18 ก.ย. เวลา 09:27 • สุขภาพ

🔖โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง - European Guideline update 2025

แนวทางนี้เป็นการอัปเดตจากฉบับเดิมปี 2022 โดยมุ่งเน้นไปที่การรักษาด้วย systemic therapy เป็นหลัก และเป็น Living Guideline ที่จะมีการปรับปรุงเมื่อมีหลักฐานใหม่ๆ
🔴การอัปเดตสำคัญในฉบับนี้:
1. เพิ่มการแนะนำสำหรับ Lebrikizumab: เป็นยากลุ่มชีวภาพชนิดใหม่ (biologic) ที่ยับยั้ง IL-13 ได้รับการอนุมัติจาก EMA (European Medicines Agency) ในเดือนพฤศจิกายน 2023
2. ขยายขอบเขตการใช้ยายับยั้งเอนไซม์ JAK (JAK inhibitors) สำหรับเด็กและวัยรุ่น:
* Baricitinib ได้รับการอนุมัติให้ใช้ใน เด็กอายุ 2 ปีขึ้นไป (เดิมใช้เฉพาะในผู้ใหญ่)
* Abrocitinib ได้รับการอนุมัติให้ใช้ใน วัยรุ่นอายุ 12 ปีขึ้นไป (เดิมใช้เฉพาะในผู้ใหญ่)
3. อัปเดตข้อมูลจาก network meta-analysis ใหม่ ซึ่งเปรียบเทียบประสิทธิภาพของ systemic therapies ต่างๆ
✴️ภาพรวมของแนวทางการรักษาแบบเป็นขั้น (Stepped-Care Plan):
แนวทางยังคงใช้หลักการรักษาแบบเป็นขั้นตอน โดยพิจารณาจากความรุนแรงของโรคและการตอบสนองต่อการรักษาในปัจจุบัน
ขั้นที่ 1: หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น, ใช้สารที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น (emollients), ยาสเตียรอยด์ชนิดที่ใช้ภายนอก (topical steroids) และ ยาที่ไม่ใช่สเตียรอยด์สำหรับทาเฉพาะที่เพื่อลดการอักเสบและยับยั้งอาการกำเริบของโรคผิวหนัง (Topical calcineurin inhibitors - TCIs)
ขั้นที่ 2: การบำบัดด้วยแสง (Phototherapy) (สำหรับผู้ใหญ่)
ขั้นที่ 3: การรักษาด้วย systemic therapy (เมื่อการรักษาขั้นที่ 1 และ 2 ไม่สามารถควบคุมโรคได้) ซึ่งประกอบด้วย:
* ยากดภูมิคุ้มกัน Conventional immunosuppressants: (เช่น Ciclosporin, Methotrexate, Azathioprine, Mycophenolate Mofetil)
* ยาฉีดกลุ่มชีวภาพ (Biologics): (Dupilumab, Lebrikizumab (ใหม่), Tralokinumab)
* ยากลุ่ม JAK inhibitors: (Abrocitinib, Baricitinib, Upadacitinib)
♉สรุปคำแนะนำสำหรับ systemic drugs หลัก (สำหรับผู้ใหญ่) :
(ข้อมูลโดยละเอียด อ่านได้จากเอกสาร
บทความนี้จะเน้นเฉพาะยาบางชนิดที่ร้านยาสามารถเข้าถึงได้)
🔹Ciclosporin (Sandimmun®, Sandimmun Neoral®)
ยานี้ช่วยยับยั้งการทำงานของ T-cell ได้อย่างรวดเร็ว และถือเป็นยาทางเลือกแรกสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงในหลายประเทศของยุโรป
- ขนาดที่แนะนำ: สำหรับผู้ใหญ่ 2.5–5 มก./กก./วัน และสำหรับเด็ก 2.5–5 มก./กก./วัน
- ความปลอดภัย: ยานี้มีดัชนีการรักษาที่แคบ จึงต้องมีการติดตามความดันโลหิต. และการทำงานของไตอย่างใกล้ชิด
- ข้อพิจารณาพิเศษ: สามารถพิจารณาใช้ในสตรีมีครรภ์ที่มีอาการรุนแรงได้ เนื่องจากยังไม่มีรายงานความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญต่อทารกในครรภ์
🔹Methotrexate
เป็นยาที่มีฤทธิ์ต้านกรดโฟลิก ใช้กันมานาน ราคาถูก การศึกษาชี้ว่ามีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัย​ โดยทั่วไปทนต่อยาได้ดี ​
- ขนาดที่แนะนำ: สำหรับผู้ใหญ่เริ่มต้นที่ 5-15 มก./สัปดาห์ (สูงสุด 25 มก./สัปดาห์)
สำหรับเด็ก 0.2-0.4 มก./กก./สัปดาห์
ควรใช้ร่วมกับกรดโฟลิกเพื่อลดผลข้างเคียง
- ผลข้างเคียงหลักคืออาการคลื่นไส้ อ่อนเพลีย และระดับเอนไซม์ตับสูงขึ้น
- ข้อพิจารณาพิเศษ: ยานี้ส่งผลต่อภาวะเจริญพันธุ์และอาจก่อให้เกิดความผิดปกติในทารกในครรภ์ได้ ดังนั้นสตรีวัยเจริญพันธุ์และสามีควรใช้การคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพ
🔹Azathioprine (Imuran®)
เป็นยาที่ยับยั้งการสังเคราะห์ DNA จึงมีผลกดภูมิคุ้มกัน
ออกฤทธิ์ช้า (3-4 เดือนถึงได้ผลเต็มที่)
