Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
หนูนิ
•
ติดตาม
24 ต.ค. เวลา 16:20 • นิยาย เรื่องสั้น
ปริศนาลับราชวงศ์ถัง(Strange Tales of Tang Dynasty) ตอน โรงเตี้ยมกานถัง ตอน 2/2 จบเสียที
.
หลิวสือปา "ใช่ ๆ ตั้งแต่เกิดเรื่องกับเจ้ารอง เราตกลงกันแล้วว่าแต่ละวันจะให้พักได้คนเดียว แต่นักพรตเต๋าที่มาทีหลังมีภาพล้ำค่ามาด้วย
เราเพียงได้ภาพนั้นมาแล้วเอาไปขายที่ฉางอัน เรา2พี่น้องก็สบายแล้วไม่ต้องใช้ชีวิตเช่นนี้อีกต่อไป ส่วนนายทหารคนนี้มีเงิน เรามาดูกันซิว่าในถุงเป็นทองหรือเงิน"
.
หลิวสือปาหยิบถุงใส่เงินหนักอึ้งของหลูหลิงเฟิงออกมาเท ภายในมีเงินอีแปะไม่กี่อันที่เหลือก้อนหินทั้งนั้น
"หา" หลิวสือปาผิดคาด ส่วนหลิวสือปาอีกคนก็ทำท่างง ๆ พลันหลูหลิงเฟิงก็ลืมตาขึ้นพอดีกับที่หลิวสือปาคว้าปังตอเปื้อนเลือดจะมาทำร้าย
หลิวสือปามนุษย์ประหลาดแม้เดินเหมือนคนปกติไม่ได้ ได้เพียงเลื้อยเหมือนงูกลับพุ่งตัวมารวดเร็วดังงูฉก
.
ดีที่หลูหลิงเฟิงเป็นจอมยุทธอีกทั้ง2พี่น้องก็ไม่ใช่ยอดฝีมือ จึงเป็นการต่อสู้ที่แม้ไม่น่าหนักใจ แต่กว่าที่หลูหลิงเฟิงจะจับตัวหลิวสือปามนุษย์ประหลาดได้แล้วแขวนกับตะขอ
.
หลิวสือปาอีกคนก็คว้าภาพวาดจากซูอู๋หมิงที่นอนเงียบเหมือนตายวิ่งออกจากห้องลับไปที่ลานโล่งของโรงเตี้ยม แล้วส่งสัญญาณเรียกอนาคอนด้าออกมาทุกทิศทุกทาง
.
เหล่าอนาคอนด้าดูท่าว่าไม่คุ้นเคยกับหลิวสือปาคนนี้ เพราะเขาทำท่าหวาดกลัวรีบหนีไป งูเหล่านั้นจึงเข้าล้อมหลูหลิงเฟิง ซึ่งใช้ผงชนิดพิเศษของเฟ่ยจีโรยไปทั่วๆสกัดไม่ให้งูเข้ามา
.
จากนั้นหลูหลิงเฟิงจึงไปปลุกซูอู๋หมิงซึ่งบ่นว่า "พอทีน่า ข้ายังไม่ตาย ข้าแค่มานอนอยู่ตรงนี้"
.
หลูหลิงเฟิง "เจ้าไม่ได้ใช้ยาที่เหล่าเฟ่ยให้หรือ"
.
ซูอู๋หมิง "ใช้แล้ว แต่ที่ต้องแกล้งทำเป็นหลับก็เพราะ..." แล้วชี้ให้ดูหลิวสือปามนุษย์ประหลาดที่โดนแขวน "ช่างเหมือนผียิ่งนัก ดูซิน่ากลัวขนาดไหน หากข้าไม่แกล้งทำหลับ เขาไม่ฆ่าข้าตายหรือ"
.
"ย่าส์ ๆ" เสียงราวสัตว์ประหลาดก็ไม่ปานของหลิวสือปามนุษย์ประหลาดที่โดนแขวน แล้วซูอู๋หมิงพูดต่อว่า "ข้าเป็นนักปราชญ์ไม่ใช่นักรบตื่นขึ้นมามีหวังเป็นภาระของเจ้ามากกว่า แต่ตอนนี้เหตุการณ์ก็ปกติดีแล้ว"
.
หลูหลิงเฟิงเสียงขุ่น "ดีที่ไหนกัน หนีไปได้คนหนึ่ง"
.
