20 ก.ย. เวลา 07:58 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

‘ทฤษฎีป่ามืด’ สมมุติฐานที่ว่าทำไมมนุษย์ยังไม่เจอเอเลี่ยน

รู้หรือไม่… หนึ่งในคำอธิบายที่น่าขนลุกที่สุดว่าทำไมมนุษย์ยังไม่เจอสิ่งมีชีวิตต่างดาว ก็คือ “ทฤษฎีป่ามืด” (Dark Forest Theory)
แนวคิดนี้ถูกทำให้โด่งดังโดยนักเขียนไซไฟชาวจีน หลิ่วฉือซิน (Liu Cixin) ในนวนิยาย The Dark Forest ซึ่งพยายามตอบคำถามของ “ปริศนาแฟร์มี” (Fermi Paradox) — คำถามที่ว่า “หากจักรวาลกว้างใหญ่และเต็มไปด้วยดาวเคราะห์ ทำไมเรายังไม่พบใครเลย?”
ลองจินตนาการว่าจักรวาลเหมือน “ป่ามืดกว้างใหญ่” ที่เต็มไปด้วยนักล่ามองไม่เห็น ทุกเผ่าพันธุ์ต่างซ่อนตัวเงียบ ไม่ส่งเสียง เพราะการเปิดเผยตำแหน่งของตนเอง อาจเป็นการเชิญชวนหายนะจากผู้ที่แข็งแกร่งกว่าเข้ามาทำลาย
ตามทฤษฎีนี้ สิ่งมีชีวิตทรงภูมิทุกเผ่าพันธุ์ต่างมี “เป้าหมายสูงสุด” เหมือนกันคือ การอยู่รอด แต่เนื่องจากทรัพยากรในเอกภพมีจำกัด อีกทั้งไม่มีใครสามารถรู้ได้เลยว่าอารยธรรมอื่นมีเจตนาอย่างไร—เป็นมิตรหรือศัตรู—ทำให้ ทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุดคือการปิดปากเงียบ และในบางกรณีอาจต้อง โจมตีก่อนเพื่อความมั่นใจ ว่าจะไม่ถูกทำลายในอนาคต
นี่อาจเป็นเหตุผลว่าทำไมจักรวาลจึงเงียบงัน แม้มนุษย์จะส่งคลื่นวิทยุออกไปนับสิบปีแล้ว แต่กลับไม่มีเสียงตอบกลับมาเลย เพราะสิ่งมีชีวิตที่อยู่ไกลโพ้น อาจกำลัง “ซ่อนตัว” อยู่ในป่ามืดแห่งจักรวาลเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ทฤษฎีนี้ก็ยังคงเป็นเพียงสมมุติฐาน บางนักวิทยาศาสตร์ชี้ว่า จักรวาลเงียบเพราะเรายังฟังน้อยเกินไป โครงการค้นหาสัญญาณจากอวกาศ (SETI) แม้จะใช้กล้องโทรทรรศน์ขนาดยักษ์ แต่ก็ยังตรวจสอบได้เพียงเศษเสี้ยวเล็ก ๆ ของกาแล็กซีทางช้างเผือกเท่านั้น และสัญญาณจากโลกเองก็เพิ่งเดินทางออกไปได้ไกลไม่กี่ร้อยปีแสง เมื่อเทียบกับกาแล็กซีที่กว้างถึงแสนปีแสง จึงอาจเร็วเกินไปที่จะสรุปว่า “ไม่มีใครอยู่”
ไม่ว่าจะจริงหรือไม่ “ทฤษฎีป่ามืด” ได้กลายเป็นหนึ่งในคำเตือนที่ชวนให้คิดว่า… บางทีความเงียบของเอกภพ อาจไม่ใช่เพราะจักรวาลว่างเปล่า แต่เพราะ “ทุกคนกำลังหลบซ่อน เพื่อเอาชีวิตรอดในป่ามืดแห่งจักรวาล”
โฆษณา