25 ก.ย. เวลา 13:30 • ข่าวรอบโลก

ไม่ใช่หมีกระดาษ แต่มันขาดสารอาหาร…

ทรัมป์ไม่รู้ไปกินอะไรมา บอกรัสเซียกระจอก
เป็นเสือกระดาษซะงั้น ….
แต่มันไม่ใช่หรอก รัสเซียยังเป็นหมีที่เขี้ยวเล็บคมกริบ
ไม่งั้นพวกนาโต้คงแห่เข้าไปถล่มนานแล้วล่ะ
อย่างน้อยพวกเขาก็ยังมีนิวเคลียร์เป็นหลักประกันตัวเอง
แม้ว่าผลงานในสมรภูมิจะห่วยจริงๆ อย่างทรัมป์ว่าก็ตาม
แต่ในทางยุทธศาสตร์แล้ว ต้องถือว่าน่ากลัวอยู่ดี
อาจน่ากลัวกว่ามังกรที่ตอนนี้เหมือนติดโควิดด้วยซ้ำไป
อันนี้คือในแง่ดุลทางยุทธศาสตร์ ด้านอาวุธนะ
รัสเซียยังน่ากลัวกว่าจีนอยู่พอสมควร
รายนั้นมีปัญหาด้านชัยภูมิ ที่ยังแก้ไม่ตก
และมีห่วงด้านเศรษฐกิจ ที่จะไม่อันตรายเกินไป
แต่จะบอกที่ทรัมป์พูด มันไร้สาระซะทีเดียวก็คงไม่ใช่
…เพียงแต่มันน่าจะผิดความหมายไปสักหน่อย…
…ที่ถูกไม่น่าใช่หมีกระดาษ แต่ขาดสารอาหารมากกว่า….
จากคำพูดของทรัมป์ เขามองเป็นสองส่วน
คือ เศรษฐกิจแย่เป็นอย่างแรก
และผลงานที่ไม่ดีในสนามรบ ไม่คืบหน้า
จนเก็บยูเครนไม่ได้ ทั้งที่จะสี่ปีแล้ว
ซึ่งถ้ามองในมุมนั้น คำพูดของเขามันก็มีสาระอยู่นะ…
1) ความอ่อนแอทางเศรษฐกิจของรัสเซีย เป็นเรื่องจริง…
เรื่องนี้แม้ทางปูตินและมอสโคว์จะปากแข็งยังไง
แต่ก็ดูเหมือนปิดไม่มิด เนื่องจากตัวเลขต่างๆของพวกเขา
เองมันฟ้องชัดเจน
ล่าสุดก็ไปขึ้นภาษีแล้ว อันนี้ชัด ถ้าดีๆจะขึ้นทำไม
( ข้อดีอย่างหนึ่งของรัสเซีย คือพวกเขาเที่ยงตรงกับตัวเลข
ต่างๆมากกว่าจีนเยอะ รายนั้นซุกเก่ง อันนี้น่าจะมาจากค่านิยม
แบบฝรั่งหัวทอง ที่บ้าตัวเลข สถิติต่างๆ นัยว่า ถ้าไม่ยอมรับ
ก็แก้ไม่ได้ อะไรทำนองนั้น….)
ทำไมเป็นงั้น ?
