มาสรุป 10K, Earning Call, Transcript, Presentation ให้แล้ว
เมื่อเช้านี้ก็เลยเพลินมาก ระหว่างนั่งรถไฟมาทำงาน ก็เลยคุยกับ ChatGPT ให้สรุปเรื่องราวของจักรวาล Cyber Security มาให้ผมพอจะเห็นภาพ
แล้วผมก็ได้พบว่า จักรวาลนี้มันกว้างใหญ่มาก ซับซ้อนเกินกว่าผมจะเข้าใจได้ง่าย ๆ เพราะบริษัทแต่ละเจ้า ก็จะเก่งคนละด้าน ซึ่งมันทำให้ผมสงสัยมากว่า
แล้วสมมติผมมีบริษัทอยู่ โดยปัญหา Cyber Crime มันน่ากลัวมาก แต่ในโลกของ Cyber Security มันซับซ้อนมาก
ผมในฐานะลูกค้าเนี่ย จะต้องเลือกใช้บริการเจ้าไหน หรือผมจะต้องจ่ายเงินให้ทุกเจ้า เพื่อคอยช่วยผมปกป้องปัญหาทาง Cyber ในแต่ละด้านเนี่ย
แล้วผมก็ได้เจอกับคำว่า "Platformization"
คือ พอมันยากมากแบบนี้ (ซึ่งผมเชื่อว่า ลูกค้าทั่ว ๆ ไปอ่ะ เค้ามาน่าเข้าใจเรื่องนี้ในเชิงเทคนิคอลดีขนาดนั้นหรอก) วิธีที่ง่ายที่สุดสำหรับลูกค้า ก็คือการมองหาบริษัทที่มีชื่อเสียงที่ดี แบรนด์น่าเชื่อถือ เจ้าใหญ่ ระบบดีมีเสถียรภาพ มี Product ครอบคลุมที่สุดจะปกป้องบริษัทลูกค้าได้
ซึ่งสรุปง่าย ๆ ก็คือ "ลูกค้าต้องการแพลตฟอร์มเดียวที่รวมทุกอย่าง" คือจ่ายเงินให้เจ้านี้ แล้วจบเลย ไม่ต้องไปคิดซับซ้อนมากเกินไป
พอเป็นแบบนี้ ผมก็เลยให้มันลองลิสต์มาว่า มีบริษัทไหนบ้างล่ะ ที่ทำ Product ครอบคลุมที่สุด และมี Potential จะเป็นผู้ชนะในระยะยาวได้ (ซึ่งมันตอบได้ตรงกับความคิดผมมาก เพราะเจ้าบริษัทนี้ มีทั้งด้าน Hardware และ Software มีผู้ก่อตั้งและ CEO คนปัจจุบัน ที่เก่งมาก ใหญ่สุด งบลงทุนมีให้ใช้ได้เยอะที่สุด เมื่อเทียบกับเจ้าอื่น)
นี่คือที่ผมแคปมาครับ
พอสรุปออกมาได้แบบนี้ ก็รู้สึกว่า มันน่าสนใจมากเลย ใจอยากจะได้มาก แต่รู้สึกมันแพงมาก ลอง Valuation แล้ว ก็รู้สึกว่า ยังซื้อไม่ได้แฮะ (คือผมมันก็คนหัวเก่าอ่ะนะ อุตส่าห์เรียนมาตั้งเยอะ ก็อยากจะใช้มันสักหน่อย จะได้ไม่เสียของ 555)
อ่อ กลับมาที่หมวด Cyber Security กันต่อ
ผมขอพูดแบบนี้นะว่า ผมไม่ได้เป็นคนที่สามารถเข้าใจมันเชิงลึก ในระดับพื้นฐานที่แท้จริงของอุตสาหกรรมได้ แต่ผมคิดว่า ผมน่าจะพอเข้าใจถึงภาพรวมความสำคัญของมัน ในมุมมองของ User ก็แล้วกัน
สิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกว่ามันสำคัญมากก็คือ ไม่ว่าผมจะอ่านรายงานประจำปีบริษัทไหนก็ตาม ปัญหา Cyber Security จะเป็นสิ่งทุกบริษัทใส่ไว้ในความเสี่ยงเสมอ
ลองสังเกตดูครับ รายงานประจำปีบริษัทไทยก็มี ซึ่งวิธีรับกับความเสี่ยงที่ระบุไว้ มันก็ดูจะตอบแบบกว้างมาก จนรู้สึกว่า จับประเด็นอะไรสำคัญไม่ได้เลย จนต้องถามกับตัวเองในใจอยู่บ่อย ๆ ว่า "แล้วพี่มีแผนรับมือเป็นขั้นตอนในการปฏิบัติอย่างไร และใช้บริการเจ้าไหนรับมือ"
และนั่นก็ทำให้ผมพบว่า ผมควรจะต้องมาบริษัทที่มีศักยภาพสูง มีโอกาสที่ลูกค้าจะเลือกใช้บริการเป็นลำดับแรก ๆ เสมอ ซึ่งตอนนี้ผมเชื่อว่า จากที่อ่าน ๆ มา Palo Alto น่าจะเป็นคำตอบของเรื่องนี้ครับ
ต่อจากนี้คือส่วนที่ผมใช้ Google NotebookLM สรุปมาให้ ถ้าผิดพลาดก็ขออภัยครับ ผมทำไว้สักพักแล้ว
ตอนนี้ผมมี Routine คือ ใช้มันสรุปหุ้นต่างประเทศที่ผมสนใจ วันละตัวครับ โดยใส่ข้อมูลที่ผมคิดว่าสำคัญที่สุด เท่าที่ผมจะหาได้ สรุปมาเป็นประเด็นสำคัญ ให้ผมอ่านมันคร่าว ๆ ก่อน ถ้าน่าสนใจจริง ผมก็จะไปอ่านเชิงลึกอีกที
เมื่อก่อนผมพยายามจะอ่านรายงานประจำปีให้ได้ทุกวัน วันละ 1 ฉบับ (ของไทยผมทำได้นะ) ซึ่งมันใช้พลังงานและเวลามาก ปวดตา เมื่อยคอ เหนื่อยมากด้วย
แต่ทุกวันนี้ พอได้เอา AI มาช่วย มันช่วยลดระยะเวลาในการทำความเข้าใจหุ้นที่ผมไม่คุ้นเคยมาก่อน ได้เป็นอย่างดีเลยครับ
จากเมื่อก่อนอาจจะต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง ในการค่อย ๆ ย่อย แต่ตอนนี้ เต็มที่ ก็ไม่น่าเกิน 2 ชั่วโมงแล้ว