ซูอู๋หมิง "คนเดียวจะเป็นไร นี่ก็จับได้คนหนึ่ง มีให้สอบปากคำตั้งคน" แล้วเขาก็เดินไปหาหลิวสือปามนุษย์ประหลาด "ผู้ดูแลอาชาแห่งหนานโจวซูอู๋หมิง เจ้าชื่อว่าอะไร"
.
"ย่าส์ ๆ" คือคำตอบพร้อมท่าทางดุร้ายราวจะฉีกเนื้อเป็นชิ้นๆ ซูอู๋หมิงสะดุ้งโหยงก้าวถอยไปข้างหลังโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องส่งต้องสอบมันแล้ว
.
ทางด้านหลิวสือปาวิ่งจากโรงเตี้ยมแบบโกยแน่บไปไกลโขจึงหยุดด้วยความเหนื่อย หัวเราะให้กับตัวเองรวยแล้วเราคราวนี้ ไม่ต้องเป็นขี้ข้าคอยต้มน้ำล้างเท้าให้พวกแม่ทัพอีก
.
เขาจะหนีไปรวยคนเดียวที่เหลือช่างมันฉันไม่แคร์ แต่ไหนแต่ไรก็ไม่เคยสนใจความเป็นความตายของเจ้า1คน1ตัวอยู่แล้ว แค่เอามันมาใช้งานใช้ประโยชน์เท่านั้น
.
เขากางภาพวาดที่ม้วนไว้อย่างทนุถนอม ไม่มีภาพวาดของศิลปินจางเชวียนดังที่นักพรตเต๋าบอก “นี่ข้าโดนต้มหรือ ไอ้คนหลอกลวง" ด้วยความคลั่งแค้นเขาจึงออกวิ่งไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง นั่นก็คือ...ที่ที่ซูอู๋หมิงคาด
.
ในตอนเช้านายอำเภอซูพร้อมด้วยลูกสมุนคู่ใจสิบกว่าคนจึงแห่กันมาที่โรงเตี้ยม ตอนแรกนายอำเภอซูจำซูอู๋หมิงที่โกนหนวดโกนเคราปลอมตัวเป็นนักพรตไม่ได้
.
ครั้นเมื่อจำได้จึงถามว่า "ท่านไปรับตำแหน้งที่หนานโจวแล้วทำไมจึงกลับมาอีก"
.
ซูอู๋หมิงตอบว่า "ข้ามีข้อสงสัยบางประการจึงมาตรวจสอบ ไม่ได้หรือ"
.
นายอำเภอซูตอบว่า "ได้น่ะมันได้ แต่...ที่นี่คือเขตอำนาจของข้า"
.
ซูอู๋หมิงตอบว่า "รู้ จึงอยากถามว่าหลิวสือปาผู้นั้นจะจัดการอย่างไร"
.
นายอำเภอซูตอบ "โรงเตี้ยมกานถังอยู่ในความควบคุมแล้ว"
.
ซูอู๋หมิงจึงถามต่อว่า "เขาได้บอกหรือไม่ว่า 2-3ปีมานี้ฆ่าคนไปเท่าใด"
.
นายอำเภอซู "ในเมื่อมีคำรับสารภาพมันเกี่นวอะไรกับเจ้าด้วย"
.
ซูอู๋หมิง "ข้าคิดว่าคนเหล่านี้คงเหมือนเจ้าเมืองอวี่คราก่อน ยามที่ออกเดินทางมักนำของมีค่าติดตัวไปไม่น้อย แล้วของมีค่าพวกนั้นอยู่ที่ใดกันเล่า"
.
นายอำเภอซู "เฮอะ ไม่มีของมีค่าดอก ผู้ดูแลอาชาหวนกลับโรงเตี้ยมกานถัง เพื่อตามหาสีเงินสีทองที่ไม่มีอยู่จริง"
.
หลูหลิงเฟิง "ของที่ไม่มีอยู่จริงงั้นหรือ ถ้าเช่นนั้นหยกงามที่สืบทอดกันมานานของสกุลชุยแห่งชิงเหอ หยกติดตัวชุยอู๋จี้ที่ถูกฆ่าเล่าอยู่ที่ใด"
.
นายอำเภอซูตวาด "หลิวสือชี อยู่ที่ใด"
.