อย่างที่เรารู้กันดี รัสเซียนั้นมีรายได้จากทรัพยากรเป็นหลัก
โดยเฉพาะพลังงาน ที่คิดเป็นสัดส่วนต่อรายได้ประชาชาติ
มากกว่าครึ่งหนึ่ง และบางช่วงมากถึง 60-70% ทีเดียว
ใช่ พวกเขามีเหล็ก และแร่ต่างๆอีกมาก
แต่เพราะจีนผลิตและขายเก่งกว่า มันจึงทำให้พวกเขา
มีรายได้จากส่วนนี้น้อยกว่าพลังงานมาก แม้แต่ในข่วง
ก่อนการโดนแบนก็ตาม
สัดส่วนรายได้จากพลังงานของรัสเซียนั้น เป็นรองแค่
กลุ่มประเทศตะวันออกกลางเท่านั้น และพอๆกับเวเนซุเอลา
ในช่วงรุ่งโรจน์ คือ 60% โดยเฉลี่ย
ดังนั้นราคา และปริมาณการขายพลังงาน จึงมีผล
ชี้เป็นชี้ตายให้เศรษฐกิจรัสเซียได้มาก อย่างคิดไม่ถึง
ซึ่งเราก็ทราบกันดี ว่าปัจจุบันราคาพลังงานมันไม่ดีนัก
เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่แย่กันทั้งโลก ความต้องการตก
รัสเซียเองก็โดนแบน ยุโรปซื้อน้อยมาก
การแอบซื้อนั้น ปริมาณและราคา เทียบไม่ได้เลย
กับสภาวะปกติ
ขายจีน อินเดีย ก็โดนกดราคา ที่ไปเสนอให้เขาไว้เอง
ว่าต้องลดถึง 30% จากราคาตลาด
แถมปริมาณการส่ง ก็ยังน้อยกว่าที่เคยส่งยุโรปมาก
จากข้อจำกัดในการขนส่ง ที่ไม่ได้สมบูรณ์เท่า
และต้องใช้เวลาอีกนาน เพื่อพัฒนาระบบขนส่ง
ให้มีความสามารถเทียบเท่ากับระบบที่เคยส่งไปยุโรป
ซึ่งก็มีปัญหาเรื่องจุดคุ้มทุน ที่ไม่รู้ว่าจะคุ้มไหม
เนื่องจากแนวโน้มราคาพลังงานมันลดลงเรื่อยๆ
เหล่านี้ สร้างปัญหาให้รัสเซียอย่างหนัก
โดยเราสามารถดูได้จากรัฐวิสาหกิจยักษ์พลังงาน
ของรัสเซียเอง ที่ขาดทุนมาตั้งแต่กลางปีที่แล้ว
ซึ่งเป็นการขาดทุนครั้งแรก ในรอบยึ่สิบปี
แน่นอน เครื่องมือหาเงินหลักขาดทุนแบบนี้
ก็คือเงินเข้ารัฐมันก็น้อยลงไปด้วย
ปริมาณการขาย อาจเป็นเรื่องหลอกตา เพราะอย่างที่บอก
คือ จีนและรัสเซีย รวมถึงผู้ค้ารายอื่น กดราคายับ
เหมือนกดราคาของร้อนยังไงอย่างนั้น มันไม่ได้ทำให้
รัสเซียมีกำไร เหมือนที่ผ่านมาอีกแล้ว
…นี่คือที่มาแรกของความหายนะ ของเศรษฐกิจรัสเซีย…
การโดนแบนเอง ก็พาเมกะโปรเจ็คแป๊กไปด้วย
รัสเซียนั้นลงทุนไปเยอะมาก ในโครงการ
ที่ชื่อว่า Arctic LNG 2 ในระดับหลายหมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
โครงการมีมานานมากแล้ว ตั้งแต่ก่อนมีสงคราม
โดยคร่าวๆ มันคือการเปิดเส้นทางขนส่ง
ในขั้วโลกเหนือ โดยเฉพาะพลังงาน
มันอยู่บนหลักการว่า น้ำแข็งขั้วโลกที่ละลาย
จะทำให้รัสเซียมีทางออกทะเลทางเขั้วโลกหนือ