ประสิทธิภาพเทียบเท่ากับ Methotrexate แต่ต่ำกว่า Dupilumab และ Ciclosporin
- ขนาดที่แนะนำ: สำหรับผู้ใหญ่และเด็ก 1–3 มก./กก./วัน
- ความปลอดภัย: ผลข้างเคียงที่พบบ่อย.​คือความเป็นพิษต่อตับและไขกระดูก นอกจากนี้ยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งผิวหนัง หากใช้ในระยะยาว
- ข้อพิจารณาพิเศษ: ควรหลีกเลี่ยงการใช้ AZA ร่วมกับการบำบัดด้วยแสง UV เนื่องจากอาจเพิ่มความเสี่ยงของมะเร็งผิวหนัง และไม่แนะนำให้เริ่มใช้ในระหว่างการตั้งครรภ์
🔹Mycophenolate mofetil (Cellcept®,Imucept®)
เป็นยาที่ใช้ในการรักษาโรคผิวหนังอักเสบจากภูมิแพ้ ในกรณีที่ผู้ป่วยไม่ตอบสนองต่อยาตัวอื่นๆ ที่ใช้เป็นแนวทางแรก
ออกฤทธิ์โดย ยับยั้งการเพิ่มจำนวนของเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดลิมโฟไซต์ จึงช่วยลดการอักเสบ
- ขนาดที่ใช้โดยทั่วไป: สำหรับผู้ใหญ่คือ 1–3 กรัมต่อวัน และสำหรับเด็ก 30–50 มก./กก. ต่อวัน โดยแบ่งให้ 2 ครั้ง
- ผลข้างเคียงที่พบบ่อยคือ อาการปวดศีรษะและปัญหาทางเดินอาหาร รวมถึงการติดเชื้อ โดยเฉพาะเมื่อใช้ในระยะยาว ส่วนผลข้างเคียงทางโลหิตวิทยา เช่น ภาวะโลหิตจาง พบได้ไม่บ่อย
🔹Systemic Glucocorticosteroids
กลไกและประสิทธิภาพ: เป็นยาที่ใช้กันทั่วไปในการรักษาอาการกำเริบอย่างเฉียบพลัน แต่ไม่ได้ช่วยให้หายขาดในระยะยาว และมีโอกาสที่อาการจะกลับเป็นซ้ำสูง
ความปลอดภัย: ไม่แนะนำให้ใช้เป็นยาหลักสำหรับการรักษาในระยะยาว เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดผลข้างเคียงสำคัญ เช่น ผิวบาง น้ำหนักเพิ่ม และปัญหาทางอารมณ์
♊ข้อพิจารณาเป็นพิเศษสำหรับกลุ่มผู้ป่วย:
👶 เด็กและวัยรุ่น: ขณะนี้มีตัวเลือก systemic therapy มากขึ้นรวมถึง dupilumab (อายุ ≥6 เดือน), baricitinib (อายุ ≥2 ปี), abrocitinib (อายุ ≥12 ปี)
🫄หญิงตั้งครรภ์:
การรักษาหลักยังคงเป็นสารที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น, ยาสเตียรอยด์ชนิดที่ใช้ภายนอก ยาที่ไม่ใช่สเตียรอยด์สำหรับทาเฉพาะที่ (หลีกเลี่ยง fluticasone propionate)
* systemic therapy:
Ciclosporin เป็นตัวเลือกแรกหากจำเป็นจริงๆ,
AZA อาจพิจารณาในผู้ที่ใช้ยานี้อยู่แล้วก่อนตั้งครรภ์
ห้ามใช้ MTX และ MMF
Biologics และ JAKi ยังไม่มีข้อมูลความปลอดภัยเพียงพอ
🤱 หญิงให้นมบุตร: ยาสเตียรอยด์ชนิดที่ใช้ภายนอก และ TCIs ใช้ได้โดยทาหลังให้นม
systemic corticosteroids ใช้ในระยะสั้น ถือว่าปลอดภัย,
Biologics อาจขับออกในน้ำนมในปริมาณต่ำมาก แต่ยังขาดข้อมูล
JAKi, MTX, AZA, Ciclosporin ไม่แนะนำ
🔴สรุป:
แนวทางนี้แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าอย่างมากในการรักษา AE ด้วย systemic therapy โดยเฉพาะอย่างยิ่ง biologics และ JAK inhibitors ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงและขยายขอบเขตการใช้เพิ่มไปยังเด็กเล็ก
* การเลือกยา ควรพิจารณาจากความรุนแรงของโรค ความเร็วที่ต้องการเห็นผล โรคร่วม ภาวะสุขภาพอื่นๆ ของผู้ป่วย และค่าใช้จ่าย/การเข้าถึงยา
* การ monitor ผู้ป่วย ตามคำแนะนำของยาแต่ละชนิดเคร่งครัด มีความสำคัญมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งยากดภูมิคุ้มกัน และ JAK inhibitors
* การรักษาแบบองค์รวม ยังคงสำคัญ รวมถึงการให้ความรู้ผู้ป่วย, การใช้ emollients อย่างต่อเนื่อง, และการใช้ topical therapy อย่างเหมาะสม
😀มีปัญหา​เ​รื่องก​ารใช้ยา​ เชิญ​ปรึกษา​เภสัชกร​ประจำ​ร้านยา
💢European Guideline (EuroGuiDerm) on atopic eczema: Living update, Journal of the European Academy of Dermatology and Venereology, May 2025
อ่านเพิ่มเติม
Treatment of Atopic Dermatitis, JAMA, August 2025
.
BETTERCM 2025.09.18
โฆษณา