หลิวสือชีถูกคุมตัวมา ความลับที่แฮฟเจ้านายมาตลอดหลายปีแตกแล้ว แต่ความเจ้าเล่ห์ของหลิวสือชีหาธรรมดาไม่ เมื่อนายอำเภอตะคอกถามว่า "หยกที่พวกเขาพูดถึง เหตุใดข้าจึงไม่เคยเห็น"
.
หลิวสือชีกลอกตาก่อนตอบ "เอ้อ อ้า นายอำเภอซู ข้าไม่รู้ว่าสิ่งนั้นมีราคาจึงไม่ได้นำไปให้ ท่านรีบจัดการพวกนั้นเถิด เรา3พี่น้องจะได้รับใช้ท่านต่อไปไงล่ะ"
.
นายอำเภอซูตวาดดังลั่น "หุบปากเดี๋ยวนี้"
.
ซูอู๋หมิง "อ้อ เจ้าชื่อหลิวสือชีอย่างนั้นหรือ เช่นนั้นมนุษย์ประหลาดที่อยู่ในห้องชื่อ หลิวสือจิ่ว ใช่หรือไม่"
.
แล้วซูอู๋หมิงบอกตามตรงว่า "ข้ามาที่กานถังหลายวันแล้ว พอจะสอบถามเรื่องราวมาบ้าง พ่อของหลิวสือปาเป็นลูกน้องนายอำเภอซู เมื่อ3ปีก่อนได้ตายที่โรงเตี้ยมกานถัง สาเหตุไม่แน่ชัด"
.
นายอำเภอซู "ซูอู๋หมิง เจ้าคิดแทรกแซงคดีอย่างนั้นหรือ"
.
ซูอู๋หมิง "ไม่ได้อย่างนั้นหรือ"
.
นายอำเภอซู "ไม่ต้องถึงเจ้าหรอกซูอู๋หมิง เพราะคดีนี้เจ้าน่าสงสัยที่สุด ตัวตนของผู้ดูแลอาชาน่าเป็นเจ้าสร้างขึ้นเอง จับตัวพวกมัน"
.
ซูอู๋หมิง "ช้าก่อน ข้าไม่คิดเลยว่าสกุลซูจะมีคนไร้ยางอายเช่นเจ้า 2-3ปีมานี้เจ้าใช้3พี่น้องตระกูลหลิวหาเงินให้เจ้าเท่าใดจากการฆ่าชิงทรัพย์"
.
นายอำเภอซู "เหตุใดยังไม่ลงมือ ข้าเบื่อได้ยินคำพูดนี้แล้ว ตัดหัวมันตรงนี้เลย"
.
สิ้นคำสั่งสมุนของนายอำเภอต่างถือดาบวิ่งโร่กันมา เพราะพวกมันหารู้ไม่ว่าผู้ที่ต่อ
กรด้วยคือบิดาของมัน หลูหลิงเฟิง ฃึ่งใช้แค่ปลอกดาบโดยที่ยังไม่ได้ชักดาบออก
มาด้วยซ้ำ เหล่าลิ่วล้อก็บ้อท่า
.
นายอำเภอซูและหลิวสือชีเห็นท่าไม่ดีจึงพร้อมใจกันวิ่งไปที่ทางออก มิคาดผู้พิพากษาอำเภอกานถัง หวังหน่ายหลิง ได้นำกำลังมาช่วยซูอู๋หมิง รวมทั้งนำ
ตัวหลิวสือปาที่ถูกพันธนาการมาด้วย
.
นายอำเภอซู "ขออภัยผู้พิพากษา ทำท่านตื่นตกใจ นี่คือผู้ก่อเหตุ"
.
ผู้พิพากษา "หุบปาก" แล้วเดินไปคารวะซูอู๋หมิง "ผู้ดูแลซู หากมิใช่เพราะท่านย้อนกลับมาที่โรงเตี้ยมกานถัง ข้าคงยังไม่รู้เรื่องแจ่มแจ้ง แม้จะอยู่ในอาณาเขตข้าแต่คดีนี้ต้องขอให้ท่านสอบสวนแทน"
.