ผมเชื่ออย่างงี้นะว่า ถ้าผมทำแบบนี้สะสมไปเรื่อย ๆ ทุกวัน วันละ 1 บริษัท พอผ่านไป 1 ปี ผมก็จะรู้จักบริษัทเจ๋ง ๆ ในโลก ทั้งที่มีคนส่วนใหญ่เจอแล้ว และคนส่วนใหญ่ยังมองไม่เห็น ได้ตั้ง 365 บริษัทแน่ะ
และถ้าผมทำได้ 10 ปี ผมก็จะรู้จักตั้ง 3,650 บริษัทเลย
เอาล่ะ ต่อไปนี้คือสรุป Palo Alto จาก Google NotebookLM ครับ
(ถ้าผิดพลาดผมขออภัยครับ และรบกวนช่วยสอนผมเพิ่มเติมด้วยครับ เพราะมันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาความรู้ของผมมากเลยครับ)
1. ภาพรวมธุรกิจของบริษัท
- Palo Alto Networks, Inc. เป็นผู้ให้บริการด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ระดับโลกที่มุ่งมั่นที่จะทำให้ทุกวันปลอดภัยยิ่งขึ้น
- บริษัทก่อตั้งขึ้นในปี 2005 และมีสำนักงานใหญ่ในซานตาคลารา รัฐแคลิฟอร์เนีย
- พวกเขาช่วยให้องค์กรต่าง ๆ รวมถึงองค์กรขนาดใหญ่ ผู้ให้บริการ และหน่วยงานภาครัฐ สามารถป้องกันตัวเองจากการโจมตีทางไซเบอร์ที่ซับซ้อนที่สุดในปัจจุบัน
- กลยุทธ์หลักของบริษัทคือการช่วยให้ลูกค้าปรับปรุงสถาปัตยกรรมความปลอดภัยให้ง่ายขึ้นโดยการรวมผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เข้าด้วยกันเป็นแพลตฟอร์มแบบครบวงจร แพลตฟอร์มและบริการของพวกเขาช่วยรักษาความปลอดภัยของผู้ใช้ในองค์กร เครือข่าย คลาวด์ และอุปกรณ์ปลายทาง โดยใช้ประโยชน์จากปัญญาประดิษฐ์ (AI) และระบบอัตโนมัติ
- บริษัทมุ่งเน้นการส่งมอบคุณค่าในสี่ภาคส่วนหลักของอุตสาหกรรมความปลอดภัยทางไซเบอร์:
- Network Security (ความปลอดภัยเครือข่าย): นำเสนอโซลูชัน Zero Trust ที่สมบูรณ์แบบ รวมถึง ML-Powered Next-Generation Firewalls ทั้งแบบฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์, AI Runtime Security (AIRS), และ Secure Access Service Edge (SASE) ที่ส่งมอบผ่านคลาวด์
- Cloud Security (ความปลอดภัยคลาวด์): ให้ความปลอดภัยที่ปรับขนาดได้และครอบคลุมตลอดวงจรการพัฒนาแอปพลิเคชันบนคลาวด์ผ่านแพลตฟอร์ม Code to Cloud™ หรือ Prisma Cloud ซึ่งเป็น Cloud Native Application Protection Platform (CNAPP) ที่ครอบคลุม
- Security Operations (การปฏิบัติการด้านความปลอดภัย): นำเสนอความสามารถในการปฏิบัติการด้านความปลอดภัยยุคถัดไปที่รวมการวิเคราะห์ความปลอดภัย ความปลอดภัยของอุปกรณ์ปลายทาง ระบบอัตโนมัติ และการจัดการพื้นผิวการโจมตี (ASM) ผ่านแพลตฟอร์ม Cortex™
- Threat Intelligence and Advisory Services (Unit 42) (บริการข่าวกรองภัยคุกคามและที่ปรึกษา): รวบรวมนักวิจัยภัยคุกคามที่มีชื่อเสียงระดับโลก และทีมงานตอบสนองเหตุการณ์เพื่อช่วยลูกค้าจัดการความเสี่ยงทางไซเบอร์
2. ประวัติของบริษัท และผู้บริหาร
- การก่อตั้งและสำนักงานใหญ่: Palo Alto Networks, Inc. ก่อตั้งขึ้นในเดือนมีนาคม 2005 และเริ่มดำเนินงานในเดือนเมษายน 2005 โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเมืองซานตาคลารา รัฐแคลิฟอร์เนีย
- ผู้บริหารหลัก:
Nikesh Arora: ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (Chairman & Chief Executive Officer)
Dipak Golechha: ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (Chief Financial Officer)
Lee Klarich: ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ (Chief Product Officer)
Hamza Fodderwala: รองประธานอาวุโสฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์และการเงินเชิงกลยุทธ์ (Senior Vice President-Investor Relations & Strategic Finance)