และจะสามารถคุมเส้นทางนี้ได้แบบเบ็ดเสร็จ
มันเป็นระยะทางที่ใกล้ที่สุด จากยุโรปไปหารายใหญ่
ของเอเชีย คือ จีนและญี่ปุ่น เกาหลีใต้
พวกเขาหวังว่า นอกจากตัวเอง จะใช้เองแล้ว
พวกยุโรปตะวันตก ก็น่าจะมาขอใช้ด้วยเช่นกัน
เนื่องจากใกล้กว่า ในการไปเอเชีย
แต่ สุดท้ายก็แป๊ก
เนื่องจากมันเป็นโครงการที่มีมาตั้งแต่ก่อนโดนแบน
การคิดความคุ้มค่า จึงต้องรวมพวกยุโรปตะวันตก
ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ซึ่งทุกวันนี้คือศัตรูเข้าไปด้วย
แน่นอน เมื่อโดนแบน ยุโรปไม่เอาด้วย ทุกอย่างก็ผิดแผน
ไอ้ที่ลงเงินไปมหาศาล มันก็จม ไม่ได้เงินมาหมุน
ซ้ำร้าย รัสเซียเองกลับลืม ว่าเรือ tanker พวกนี้มีลักษณะเฉพาะ
มันต้องมีเทคโนโลยีที่ทำให้สามารถบรรทุก LNG ในเขตขั้วโลก
และมันดันมีมากที่สุดในมือพวกตะวันตก
แต่จีนนั้นมีน้อยมากเนื่องจากไม่มีความจำเป็นนัก
สำหรับพวกเขา ส่วนอินเดียยิ่งไม่ต้องพูดถึง
กลายเป็นว่าแป๊ก เพราะลูกค้าไม่มีเรือมารับของ
จีน และอินเดีย ย่อมไม่ลงทุนมหาศาล เพื่อสร้างกองเรือแน่
พวกเขาจะเอาแต่ทางท่อจากรัสเซียมากกว่า กับทางเรือ
ก็เอาจากแหล่งอื่นมาเสริม
โครงการนี้จึงพูดได้ว่าเจ๊งไปแล้วอย่างไม่เป็นทางการ
นอกจากการที่จีน ใช้เรือไม่กี่ลำของรัสเซียให้ส่งมา
มันก็ไม่มีอะไรที่เป็นคุณค่าทางเศรษฐกิจ
มันเพียงเป็นการแสดงออกทางการเมืองเสียมากกว่า
1
(ข่าวว่ามีเรือรัสเซียงานนี้แค่หกลำ และส่งครั้งแรกได้
เมื่อเดือนกรกฎาคมนี่เอง แถมเป็นเรือบัญชีดำของตะวันตก
อีกต่างหาก หมายความว่า ถ้าไม่ส่งจีน เกาหลีเหนือ
ก็คงส่งคนอื่นไม่ได้อีกแล้ว )
เพราะงั้น เงินลงทุน ซึ่งมี Gazprom เป็นหุ้นส่วนใหญ่ของโครงการ มันจึงจม และฉุด Gazprom ลงเหวไปด้วย…
เมื่อ Gazprom ร่วง ก็แน่แหละ ว่าเศรษฐกิจรัสเซียก็แย่ไปด้วย
นี่คือจุดอ่อนอยู่แล้วของประเทศที่รัฐผูกขาด รับความเสี่ยงเอง
ในกิจการต่างๆ ที่เมื่อโครงการเจ๊ง รัฐก็เจ๊ง
…เงินไหลเวียนในระบบของรัสเซีย มันจึงย่ำแย่ไปหมด
…และต้องไม่ลืมว่า รัสเซียมีแรงงานที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมพลังงาน มากที่สุดในบรรดาตลาดแรงงานพวกเขาเอง
บริษัทพลังงานรายอื่นรายอื่นๆ ว่ากันตามจริง มันก็คือซัพฯ
ของ Gazprom นั่นแหละ มันจึงกระทบไปทั้งระบบนั่นเอง…
รัฐวิสาหกิจขาดทุน แต่รัฐยังต้องแบกแรงงาน เพื่อป้องกัน
ความไม่พอใจของประชาชน
แบบนี้พวกเขาจะทนได้อีกกี่น้ำกันล่ะ ?