ผลการสอบสวนเริ่มต้นที่>>>เมื่อ25ปีที่แล้วพี่น้องตระกูลหลิวเป็นแฝด3(Triplets) คือ หลิวสือชี หลิวสือปา และ หลิวสือจิ่ว
น้องสุดท้องกว่าจะเกิดผู้เป็นแม่ก็ใกล้สิ้นลม นางสลบแล้วสลบอีกหลายรอบ ในทางการแพทย์อาจมีบางช่วงที่นางไม่หายใจด้วยซ้ำทำให้สมองของเด็กน้อยมีปัญหา
ทั้งที่อายุ5ปีก็พูดไม่ได้ ยืนไม่ได้จึงได้แต่คลานไปคลานมาอยู่ที่พื้น แล้วยังมีคนยุว่าเป็นปีศาจมาเกิด ผู้พ่อจึงเอาหลิวสือจิ่วไปทิ้ง
.
ทั้งที่เหลือแค่2คนคือหลิวสือชีลูกชายคนโต และ ลูกชายคนรองคือหลิวสือปา แต่หลิวสือชีก็ยังคิดว่ามากไปน่าจะเหลือเขาคนเดียว สมบัติที่มีน้อยอยู่แล้วจะได้ไม่
ต้องแบ่งใคร
.
หลิวสือชีเป็นเด็กไม่เอาถ่าน ไม่สนใจศึกษาเล่าเรียนจึงไม่มีความรู้ใดๆ มีนิสัยลักขโมยเมื่อโดนจับผู้เป็นพ่อต้องตามชดใช้ จึงสร้างความอับอายให้พ่อมา
ตลอด หลิวสือชีขโมยแม้แต่เงินที่เก็บไว้ให้หลิวสือปาเรียน
.
เพราะหลิวสือชีไม่เห็นคุณค่าของการศึกษา เขาคิดแต่เงินและความร่ำรวยที่สา
มารถเปลี่ยนชีวิต ดังนั้นเมื่อเขาอายุ13ปีความที่เป็นคนหน้าตาดีจึงลวงเด็กสาว
ไปขายหลายคน
.
ผู้เป็นพ่อสุดจะทนจึงต้องขับไล่ให้ไปอยู่ที่อื่น เพราะเกรงผู้ปกครองเด็กสาวเหล่า
นั้นจะมาฆ่าหลิวสือชี ส่งผลให้กระทบต่อหน้าที่การงาน
เนื่องจากพ่อของหลิวสือชีเป็นลูกน้องนายอำเภอซู หลิวสือชีจึงแค้นพ่อของเขามาตลอด พ่อที่ยากจนเหมือนขอทาน
.
ส่วนหลิวสือปามาเป็นทหารรับใช้ที่โรงเตี้ยมกานถังเมื่ออายุ17ปีคือ8ปีที่แล้ว ตอนแรกเขาสิ้นหวังแต่การที่เขาได้พบผู้หลักผู้ใหญ่ที่มีหน้าที่และตำแหน่งสูง จากทุก
สารทิศ
กิริยาผู้ดีของคนเหล่านั้นที่ปฏิบัติต่อเขาอย่างสุภาพ ทำให้เขารู้สึกดี ช่วงเวลาตอนนั้นจึงดีที่สุดในชีวิต
.
แล้วจู่ๆหลิวสือชีที่หายไปนานหลายปีก็โผล่มา พร้อมด้วยความร้ายกาจที่มากกว่าเดิมเพราะรู้จักการลักวิ่งชิงปล้น
หลิวสือปาจะอย่างไรก็ตัดพี่ตัดน้องไม่ได้ จึงให้พี่ชายหลบซ่อนตัวอยู่ในโรงเตี้ยม
ทำงานในชื่อหลิวสือปา โดยทำงานคนละหน้าที่กัน
.
หากคนหนึ่งคอยรับใช้ผู้ที่มาพักอีกคนก็อยู่ในครัวผลัดกันเช่นนี้ ความที่เป็นฝาแฝดหน้าเหมือนกันเสียงก็คล้ายกัน แต่งตัวเหมือนกัน
ผู้ที่มาพักจึงไม่รู้เรื่องนี้ ผู้ที่รู้เรื่องนอกจากพ่อก็คือคนงานเก่าแก่ซึ่งก็ไม่มีปัญหาอะไร งานโรงเตี้ยมเป็นงานหนักเพิ่มขึ้นมาอีกคนย่อมต้องดีกว่า
.
แต่...ช่วงเวลาดีๆก็อยู่กับหลิวสือปาได้ไม่นานเพียง3ปีเท่านั้น ในปีที่4และ5คนงานเก่าแก่ของโรงเตี้ยมบอกกับเขาว่า ระยะหลังมานี้เกิดเรื่องแปลกๆขึ้น ผู้มาพักคิดว่าห้องพักชั้นบนมีผีเพราะมักมีเสียงแปลกๆ
.