คณะกรรมการบริษัท: ในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 Palo Alto Networks ได้ประกาศแต่งตั้ง Helle Thorning-Schmidt อดีตนายกรัฐมนตรีของเดนมาร์ก และ Ralph Hamers อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ UBS Group AG และ ING Group เข้าเป็นคณะกรรมการบริษัท
นอกจากนี้ยังมี Nir Zuk (ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีและกรรมการ), Aparna Bawa, John M. Donovan, Carl Eschenbach, Dr. Helene D. Gayle, James J. Goetz, Rt Hon Sir John Key, Mary Pat McCarthy, และ Lorraine Twohill เป็นกรรมการ
4. Product ของบริษัทมีอะไรบ้าง
Palo Alto Networks นำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการสมัครสมาชิก และบริการสนับสนุนที่หลากหลายในสี่ภาคส่วนหลัก
- Network Security (ความปลอดภัยเครือข่าย):
ML-Powered Next-Generation Firewalls (NGFWs): ไฟร์วอลล์ทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ใช้ Machine Learning (ML) เพื่อหยุดภัยคุกคาม Zero-day แบบเรียลไทม์ ครอบคลุมรุ่นต่าง ๆ ตั้งแต่ PA-410 สำหรับองค์กรขนาดเล็กไปจนถึง PA-7500 Series สำหรับศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่
VM-Series & CN-Series: ไฟร์วอลล์เสมือนสำหรับสภาพแวดล้อมเสมือนจริงและคลาวด์ และไฟร์วอลล์คอนเทนเนอร์
Cloud NGFW: บริการไฟร์วอลล์ Next-Generation แบบจัดการสำหรับ AWS และ Microsoft Azure
SD-WAN: โซลูชัน WAN แบบกำหนดซอฟต์แวร์ที่ผสานรวมกับ PAN-OS เพื่อการเลือกเส้นทางตามแอปพลิเคชันและเงื่อนไขของลิงก์
Panorama: โซลูชันการจัดการความปลอดภัยแบบรวมศูนย์สำหรับแพลตฟอร์มความปลอดภัยเครือข่าย
Strata Cloud Manager: โซลูชันการจัดการความปลอดภัยเครือข่ายแบบรวมศูนย์บนคลาวด์ พร้อม Strata Copilot ที่ใช้ภาษาธรรมชาติ
AI Runtime Security (AIRS): ตรวจสอบแอปพลิเคชัน AI, โมเดล และชุดข้อมูลอย่างต่อเนื่องสำหรับภัยคุกคามและความผิดปกติ โดยใช้ AI เพื่อการป้องกันแบบเรียลไทม์.
- Secure Access Service Edge (SASE):
Prisma Access: บริการความปลอดภัยที่ส่งมอบผ่านคลาวด์เพื่อความปลอดภัยที่สอดคล้องกันสำหรับเครือข่ายระยะไกลและผู้ใช้มือถือ
Prisma SD-WAN: โซลูชัน SD-WAN ยุคถัดไปที่ทำให้สาขาที่ส่งมอบผ่านคลาวด์ปลอดภัย
Prisma Access Browser: ขยาย Zero Trust ไปยังอุปกรณ์ใด ๆ ทั้งที่จัดการและไม่จัดการ เพื่อการเข้าถึงแอปพลิเคชันทางธุรกิจอย่างปลอดภัย
- Cloud Security (ความปลอดภัยคลาวด์):
Prisma Cloud: แพลตฟอร์ม CNAPP ที่ครอบคลุมความปลอดภัยของแอปพลิเคชันแบบ Cloud-native และ Lift-and-Shift ในสภาพแวดล้อม Multi- and Hybrid-Cloud
ครอบคลุมตั้งแต่ Code to Cloud, Supply chain security, CI/CD pipeline, และรวมเทคโนโลยีต่างๆ เช่น Software Composition Analysis, Infrastructure as Code security, Cloud Security Posture Management (CSPM), Data Security Posture Management (DSPM), AI Security Posture Management (AI-SPM)
DSPM (Data Security Posture Management): ให้การมองเห็นและรักษาความปลอดภัยของข้อมูลที่จัดเก็บในสภาพแวดล้อม Multi-cloud
AI-SPM (AI Security Posture Management): ช่วยมองเห็นระบบนิเวศ GenAI, ระบุช่องโหว่ LLM, จัดลำดับความเสี่ยงจากการกำหนดค่าที่ไม่ถูกต้อง, และลดความเสี่ยงจากการเปิดเผยข้อมูล
- Security Operations (การปฏิบัติการด้านความปลอดภัย):
Cortex XSIAM™: แพลตฟอร์มการปฏิบัติการด้านความปลอดภัยที่ขับเคลื่อนด้วย AI สำหรับ SOC สมัยใหม่
Cortex XDR™: สำหรับการป้องกัน ตรวจจับ และตอบสนองต่อการโจมตีทางไซเบอร์ที่ซับซ้อน
Cortex XSOAR™: สำหรับการจัดระเบียบความปลอดภัย การทำให้เป็นอัตโนมัติ และการตอบสนอง (SOAR)
Cortex Xpanse™: สำหรับการจัดการพื้นผิวการโจมตี (ASM)
