26 ก.ย. เวลา 05:46 • สุขภาพ

🧝การดูแลตนเองสำหรับปัญหาผิวหนัง

บทความนี้ให้คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพในการจัดการปัญหาผิวหนังที่พบบ่อย เช่น โรคผิวหนังอักเสบ (Eczema), ผิวแห้ง, การป้องกันแสงแดด, และสิว โดยเน้นการใช้ผลิตภัณฑ์ที่หาซื้อได้ทั่วไป
♉1. การจัดการโรคผิวหนังอักเสบ (Eczema)
กรณีศึกษา: ผู้หญิงอายุ 32 ปี มีผื่นคันและรอยแดงบริเวณข้อพับด้านหลังเข่าและข้อศอก ซึ่งเมื่ออากาศเย็นลงอาการจะแย่ลง
คำแนะนำ:
* อาการดังกล่าวสอดคล้องกับการกำเริบของ โรคผิวหนังอักเสบ ซึ่งมักมีปัจจัยกระตุ้น เช่น การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ สารก่อภูมิแพ้ หรือสารระคายเคือง
* มอยส์เจอไรเซอร์: เป็นพื้นฐานสำคัญของการดูแล ควรใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่ปราศจากน้ำหอม ทาหลายครั้งต่อวัน โดยเฉพาะหลังอาบน้ำ เพื่อช่วยฟื้นฟูเกราะป้องกันผิว ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ เซราไมด์ (ceramides) หรือ colloidal oatmeal
* ยาบรรเทาอาการ: สามารถใช้สเตียรอยด์แบบทาชนิดความเข้มข้นต่ำ (เช่น Hydrocortisone 1% cream) ทาบริเวณที่อักเสบและคัน วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลาไม่เกิน 7 วัน
* สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง: สบู่ที่รุนแรง น้ำร้อนจัด เสื้อผ้าขนสัตว์ และสารก่อภูมิแพ้
* คำแนะนำเพิ่มเติม: หากอาการไม่ดีขึ้นภายในหนึ่งสัปดาห์หรือแย่ลง ควรปรึกษาแพทย์
♉2. การจัดการผิวแห้ง
กรณีศึกษา: ผู้ชายอายุ 45 ปี มีผิวแห้งมาก หยาบ เป็นขุย และบางครั้งมีอาการคัน โลชั่นที่ใช้อยู่ไม่ได้ผล
คำแนะนำ:
* ควรเปลี่ยนไปใช้ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ให้ความชุ่มชื้นสูง (emollient) ที่มีความข้นและ ปราศจากน้ำหอม เช่น Eucerin, CeraVe หรือ Aquaphor ทาอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง
* เทคนิคการทา: ควรทาทันทีหลังอาบน้ำในขณะที่ผิวยังหมาด เพื่อกักเก็บความชุ่มชื้น
* การอาบน้ำ: จำกัดเวลาอาบน้ำให้น้อยกว่า 10 นาที ใช้น้ำอุ่น (ไม่ใช่น้ำร้อน) และเปลี่ยนไปใช้ ผลิตภัณฑ์ปราศจากน้ำหอมสำหรับผิวบอบบางแพ้ง่าย
* การบรรเทาอาการคัน: หากมีอาการคันต่อเนื่อง สามารถลองอาบน้ำด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ colloidal oatmeal หรือใช้สเตียรอยด์แบบทา ความเข้มข้นต่ำในระยะสั้น
* คำแนะนำเพิ่มเติม: ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ และสังเกตผิวเพื่อเฝ้าระวังรอยแตกหรือสัญญาณของการติดเชื้อ
♉3. การป้องกันแสงแดด (Sunscreen)
กรณีศึกษา: ผู้หญิงอายุ 27 ปี ชื่นชอบการวิ่งกลางแจ้ง และสังเกตเห็นกระและรอยแดงบนแก้ม ต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับครีมกันแดด
คำแนะนำ:
* การป้องกันแสงแดดเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันผิวแก่ก่อนวัยและลดความเสี่ยงมะเร็งผิวหนัง
* ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีค่า SPF (Sun Protection Factor) ตั้งแต่ 30 ขึ้นไป เพื่อป้องกันทั้งรังสี UV-A และ UV-B
* สำหรับผู้ที่ทำกิจกรรมกลางแจ้ง ควรเลือกสูตรกันน้ำ (water-resistant)
* ครีมกันแดดชนิดกายภาพ (Physical/Mineral Sunscreens) ที่มีส่วนผสมของ ซิงก์ออกไซด์ (zinc oxide) หรือ ไทเทเนียมไดออกไซด์ (titanium dioxide) มักระคายเคืองผิวน้อยกว่า
* วิธีใช้: ทาครีมกันแดด 15-30 นาทีก่อนออกแดด และทาซ้ำทุก 80-120 นาที โดยเฉพาะเมื่อมีเหงื่อออกหรือว่ายน้ำ
* คำแนะนำเพิ่มเติม: ควรหลีกเลี่ยงช่วงเวลาที่แดดจัดที่สุดคือ 10.00 น. ถึง 14.00 น. และใช้เสื้อผ้าป้องกัน เช่น หมวก เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว และแว่นกันแดด
♉4. การจัดการสิว (Acne)
กรณีศึกษา: นักศึกษามหาวิทยาลัยอายุ 19 ปี มีสิวเห่อบนหน้าผากและแก้มมากขึ้นจากความเครียด และผลิตภัณฑ์ที่ใช้อยู่ (scrub และ astringent) ทำให้ผิวแดงขึ้น
คำแนะนำ:
* สิวเป็นเรื่องปกติและอาจเกิดจากความเครียด ฮอร์โมน หรือการดูแลผิวที่ไม่เหมาะสม
* ควรหยุดใช้ scrub และ astringent ที่รุนแรง เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคืองและสิวแย่ลง
* แนะนำให้ใช้ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยน วันละ 2 ครั้ง และลองใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ:
* Benzoyl Peroxide (2.5%-5.0%): ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิวและลดการอักเสบ
* Salicylic Acid (0.5%-2.0%): ช่วยผลัดเซลล์ผิวและเปิดรูขุมขนที่อุดตัน
* วิธีใช้: ควรเริ่มใช้ทีละน้อย และทาวันละครั้ง แล้วทามอยส์เจอไรเซอร์ที่ไม่ก่อให้เกิดการอุดตันรูขุมขน (noncomedogenic) เพื่อป้องกันผิวแห้ง
* ข้อควรระวัง: ควรหลีกเลี่ยงการบีบหรือแกะสิวเพื่อลดความเสี่ยงการเกิดรอยแผลเป็น
* คำแนะนำเพิ่มเติม: หากอาการไม่ดีขึ้นหลังจากผ่านไป 6-8 สัปดาห์ หรืออาการแย่ลง ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาเพิ่มเติม
😀มีปัญหาผิวพรรณ​ สามารถปรึกษา​ได้​กับเภสัชกร​ประจำ​ร้านยา
BETTERCM 2025.09.26
💥💥
SKIN
👽ผิวหนังอักเสบ(Dermatitis)
ATOPIC DERMATITIS
🔖โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง - European Guideline update 2025
ผิวหนังแค่แพ้หรือติดเชื้อดูแลรักษาอย่างไร
ฝ้า
การใช้กรดทรานเอกซามิก (tranexamic acid) ในการรักษาฝ้า
โฆษณา