แถมไก่ที่เลี้ยงไว้มากมายหลายตัวทั้งไว้กินไข่และกินเนื้อหายไป คนงานเก่าคนนั้นพบว่าเป็นสัตว์ประหลาดที่มากินไก่ทั้งดิบ ๆ เขาจึงต้องการฆ่าสัตว์ประหลาดตัวนั้น
.
หลิวสือปาไปแอบดูสัตว์ประหลาดตัวนั้นจึงได้รู้ว่าคือหลิวสือจิ่ว และได้รู้ว่าพ่อนำน้องไปทิ้งในป่าเพื่อให้ตายไปเอง แต่นอกจากน้องไม่ตายแล้วยังเติบโตมากับงูเหลือมชื่อเสี่ยวไป๋
.
น้องรู้จักบ้านพ่อจึงแอบติดตามมาเฝ้าดูหลิวสือปาตลอด แต่ที่ไม่กล้าปรากฎตัวเพราะกลัวพ่อ
จนกระทั่งที่โรงเตี้ยมแห่งนี้จึงกล้าพบกับพี่รองซึ่งจิตใจดีกว่าพี่ใหญ่ หลิวสือปา
เห็นกรงเล็บของหลิวสือจิ่วที่สามารถฉีกเนื้อคนได้ หากคนงานเก่าคนนั้นจะฆ่า
น้อง แน่นอนว่าหลิวสือจิ่วต้องป้องกันตัวด้วยการฉีกเนื้อคนซึ่งคือการฆ่า
.
หลิวสือปาไม่ต้องการให้น้องฆ่าคนเพราะจะบ้าเลือด และ สนุกกับการฆ่าจึงขวาง
ไว้ ด้วยเหตุนี้นิ้วชี้มือขวาของเขาจึงด้วนเพราะโดนน้องกัด
น้องเองก็เสียใจหลั่งน้ำตาเป็นเลิอด แต่นับว่าคุ้มเพราะน้องของเขาไม่เคยฆ่าคน
เช่นเดียวกับตัวเขาที่ไม่เคยฆ่าใคร
.
(เฮ้อ...ที่จริงแค่เห็นหน้าเฮียหลิวสือจิ่วก็หัวใจวายแล้ว ไม่ต้องฉีกเนื้อหรอก...)
.
แต่คนงานเก่าคนนั้นก็ไม่มีโอกาสฆ่าหลิวสือจิ่ว เขาตายเพราะงูเหลือมชื่อเสี่ยวไป๋
ที่มาพร้อมกับหลิวสือจิ่ว ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีผู้ใดพบศพของเขาเพราะได้เข้าไปอยู่ในท้องของเสี่ยวไป๋นั่นเอง
.
หลิวสือปาไม่กล้าแจ้งความจึงไปบอกพ่อซึ่งโกรธมาก ต้องการฆ่าปีศาจร้ายด้วยตนเองจึงมาที่โรงเตี้ยมเพื่อปรึกษาวิธีการจัดการหลิวสือจิ่วกับหลิวสือชี
.
คิดไม่ถึงว่าหลิวสือชียังคงเคียดแค้นพ่อจนฆ่าพ่อตาย แล้วหลิวสือชียังให้การกับซูอู๋หมิงว่า "ตอนที่พ่อไล่ข้าออกจากบ้านนั้น ข้ามีอายุเพียง 13 ปีเท่านั้น ยังไม่แข็ง
แรงพอที่จะฆ่าพ่อ มิเช่นนั้นตาแก่จะไม่อยู่มาจนป่านนี้"
.
ข่าวการตายของเจ้าหน้าที่อำเภอและคนงานโรงเตี้ยมกานถังหายไป ได้สร้างความหวาดหวั่นจนไม่มีขาประจำมาพักอีก โรงเตี้ยมจึงต้องปิดตัวลงในปีที่5ของหลิวสือปา
.
3พี่น้องไม่มีที่ไป และ ไม่สามารถปรากฎตัวได้ จึงพักอาศัยอยู่ที่แห่งนี้ แต่เนื่องจากโรงเตี้ยมอยู่ในจุดพักม้า อย่างไรเสียก็ต้องมีขาจรเดินทางผ่านมาใช้บริการเนื่องจากโรงเตี้ยมอีกแห่งอยู่ไกลไป 10 ลี้
.