Cloud Detection and Response (CDR): เพิ่มความสามารถในการตรวจจับและตอบสนองต่อภัยคุกคามบนคลาวด์ที่ซับซ้อน
Advanced Email Security: ช่วยหยุดภัยคุกคามก่อนที่จะเข้าถึงกล่องข้อความ
Exposure Management capability: ออกแบบมาเพื่อลดความยุ่งยากและเน้นให้ทีมรักษาความปลอดภัยมุ่งเน้นไปที่ความเสี่ยงที่สำคัญ
- Threat Intelligence and Advisory Services (Unit 42) (บริการข่าวกรองภัยคุกคามและที่ปรึกษา):
รวมนักวิจัยภัยคุกคามผู้เชี่ยวชาญ ทีมตอบสนองเหตุการณ์ และที่ปรึกษาด้านความปลอดภัย
ให้บริการวิจัยภัยคุกคาม ตอบสนองเหตุการณ์ และให้คำปรึกษาด้านความปลอดภัย
เสนอบริการ Managed Detection and Response และ Managed Threat Hunting
- บริการสมัครสมาชิกและบริการสนับสนุนเพิ่มเติม:
Cloud-delivered security services (บริการความปลอดภัยที่ส่งมอบผ่านคลาวด์): Advanced Threat Prevention, Advanced WildFire, Advanced URL Filtering, Advanced DNS Security, IoT/OT Security, SaaS Security API, SaaS Security Inline, GlobalProtect, Enterprise DLP, AIOps, AI Access Security
Support (การสนับสนุน): บริการสนับสนุนลูกค้าทั่วโลก รวมถึง Standard, Premium, และ Platinum Support พร้อมการอัปเดตความปลอดภัย การอัปเกรด PAN-OS การแก้ไขข้อบกพร่อง และการซ่อมแซม
Professional Services (บริการมืออาชีพ): บริการให้คำปรึกษา การออกแบบสถาปัตยกรรม การนำไปใช้งาน การกำหนดค่า และการโยกย้ายไฟร์วอลล์
Education Services (บริการด้านการศึกษา): การรับรองหลักสูตรทางเทคนิคออนไลน์ฟรี และการฝึกอบรมในห้องเรียน
5. ผลประกอบการที่ผ่านมาเป็นอย่างไร
- ภาพรวมทางการเงิน:
รายได้รวม (Total Revenue):
ปีงบประมาณ 2024: $8.0 พันล้าน (เติบโต 16.5% จากปีก่อน)
ปีงบประมาณ 2023: $6.9 พันล้าน (เติบโต 25.3% จากปีก่อน)
ปีงบประมาณ 2022: $5.5 พันล้าน (เติบโต 29.3% จากปีก่อน)
ไตรมาส 3 ปีงบประมาณ 2025 (สิ้นสุด 30 เมษายน 2025): $2.29 พันล้าน (เติบโต 15% จากปีก่อน)
ไตรมาส 2 ปีงบประมาณ 2025 (สิ้นสุด 31 มกราคม 2025): $2.257 พันล้าน (เติบโต 14% จากปีก่อน)
ไตรมาส 1 ปีงบประมาณ 2025 (สิ้นสุด 31 ตุลาคม 2024): $2.138 พันล้าน (เติบโต 14% จากปีก่อน)
- การแบ่งประเภทรายได้ (ปีงบประมาณ 2024):
ผลิตภัณฑ์ (Product Revenue): $1.6 พันล้าน (20.0% ของรายได้รวม) เติบโต 1.6% จากปีก่อน
การสมัครสมาชิกและการสนับสนุน (Subscription and Support Revenue): $6.4 พันล้าน (80.0% ของรายได้รวม) เติบโต 20.9% จากปีก่อน
กำไรขั้นต้น (Gross Margin):
ปีงบประมาณ 2024: 74.3% (ผลิตภัณฑ์ 78.3%, สมัครสมาชิกและสนับสนุน 73.4%)
ปีงบประมาณ 2023: 72.3%
ไตรมาส 3 ปีงบประมาณ 2025: 76.0% (Non-GAAP)
- กำไร (ขาดทุน) จากการดำเนินงาน (Operating Income (Loss) / Margin):
ปีงบประมาณ 2024: $683.9 ล้าน (8.5% ของรายได้รวม)
ปีงบประมาณ 2023: $387.3 ล้าน (5.6% ของรายได้รวม)
ปีงบประมาณ 2022: $(188.8) ล้าน (-3.4% ของรายได้รวม)
ไตรมาส 3 ปีงบประมาณ 2025: $627 ล้าน (Non-GAAP) (เติบโต 23% จากปีก่อน)
- เงินสดที่ได้จากการดำเนินงาน (Cash Flow Provided by Operating Activities):
ปีงบประมาณ 2024: $3,257.6 ล้าน
ปีงบประมาณ 2023: $2,777.5 ล้าน
ปีงบประมาณ 2022: $1,984.7 ล้าน
- Free Cash Flow:
ปี 2024: 3,100.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
(มาจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน: 3,257.6 ล้านดอลลาร์ หักด้วยการซื้อสินทรัพย์ ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ รวมถึงสินทรัพย์อื่นๆ: 156.8 ล้านดอลลาร์)
ปี 2023: 2,631.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
(มาจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน: 2,777.5 ล้านดอลลาร์ หักด้วยการซื้อสินทรัพย์ ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ รวมถึงสินทรัพย์อื่นๆ: 146.3 ล้านดอลลาร์)
ปี 2022: 1,791.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
(มาจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน: 1,984.7 ล้านดอลลาร์ หักด้วยการซื้อสินทรัพย์ ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ รวมถึงสินทรัพย์อื่นๆ: 192.8 ล้านดอลลาร์)
ข้อมูลกระแสเงินสดอิสระที่ปรับปรุงแล้ว (Adjusted Free Cash Flow - Non-GAAP) ล่าสุด
ไตรมาส 3 ปีงบประมาณ 2025 (สิ้นสุดวันที่ 30 เมษายน 2025): บริษัทรายงาน Adjusted Free Cash Flow (Non-GAAP) อยู่ที่ 578 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
การคำนวณสำหรับไตรมาสนี้เริ่มต้นด้วยกระแสเงินสดสุทธิที่ได้จากกิจกรรมการดำเนินงานที่ 628.7 ล้านดอลลาร์ หักด้วยการซื้อสินทรัพย์ ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ รวมถึงสินทรัพย์อื่นๆ ที่ 68.3 ล้านดอลลาร์ ได้เป็นกระแสเงินสดอิสระ (Non-GAAP) ที่ 560.4 ล้านดอลลาร์ จากนั้นจึง บวกเพิ่มด้วยค่าใช้จ่ายลงทุนสำหรับสินทรัพย์องค์กรบางรายการจำนวน 18.0 ล้านดอลลาร์
ซึ่งเป็นการซื้อสินทรัพย์องค์กรแบบครั้งเดียวที่คาดว่าจะชำระเงินจนถึงครึ่งหลังของปีปฏิทิน 2026 ทำให้ได้ Adjusted Free Cash Flow (Non-GAAP) ที่ 578.4 ล้านดอลลาร์
- แนวทางสำหรับปีงบประมาณ 2025
บริษัทคาดการณ์ อัตรากำไรกระแสเงินสดอิสระที่ปรับปรุงแล้ว (Adjusted Free Cash Flow Margin - Non-GAAP) สำหรับปีงบประมาณ 2025 (สิ้นสุดวันที่ 31 กรกฎาคม 2025) จะอยู่ในช่วง 37.5% ถึง 38.0%
บริษัทคาดว่าการเก็บเงิน (collections) ในไตรมาส 4 จะมีส่วนช่วยในกระแสเงินสดประจำปีมากขึ้น โดย 80% ของการเก็บเงินในไตรมาส 4 มาจากข้อตกลงที่ได้บันทึกไว้แล้ว
ฤดูกาลของกระแสเงินสดประจำปีมีน้ำหนักที่ครึ่งหลังของปีและไตรมาส 4 มากขึ้นในปีนี้ ซึ่งได้รับอิทธิพลจากเวลาของการชำระเงินที่รอการตัดบัญชีจากลูกค้าที่ลงนามในข้อตกลงในงวดก่อนหน้า และเวลาของการบันทึกการสั่งซื้อภายในปี
ข้อสังเกตเพิ่มเติม: รายงานล่าสุด (เช่น รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2025) ได้ใช้คำว่า "Adjusted Free Cash Flow" โดยมีการปรับปรุงเพิ่มเติมจากการหักค่าใช้จ่ายลงทุนสำหรับสินทรัพย์องค์กรบางรายการที่ถือเป็นรายการพิเศษออกไป เพื่อให้เห็นภาพกระแสเงินสดที่เกิดจากการดำเนินงานหลักของบริษัทได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
- ตัวชี้วัดสำคัญเพิ่มเติม:
Next-Generation Security (NGS) ARR (Annualized Recurring Revenue):
ไตรมาส 3 ปีงบประมาณ 2025: $5.09 พันล้าน (เติบโต 34% จากปีก่อน)
ไตรมาส 2 ปีงบประมาณ 2025: $4.8 พันล้าน (เติบโต 37% จากปีก่อน)
ไตรมาส 1 ปีงบประมาณ 2025: $4.5 พันล้าน (เติบโต 40% จากปีก่อน)
ARR ที่เกี่ยวข้องกับ AI (AI ARR) อยู่ที่ประมาณ $400 ล้าน ในไตรมาส 3 ปีงบประมาณ 2025 (เพิ่มขึ้นมากกว่า 2.5 เท่าจากปีก่อน)
Remaining Performance Obligation (RPO): มูลค่ารวมของรายได้ที่จะรับรู้ในอนาคต.
ไตรมาส 3 ปีงบประมาณ 2025: $13.5 พันล้าน (เติบโต 19% จากปีก่อน)
ไตรมาส 2 ปีงบประมาณ 2025: $13.0 พันล้าน (เติบโต 21% จากปีก่อน)
ไตรมาส 1 ปีงบประมาณ 2025: $12.6 พันล้าน (เติบโต 20% จากปีก่อน)
RPO ปัจจุบัน (Current RPO) อยู่ที่ $6.2 พันล้าน (เติบโต 16% จากปีก่อน) ในไตรมาส 3 ปีงบประมาณ 2025.
จำนวนลูกค้า XSIAM: ประมาณ 270 ราย และ ARR เฉลี่ยต่อลูกค้ามากกว่า $1 ล้าน.
จำนวนลูกค้า SASE: ประมาณ 6,000 ราย (เพิ่มขึ้น 22% จากปีก่อน).
- แนวโน้มทางการเงิน (Guidance):
คาดการณ์สำหรับไตรมาส 4 ปีงบประมาณ 2025 (สิ้นสุด 31 กรกฎาคม 2025):
NGS ARR: $5.52 พันล้าน - $5.57 พันล้าน (เพิ่มขึ้น 31%-32%)
RPO: $15.2 พันล้าน - $15.3 พันล้าน (เพิ่มขึ้น 19%-20%)
รายได้รวม: $2.49 พันล้าน - $2.51 พันล้าน (เพิ่มขึ้น 14%-15%)
Non-GAAP EPS (เจือจาง): $0.87 - $0.89 (เพิ่มขึ้น 16%-19%)
คาดการณ์สำหรับปีงบประมาณ 2025 (สิ้นสุด 31 กรกฎาคม 2025):
NGS ARR: $5.52 พันล้าน
Non-GAAP EPS (เจือจาง): $0.87 - $0.89
6. ความเสี่ยงของบริษัทมีอะไรบ้าง
บริษัทระบุความเสี่ยงหลายประการที่อาจส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงาน:
- การไม่สามารถปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและตลาด: หากบริษัทไม่สามารถคาดการณ์ เตรียมการ และตอบสนองต่อการพัฒนาทางเทคโนโลยีและตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และจัดการการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ ให้ตรงตามความต้องการของลูกค้าได้ บริษัทอาจสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน
- ความเสี่ยงด้าน AI: การพัฒนาและการปรับใช้ AI อาจนำไปสู่ความเสียหายต่อชื่อเสียงและความรับผิดทางกฎหมาย
- เหตุการณ์ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์: การเข้าถึงเครือข่ายหรือข้อมูลของบริษัทโดยไม่ได้รับอนุญาตอาจสร้างความเสียหายต่อชื่อเสียง ก่อให้เกิดความรับผิดเพิ่มเติม และส่งผลเสียต่อผลการดำเนินงานทางการเงิน
- ข้อบกพร่องของผลิตภัณฑ์: ข้อบกพร่อง ข้อผิดพลาด หรือช่องโหว่ในผลิตภัณฑ์ บริการสมัครสมาชิก หรือบริการสนับสนุน หรือความล้มเหลวของผลิตภัณฑ์ในการบล็อกไวรัสหรือป้องกันการละเมิดความปลอดภัย อาจสร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงและผลการดำเนินงาน
- คุณภาพบริการสนับสนุน: ความสามารถในการขายผลิตภัณฑ์และบริการสมัครสมาชิกขึ้นอยู่กับคุณภาพของบริการสนับสนุนทางเทคนิค
- การจัดการการเติบโต: การเติบโตและการขยายธุรกิจอาจสร้างภาระอย่างมากต่อทรัพยากรการจัดการ การดำเนินงาน และการเงินของบริษัท
- การขายผลิตภัณฑ์และบริการเพิ่มเติม: ความสำเร็จในอนาคตขึ้นอยู่กับความสามารถในการขยายการปรับใช้ผลิตภัณฑ์กับลูกค้าปัจจุบัน และสร้างความต้องการสำหรับข้อเสนอใหม่ ๆ
- การพึ่งพาพันธมิตรช่องทาง: บริษัทพึ่งพาพันธมิตรช่องทางในการขายและสนับสนุนผลิตภัณฑ์
- การขายให้กับหน่วยงานภาครัฐ: การขายให้กับภาครัฐมีความเสี่ยงหลายประการ เช่น การแข่งขันสูง ค่าใช้จ่ายสูง ข้อกำหนดการรับรองที่เปลี่ยนแปลง และผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงงบประมาณ
- การแข่งขันที่รุนแรง: อุตสาหกรรมความปลอดภัยทางไซเบอร์มีการแข่งขันสูงและมีการเปลี่ยนแปลงและนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง คู่แข่งจำนวนมากมีทรัพยากรทางการเงิน เทคนิค การตลาด การขาย และทรัพยากรอื่น ๆ ที่เหนือกว่า
- การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา: บริษัทอื่นอาจอ้างว่าผลิตภัณฑ์ของบริษัทละเมิดสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาของพวกเขา ซึ่งอาจนำไปสู่การฟ้องร้องและค่าเสียหายจำนวนมาก
- การพึ่งพาคู่ค้าการผลิต: บริษัทพึ่งพาคู่ค้าการผลิตในการสร้างและจัดส่งผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์ ซึ่งอาจทำให้เกิดความล่าช้าในการผลิตและโลจิสติกส์ และความผันผวนของราคา
- การจัดการอุปทาน: การจัดการอุปทานผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์และส่วนประกอบมีความซับซ้อน และการจัดหาที่ไม่เพียงพออาจทำให้สูญเสียโอกาสในการขายหรือรายได้ล่าช้า
- ความสามารถในการระดมทุน: บริษัทอาจไม่สามารถระดมทุนที่จำเป็นเพื่อชำระคืนหนี้ที่แปลงสภาพได้
- ภัยพิบัติและเหตุการณ์รุนแรง: ธุรกิจของบริษัทมีความเสี่ยงจากแผ่นดินไหว ไฟไหม้ ไฟฟ้าดับ น้ำท่วม ความเสี่ยงด้านสุขภาพ และเหตุการณ์ภัยพิบัติอื่นๆ รวมถึงปัญหาที่มนุษย์สร้างขึ้น เช่น การก่อการร้าย
7. ความแข็งแกร่งของบริษัทมีอะไรบ้าง
Palo Alto Networks มีความแข็งแกร่งหลายประการที่สนับสนุนตำแหน่งผู้นำในอุตสาหกรรมความปลอดภัยทางไซเบอร์:
- ผู้นำระดับโลกด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์: ได้รับการยอมรับในฐานะผู้นำด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ระดับโลก ด้วยโซลูชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI
- กลยุทธ์แพลตฟอร์ม (Platformization Strategy): การรวมผลิตภัณฑ์ต่างๆ เข้าสู่แพลตฟอร์มแบบครบวงจร ช่วยให้ลูกค้าได้รับผลลัพธ์ด้านความปลอดภัยที่ดีขึ้น ลดความซับซ้อน และลดต้นทุนการเป็นเจ้าของโดยรวม กลยุทธ์นี้กำลังได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในอุตสาหกรรม
- การเติบโตของ Next-Generation Security ARR (NGS ARR): มีการเติบโตที่โดดเด่นในกลุ่มผลิตภัณฑ์ความปลอดภัยยุคถัดไป โดยมี NGS ARR ทะลุ 5 พันล้านดอลลาร์ ในไตรมาส 3 ปีงบประมาณ 2025 และแสดงให้เห็นการเติบโตที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม
- ข้อมูลความลึกและกว้างขวาง: มีความสามารถในการรวบรวมข้อมูลจำนวนมาก (เกือบ 12 เพตาไบต์ต่อวัน) ซึ่งช่วยให้การตรวจจับภัยคุกคามมีประสิทธิภาพเหนือกว่า ลดการแจ้งเตือนที่ผิดพลาด และตอบสนองเหตุการณ์ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
- นวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วย AI: การผสานรวม AI อย่างลึกซึ้งในผลิตภัณฑ์ เช่น Cortex XSIAM และ Prisma AIRS ทำให้บริษัทอยู่ในตำแหน่งที่ดีในการรับมือกับการโจมตีที่ซับซ้อนและขับเคลื่อนด้วย AI
- Cortex XSIAM: เป็นผลิตภัณฑ์ที่เติบโตเร็วที่สุดของบริษัท มีลูกค้าประมาณ 270 ราย โดยมี ARR เฉลี่ยต่อลูกค้ารวมกว่า $1 ล้าน. XSIAM ช่วยลดเวลาเฉลี่ยในการตอบสนอง (MTTR) จากหลายวันเหลือเพียงนาที
- SASE (Secure Access Service Edge): เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เติบโตเร็วที่สุดในส่วน Network Security มีลูกค้า SASE ประมาณ 6,000 ราย และมีการเติบโตของ SASE ARR ที่ 36% จากปีก่อน ซึ่งเร็วกว่าตลาดโดยรวมมากกว่าสองเท่า
- Prisma Access Browser (PAB): มีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยมียอดขายใบอนุญาตประมาณ 3 ล้านใบ (เพิ่มขึ้น 10 เท่าจากปีก่อน) และถูกมองว่าเป็น "OS แห่งอนาคต" ในสภาพแวดล้อมที่ขับเคลื่อนด้วย AI
- ฐานลูกค้าที่หลากหลาย: มีลูกค้าในกว่า 180 ประเทศ ครอบคลุมอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น การศึกษา พลังงาน บริการทางการเงิน และรวมถึงบริษัท Fortune 100 เกือบทั้งหมด และบริษัท Global 2000 ส่วนใหญ่
- ความมุ่งมั่นด้านทุนมนุษย์: มีพนักงานมากกว่า 15,000 คน และให้ความสำคัญกับการสรรหา พัฒนา รับฟัง และสร้างการมีส่วนร่วมของพนักงาน. ได้รับการยอมรับจากองค์กรภายนอกว่าเป็น "Top 100 Global Most Loved Workplaces"
- ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม: มุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่สอดคล้องกับ 1.5°C และจัดหาพลังงานหมุนเวียน 100% สำหรับสถานที่ที่บริหารจัดการภายในปี 2030
8. กลยุทธ์ในการเติบโตของบริษัท เป็นอย่างไร
กลยุทธ์การเติบโตของ Palo Alto Networks มีหลายองค์ประกอบที่เชื่อมโยงกัน:
- กลยุทธ์แพลตฟอร์ม (Platformization Strategy):
การรวมผลิตภัณฑ์: รวมผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ เข้าเป็นสถาปัตยกรรมที่รวมเข้าด้วยกันอย่างแน่นหนา เพื่อให้ความปลอดภัยรวดเร็วขึ้น ซับซ้อนน้อยลง และคุ้มค่ามากขึ้น
โซลูชันที่ครอบคลุม: พัฒนาความสามารถและรวบรวมข้อเสนอเป็นแพลตฟอร์ม ที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าในตลาดที่บริษัทดำเนินงาน
- เพิ่มการนำไปใช้ในลูกค้าปัจจุบัน: มุ่งเน้นการขยายการปรับใช้โซลูชันของบริษัทกับลูกค้าปัจจุบัน โดยเฉพาะลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ เพื่อเพิ่มรายได้ในอนาคต
- Platformization deals: ผลักดันดีลขนาดใหญ่ที่ลูกค้าสามารถรวมผลิตภัณฑ์จำนวนมากเข้ากับ Palo Alto Networks ซึ่งช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ
- นวัตกรรมและการลงทุนในการวิจัยและพัฒนา (Innovation & R&D):
การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่: มุ่งเน้นการพัฒนาฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ใหม่ ๆ รวมถึงการปรับปรุงข้อเสนอผลิตภัณฑ์และบริการสมัครสมาชิกที่มีอยู่
- การใช้ AI และ Machine Learning: ลงทุนอย่างมากในความสามารถด้าน AI และ Machine Learning เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันภัยคุกคามในทุกด้านของความปลอดภัย
- การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่: เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น Prisma Cloud Darwin release, PAN-OS 11.2 Quasar, Cortex XSIAM 2.0, Prisma SASE 3.0, Precision AI™, Prisma AIRS, Advanced Email Security, และ Exposure Management
- การขยายตลาดและฐานลูกค้า (Market & Customer Expansion):
เพิ่มฐานลูกค้า: มุ่งมั่นที่จะขยายฐานลูกค้าทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง
การขยายทีมขาย: ลงทุนในการเติบโตของจำนวนพนักงานขายทั่วโลกเพื่อขยายการเข้าถึงในภาคส่วนการเติบโตที่สำคัญ
- การควบรวมและซื้อกิจการ (Mergers & Acquisitions - M&A):
การเข้าซื้อกิจการเชิงกลยุทธ์: เข้าซื้อกิจการบริษัทและสินทรัพย์ที่สอดคล้องกับกลยุทธ์ระยะยาว เพื่อเสริมสร้างความสามารถของแพลตฟอร์มและเข้าสู่ตลาดใหม่ ๆ
ตัวอย่างเช่น การเข้าซื้อ Dig Security Solutions Ltd. (เพื่อเสริม Prisma Cloud ด้วย DSPM), Talon Cyber Security Ltd. (เพื่อรองรับ Prisma SASE ด้วย Enterprise Browser), IBM's QRadar SaaS assets (เพื่อเร่งการเติบโตของ Cortex XSIAM), และ Protect.ai (เพื่อเสริมความปลอดภัยสำหรับ AI).
- การปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน (Operational Efficiency):
ปรับปรุงและขยายโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีและทางการเงิน รวมถึงระบบควบคุมการดำเนินงานและการบริหารจัดการ
การเปลี่ยนไปใช้โรงงานผลิตตามสัญญาในเท็กซัสเพื่อลดต้นทุนการผลิตและโลจิสติกส์
9. ประเด็นข่าวล่าสุดของบริษัท มีอะไรบ้าง
ผลประกอบการไตรมาส 3 ปีงบประมาณ 2025 (สิ้นสุด 30 เมษายน 2025):
รายได้รวมเติบโต 15% จากปีก่อน อยู่ที่ 2.29 พันล้านดอลลาร์
Next-Generation Security (NGS) ARR ทะลุเป้า $5 พันล้านดอลลาร์ โดยสิ้นสุดไตรมาสที่ $5.09 พันล้านดอลลาร์ เติบโต 34% จากปีก่อน
AI ARR อยู่ที่ประมาณ $400 ล้านดอลลาร์ เติบโตมากกว่า 2.5 เท่าจากปีก่อน
Cortex XSIAM ยังคงเป็นผลิตภัณฑ์ที่เติบโตเร็วที่สุด มีลูกค้าประมาณ 270 ราย และ ARR เฉลี่ยต่อลูกค้ามากกว่า $1 ล้านดอลลาร์
ยอดจอง XSIAM ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาเกือบแตะ $1 พันล้านดอลลาร์
รายได้จากผลิตภัณฑ์ เติบโต 16% จากปีก่อน โดยซอฟต์แวร์ยังคงเพิ่มสัดส่วนในรายได้รวม
SASE ARR เติบโต 36% จากปีก่อน ซึ่งเร็วกว่าตลาดโดยรวมมากกว่าสองเท่า มีลูกค้า SASE ใหม่ประมาณ 40% ที่ไม่เคยเป็นลูกค้า Palo Alto Networks มาก่อน
Prisma Access Browser มียอดขายใบอนุญาตประมาณ 3 ล้านใบ (เพิ่มขึ้นมากกว่า 10 เท่าจากปีก่อน) และคิดเป็นหนึ่งในสามของจำนวนที่นั่ง Prisma Access ที่ขายในไตรมาส 3
เปิดตัว Prisma AIRS (AI Runtime Security) เพื่อช่วยองค์กรค้นหา สแกน และทดสอบ AI artifacts เพื่อให้แน่ใจว่าปลอดภัย และเป็นแพลตฟอร์มความปลอดภัย AI ที่ครอบคลุมที่สุดในโลก
- ประกาศความตั้งใจที่จะเข้าซื้อ Protect.ai ซึ่งเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมความปลอดภัยสำหรับ AI เพื่อเสริมความสามารถในการสแกนโมเดล AI และ AI red teaming คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2026
- การจัดการผ่านความผันผวนทางภูมิรัฐศาสตร์และปัญหาเรื่องภาษีในไตรมาส 3
การเพิ่มขึ้นของลูกค้าที่ใช้แพลตฟอร์ม (Platformization customers) มีประมาณ 1,250 ราย ในกลุ่มลูกค้า 5,000 รายใหญ่ที่สุดของบริษัท
- การแยกหุ้น (Stock Split):
ในเดือนพฤศจิกายน 2024 Palo Alto Networks ได้ประกาศว่าคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติการ แยกหุ้นแบบสองต่อหนึ่ง (two-for-one forward stock split) สำหรับหุ้นสามัญที่ออกจำหน่ายแล้วของบริษัท
1
ผู้ถือหุ้นที่มีชื่ออยู่ในวันที่ 12 ธันวาคม 2024 จะได้รับหุ้นเพิ่มอีกหนึ่งหุ้นสำหรับทุกหุ้นที่ถือครองในวันที่ 13 ธันวาคม 2024 และคาดว่าจะเริ่มซื้อขายในราคาที่ปรับตามการแยกหุ้นในวันที่ 16 ธันวาคม 2024
- การเข้าซื้อกิจการ IBM's QRadar SaaS assets:
Palo Alto Networks บรรลุข้อตกลงเข้าซื้อกิจการ QRadar SaaS assets ของ IBM รวมถึงสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญา ความสัมพันธ์กับลูกค้า และสัญญาในวันที่ 31 สิงหาคม 2024
การเข้าซื้อกิจการนี้คาดว่าจะช่วยเร่งการเติบโตของธุรกิจ Cortex XSIAM. NGS ARR เริ่มต้นรวมรายได้จากสัญญา QRadar software as a service ตั้งแต่ไตรมาส 1 ปีงบประมาณ 2025
การแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารใหม่:
- ในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 บริษัทได้ประกาศแต่งตั้ง Helle Thorning-Schmidt อดีตนายกรัฐมนตรีของเดนมาร์ก และ Ralph Hamers อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ UBS Group AG และ ING Group เข้าเป็นคณะกรรมการบริษัท
โฆษณา