…โดยเฉพาะ เมื่อยังต้องใช้เงินทำสงครามเป็นส่วนใหญ่…
…แน่นอน เงินน้อยลง มันส่งผลกับประสิทธิภาพในการรบ
จนเป็นที่มาของผลงานสุดห่วยตลอดสี่ปีที่ทรัมป์ว่านั่นเอง…
2) ประสิทธิภาพกองทัพ ไม่สมราคา
นี่คือสิ่งที่ทรัมป์กำลังสื่อสารออกมา โดยมองขีดความสามารถ
ของอาวุธ บุคคล กำลังบำรุง ทางยุทธวิธีเป็นหลัก
จริงๆก็ไม่ใช่เรื่องใหม่เช่นกัน ทางค่ายนาโต้นั้น
ประเมินมานานแล้ว ว่าพวกรัสเซียนั้น มีประสิทธิภาพ
การรบที่ต่ำกว่าที่พวกเขาคิดเอาไว้มาก โดยเฉพาะทางเรือ
และทางบก ซึ่งมันเห็นได้ชัดในยูเครน
ในมุมมองพวกตะวันตก พวกเขามองว่า รัสเซียใช้ทรัพยากร
มากจนเกินไป ในการจะคืบหน้าในสมรภูมิแต่ละกิโลเมตร
ความสามารถในการป้องกันตัวก็ต่ำ แม้แต่การจะปกป้อง
บ่อเงินบ่อทอง คือโรงกลั่นน้ำมันต่างๆ รัสเซียก็ทำไม่ได้
ยังคงถูกยูเครนโจมตีอยู่ตลอดเวลา จนน้ำมันสำเร็จรูป
เกิดการขาดแคลนในหลายภูมิภาค
เรื่องความสามารถในการป้องกันนี่แหละ ที่เป็นจุดอ่อนของรัสเซียที่แท้จริง เนื่องจากเป็นเป้าหมายที่ยูเครนชัดเจนมาก
ที่จะทำการโจมตี รัสเซียรู้ทั้งรู้ แต่กลับป้องกันไม่ได้
ความห่วยในจุดนี้ มันชัดเจน และปฏิเสธได้ยาก
ยิ่งเมื่อเอาไปเทียบกับอิสราเอล ที่ในการปะทะกับอิหร่าน
พวกเขารักษาจุดยุทธศาสตร์จริงได้เกือบหมด ทั้งที่โดนหนักกว่ารัสเซียมากในแต่ละระลอกที่อิหร่านโจมตี มันก็ยิ่งชัดเจน
สหรัฐเองก็รู้ดี ว่ายูเครน ยุโรป มีอะไรในมือ
ดังนั้น เขาอาจมองว่า ยุโรปมีศักยภาพพอที้จะรบกับรัสเซียได้จริงๆ หากไม่ติดเงื่อนไขเรื่องอาวุธนิวเคลียร์….
โดยสรุปแล้วสงครามคือต้นเหตุทำลายเศรษฐกิจของรัสเซียเอง
การแบนต่างๆ แม้ให้ผลช้า ทอดเวลามานานจึงเห็นผล
แต่ก็ทำให้ร้าวลึก จนทำให้รัสเซียเสียศักยภาพที่เคยมี
จะบอกว่า ทัพรัสเซียห่วย ทรัมป์คงไม่ได้หมายความขั้นนั้น
ความหมายที่แท้จริง คือ ไม่สมราคาความเป็นมหาอำนาจ
ทางทหารหมายเลขสามของโลกในปัจจุบัน….
และแน่นอน ด้วยศักยภาพระดับนี้ มันไม่ใช่ปัญหานักของสหรัฐ
…โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับจีน ที่แม้จะไม่เคยเข้าสมรภูมิ
แต่เมื่อมองความพร้อม ความแข็งแกร่งต่างๆ มันเหนือ
กว่ารัสเซียอย่างมากไปแล้ว…
นี่ต่างหาก คือความหมายของเสือกระดาษของทรัมป์
อย่างไรก็ตาม
อย่างที่บอกแต่ต้น ว่ารัสเซียจะอย่างไรก็ยังมีเขี้ยวเล็บ
ที่ยังแหลมคมมาก อยู่อีกมาก ที่จะสร้างความวายป่วง
ไปทั่วโลกได้
เพียงแต่อาวุธเหล่านั้น มันอยู่บนเงื่อนไขการใช้ที่ยาก
ต้องจ่ายค่าตอบแทนมหาศาล เมื่อใช้ออกไป
ซึ่งทรัมป์ และยุโรป ก็เชื่อว่ารัสเซียและปูติน
คงไม่หน้ามืดขนาดนั้น
การพูดของทรัมป์ ไม่ใช่ว่าเลื่อนลอยเสียทั้งหมด
แต่ก็เป็นการด้อยค่ามากจนเกินไปเช่นกัน
ความจริงคือ หมีตัวนี้ กำลังขาดสารอาหาร
ที่เรียกว่าเงิน และซัพพลายอื่นๆอย่างรุนแรง
จริงที่ตอนนี้ มันยังตบใครก็ได้ ที่ไปยุ่งกับมัน
แต่…
…หมีตัวนี้ ไม่น่าจะทนกับการการขาดสารอาหารแบบนี้
ไปได้อีกนานนักอย่างแน่นอน ….
…และชะตาชีวิตของหมีตัวนี้ ก็ไม่ได้อยู่ที่ตัวมันอีกแล้ว
สารอาหารต่างๆ จำเป็นต้องพึ่งคนอื่นอย่างมาก…
…มหาอำนาจ ไม่จำเป็นต้องพึ่งคนอื่น…
…ถ้าพึ่งคนอื่น…
…คุณก็ไม่ใช่มหาอำนาจ เพราะชีวิตอยู่ในมือคนอื่นไปแล้ว ….
…นั่นแหละ คือความหมายที่แท้จริง ที่ทรัมป์สื่อสาร….
…ไม่ถูกซะทีเดียว แต่ก็ไม่ผิดนักหรอก….
*เสริม*
ตัวเลขเศรษฐกิจของรัสเซีย ไม่โกหก แต่มีลักษณะที่แปลก
ซึ่งคนอ่านตัวเลขเผินๆ จะเข้าใจว่าดีได้ง่ายมาก
เช่นตัวเลขการว่างงานต่ำ แท้จริงคือภาวะการขาดแคลนแรงงาน จากการทีาวัยทำงานไปรบ และหนีออกนอกประเทศ
หรือ หนี้สาธารณะที่ต่ำ แท้จริงก็คือ รัสเซียมีปัญหาในการ
กู้ยืมมาหลายปีแล้ว ประชาชนไม่ค่อยซื้อพันธบัตร เพราะมองว่า
ไม่ค่อยน่าเชื่อถือ แม้จะดอกเบี้ยสูงมากนั่นเอง
ยังมีอีกหลายรายการ ที่เป็นลักษณะนี้ ซึ่งทั้งหมด
มันมีผลจากระบบของพวกเขาเองซึ่งต่างจากที่อื่นค่อนข้างมาก
…เรื่องนี้คงต้องยาว ไว้จะเอามาเขียนครับ….
ข่าว
( ข่าวการขาดทุนของ Gazprom ของ tass จะเป็นเมื่อปีที่แล้ว
ที่เริ่มขาดทุน ส่วนของ Aljazeera จะเป็นของเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งทาง Gazprom จะแถลงไตรมาสปัจจุบันเดือนหน้า
โดยข้อมูล ตอนนี้ พวกเขาขาดทุนต่อหุ้น (EPS) -2.24 RUB)
โฆษณา