นายอำเภอกานถังที่ไม่ได้จับกุมตัวหลิวสือชีทั้งที่รู้ว่าทำปิตุฆาต เพราะหลิวสือชีเสนอแผนที่จะใช้โรงเตี้ยมเป็นแหล่งหารายได้ คอยปล้นฆ่าขาจรที่หลงมา เงินที่ได้ก็ส่งส่วยนายอำเภอ ส่วนจะแบ่งให้2พี่น้องคือหลิวสือชีและหลิวสือปาเท่าใดก็ได้
.
ซูอู๋หมิงพบข้อพิรุธของนายอำเภอซูได้อย่างไรน่ะหรือ คืนที่เขาหนีมาแจ้งนายอำเภอซูนั้น เขาสังเกตว่านายอำเภอไม่ได้นำมือปราบที่มีหน้าที่โดยตรงไปกับเขา กลับนำคนสนิทที่ตอนนี้โดนควบคุมตัวอยู่ด้านนอกมาแทน
.
3ปีมานี้พี่น้องตระกูลหลิวสร้างรายได้ให้นายอำเภอซูมากมาย หลิวสือปาจดบันทึก
ไว้หมด ที่ไม่ได้จดคือส่วนของหลิวสือชี ก็คือของมีค่าอื่นๆเช่นทอง เครื่องเงิน ไข่มุก หยก หลิวสือชีเก็บไว้เอง หลูหลิงเฟิงไปหาจนพบมีเต็มหีบเลยทีเดียว
.
นับเป็นโชคดีของซูอู๋หมิงและหลูหลิงเฟิงที่วันนั้นทั้ง2ได้พบหลิวสือปาก่อนจึงรอดชีวิต เขาคัดค้านไม่ยอมให้พี่ชายฆ่าคน แต่เจ้าเมืองอวี่ และ ชุยอู๋จี้ไม่ได้ห้ามเพราะเข้าใจผิดว่าเป็นคนฆ่าเสี่ยวไป๋
.
แล้วสี่จวินและเซวียหวนเล่ารอดได้อย่างไร หลิวสือชีเข้าใจว่าซูอู๋หมิงและหลูหลิงเฟิงหนีเอาตัวรอดแล้วทิ้งผู้หญิงกับเด็กไว้ จึงไปจัดการพวกผู้ชายที่มีหลายคนก่อน
.
ผู้หญิงกับเด็กค่อยติดต่อพวกค้ามนุษย์มาซื้อไป ซึ่งเป็นความถนัดที่หลิวสือชีทำมาตั้งแต่อายุ 13 ปี สวยๆท่าทางผู้ดีและเป็นคุณหนูอย่างนี้น่าจะได้ราคามากสุดตั้งแต่ค้าคนมาเป็นแน่
.
แม้หลิวสือชีจะชั่วร้ายถึงเพียงนั้น หลิวสือจิ่วจะเป็นสัตว์ประหลาด หลิวสือปาก็ยังยอมอยู่กับพวกเขาเพราะสัมพันธ์พี่น้อง จึงยอมรับโทษคนเดียวโดยที่หลิวสือชีไม่เคยติดอยู่ในใจแม้แต่น้อย
.
และทั้ง ๆ ที่หลิวสือชีรวบรวมทรัพย์สินได้มากมายก็ยังไม่หยุดการกระทำ นับว่าสวรรค์ยังมีตา มิเช่นนั้นหากเขาหนีหายไปซูอู๋หมิงจะไปตามคนได้ที่ไหนเล่า
.
หลิวสือชีแค้นใจตัวเองที่จดจำซูอู๋หมิงเร็วกว่านี้ไม่ได้ ทั้งที่เป็นคนจัดการกับเขาคดี
ที่แล้วแท้ๆ มิเช่นนั้นเขาจะให้หลิวสือจิ่วฉีกเนื้อซูอู๋หมิงเป็นชิ้นๆ
ระหว่างที่เขาคำรามมีเสียงซาวด์ของหลิวสือจิ่วประกอบ สร้างความสยองให้ไม่น้อยกับทุกคน
.
จบตอน โรงเตี้ยมกานถัง ภาพปกจากทรูไอดี พระ-นางจากปริศนาลับราชวงศ์ถัง
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย