Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
รายการ ต้นรู้ โลกรู้ BY : Anurak News
•
ติดตาม
28 ต.ค. เวลา 03:50 • ข่าว
การประชุม GBC ของไทย-กัมพูชา กับเหตุด้านความมั่นคง
พล.อ.ณัฐพลบอกว่า ถือเป็นครั้งแรกที่ฝ่ายกัมพูชายินยอมร่วมมือกับฝ่ายไทยในการลงพื้นที่เดินสำรวจแนวเส้นอ้างสิทธิ์ และวางหมุดชั่วคราวที่แน่ชัดด้วยกัน อันจะทำให้แต่ละฝ่ายยอมรับขอบเขตพื้นที่ที่เกิดขึ้นตามผลการสำรวจ และนำไปสู่การปรับการถือครองที่ดินของทั้ง 2 ฝ่ายได้ต่อไป
รมว.กลาโหมกล่าวยืนยันว่า การวางหมุดชั่วคราวเป็นเพียงเพื่อการสำรวจเท่านั้น และจะไม่กระทบต่อสิทธิ์ของไทยในเรื่องเขตแดนทางบกตามกฎหมายระหว่างประเทศ นอกจากนี้ไทยจะดำเนินการสร้างรั้วชายแดนในบริเวณที่มีความชัดเจนของเส้นเขตแดนแล้ว โดยยืนยันว่ารั้วดังกล่าวจะอยู่ภายในเขตอธิปไตยของไทยเพื่อประโยชน์ในการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดนตลอดจนเพื่อป้องกันภัยคุกคามข้ามแดนระหว่างทั้ง 2 ประเทศ
พล.อ.ณัฐพลระบุว่า ต้องการเห็นความคืบหน้าที่ชัดเจนในทุกเรื่อง จึงจะพิจารณา การยุติความเป็นปรปักษ์ต่อกัน และขอเรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชาแสดงความจริงใจในการปฏิบัติตามผลการประชุมจีบีซีในครั้งนี้โดยเคร่งครัด เพื่อร่วมกันนำสันติสุขให้กลับคืนสู่ประชาชนของทั้ง 2 ประเทศ ตลอดจนภูมิภาคอาเซียนในภาพรวม
ข้อมูลจากกองทัพไทยในการเจรจา
ท่าทีกัมพูชา
สำหรับท่าทีของฝ่ายกัมพูชาต่อการประชุมทั้ง 2 วง สำนักข่าวขแมร์ไทมส์รายงานคำกล่าวของนายฬำ เจีย ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมเจบีซีค่ำวันที่ 22 ต.ค. โดยแสดงความชื่นชมความก้าวหน้าที่เกิดขึ้น และเป็นภาพสะท้อนความมุ่งมั่นตั้งในของทั้ง 2 ประเทศในการรักษาสันติภาพและความร่วมมือ
"ทั้ง 2 ฝ่ายบรรลุผลสำเร็จอย่างงดงาม ในขณะเดียวกันก็สร้างผลลัพธ์ที่มีนัยสำคัญ มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อประเทศชาติและประชาชนของเรา ความสำเร็จในวันนี้ถือเป็นประวัติศาสตร์บทใหม่ในการรักษาสันติภาพตามแนวชายแดนร่วมของประเทศทั้ง 2 ประเทศ" สื่อกัมพูชารายงานคำกล่าวของประธานเจบีซีฝ่ายกัมพูชา
ส่วนวงประชุมจีบีซีวันที่ 23 ต.ค. มีผู้แทนจากมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราวจากทั้งกัมพูชา-ไทยร่วมกันสังเกตการณ์ ส่งผลให้เกิดข้อตกลงสำคัญหลายประการ (เนื้อหาไปเป็นตามที่ฝ่ายไทยให้ข้อมูล)
พล.อ. เตีย เซ็ยฮา แถลงว่า "ผมยินดีและชื่นชมอย่างยิ่งต่อข้อตกลงสันติภาพระหว่างกัมพูชา-ไทย ซึ่งมีกำหนดจะลงนามในวันที่ 26 ต.ค. ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย"
แขมรไทมส์รายงานด้วยว่า คาดว่าข้อตกลงสันติภาพกัวลาลัมเปอร์ที่กำลังจะมีขึ้นเร็ว ๆ นี้ จะช่วยปูทางไปสู่การปล่อยตัวทหารกัมพูชาที่ถูกควบคุมตัว 18 นาย และเสริมสร้างความไว้วางใจซึ่งกันและกันระหว่างทั้ง 2 ประเทศ
เเถลงการณ์จากัฐมนตรีกลาโหม
ประเด็นแรก การถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่ขัดแย้ง ทั้ง 2 ฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในการจัดทำข้อกำหนดเงื่อนไขของงานหรือทีโออาร์ สำหรับคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียนหรือ AOT และได้มีการลงนามโดยผู้แทนทั้ง 2 ฝ่ายเรียบร้อยแล้ว ซึ่งคณะ AOT จะมีหน้าที่สำคัญในการสังเกตและติดตามผลความคืบหน้าของการถอนอาวุธหนักของแต่ละฝ่ายออกจากพื้นที่ขัดแย้ง รวมถึงได้มีการกำหนดกรอบเวลาและเป้าหมายปลายทางในการถอนอาวุธเรียบร้อยแล้ว
โดยทั้ง 2 ฝ่ายเห็นชอบในแผนปฏิบัติการหรือแอ็คชั่นแพลน ที่ได้จัดทำร่วมกันและมอบหมายให้แม่ทัพภาคที่ 2 ของไทยและผู้บัญชาการภูมิภาคที่ 4 ของกัมพูชา ขับเคลื่อนแผนไปสู่การซึ่งขั้นต้นจะหารือกันเพิ่มเติมในวันที่ 25 ต.ค.นี้
ทั้งนี้การถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่ขัดแย้ง มีความมุ่งหมายหลักเพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดน เนื่องจากอาวุธของกัมพูชาส่วนใหญ่ เช่น จรวดบีเอ็ม 21 เป็นอาวุธที่มีอำนาจการทำลายเป็นวงกว้าง ยากแก่การควบคุมจุดกระสุนตก จึงก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน รวมถึงเป้าหมายที่ไม่ใช่เป้าหมายทางทหาร เช่น บ้านเรือน ร้านค้า ไร่นา โรงเรียน และโรงพยาบาลเป็นต้น
ประเด็นที่ 2 เรื่องการเก็บกู้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ทั้ง 2 ฝ่ายได้ประสบความสำเร็จในการจัดทำระเบียบปฏิบัติตามมาตรฐานหรือ เอสโอพี สำหรับการเก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่ชายแดน ทั้งในพื้นที่ที่มีการกำหนดเขตแดนชัดเจนแล้ว และพื้นที่ที่ทั้ง 2 ฝ่ายยังเห็นไม่ตรงกัน หลังจากนี้ชุดประสานงานของทั้ง 2 ฝ่าย
จะสามารถเริ่มปฏิบัติการเก็บกู้ได้ทันที ซึ่งที่ผ่านมาศูนย์ปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดของฝ่ายไทย ไม่สามารถดำเนินการหรือเก็บกู้ได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากมักถูกขัดขวางจากฝ่ายกัมพูชาบ่อยครั้ง เมื่อเราเข้าไปใกล้พื้นที่ชายแดน
สรุปความหมายของ GBC ไทย-กัมพูชา
แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ฝ่ายกัมพูชายอมที่จะนำประเด็นการเก็บกู้ทุ่นระเบิดมาพูดคุยในรายละเอียดกันอย่างจริงจัง ทั้งนี้การเก็บกู้ระเบิดในพื้นที่ชายแดนมีความมุ่งหมายเพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนและทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ป้องกันชายแดน ซึ่งฝ่ายไทยได้ยืนยันมาตลอดว่าการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องเร่งดำเนินการและต้องไม่นำเรื่องเขตแดนมาเป็นข้อจำกัดแต่อย่างใด
ประเด็นที่ 3 การปราบปรามขบวนการไซเบอร์สแกม เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่เราได้รับความร่วมมือมากขึ้นเป็นครั้งแรกจากฝ่ายกัมพูชา โดยหน่วยงานตำรวจของทั้ง 2 ฝ่ายได้ร่วมกันจัดทำแผนปฏิบัติการหรือแอ็กชันแพลนเรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้ทั้ง 2 ฝ่ายจะจัดตั้งกองกำลังเฉพาะกิจร่วมหรือภายใน 2 สัปดาห์ เพื่อเริ่มกวาดล้างแกนนำหรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการไซเบอร์สแกมได้ต่อไป
ซึ่งต้องยอมรับว่ามีขบวนการบางส่วนเดินทางไปมาระหว่าง 2 ประเทศด้วยวิธีต่าง ๆ นอกจากนี้ได้ตกลงร่วมกันเกี่ยวกับขั้นตอนที่ชัดเจนในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารหลักฐานพยานเหยื่อที่ถูกหลอกลวงและผู้ต้องหา รวมถึงมาตรการคุ้มครองพยาน อันจะทำให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจมีความรวดเร็วยิ่งขึ้น
ทั้งนี้เป็นที่ทราบกันดีว่าขบวนการไซเบอร์สแกมเป็นภัยคุกคามที่สร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนได้ทุกคน ก่อให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจของประเทศไทย ภูมิภาคอาเซียน และพื้นที่อื่นๆทั่วโลกตามที่ปรากฏเป็นข่าวให้เห็นอยู่เป็นระยะๆ ดังนั้นแผนปฏิบัติการที่ได้ร่วมกันจัดทำขึ้น จึงถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานตำรวจของไทยและกัมพูชา ซึ่งอาจรวมถึงเจ้าหน้าที่ความมั่นคงของประเทศอื่น ๆ ที่มีประชาชนของตนตกเป็นเหยื่อของขบวนการไซเบอร์สแกมด้วย
และประเด็นสุดท้ายเรื่องการจัดการพื้นที่หมู่บ้านชายแดน ใน จ.สระแก้ว ตามข้อมูลข้างต้นที่ได้รับการประชุมคณะกรรมการเขตแดนร่วม หรือ JBC ซึ่งนำโดยกระทรวงต่างประเทศได้มีผลลัพธ์เชิงบวกสำคัญที่จะสามารถนำทำให้หน่วยในพื้นที่นำปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยทั้ง 2 ฝ่ายเห็นชอบที่จะส่งเจ้าหน้าที่ของตนลงพื้นที่สำรวจแนวเส้นที่แต่ละฝ่ายอ้างสิทธิ์ โดยจะทำการสำรวจร่วมจากหลักเขตที่ 42-47 ช่วงบ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง จ.สระแก้ว
ทั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกเช่นกันที่ฝ่ายกัมพูชายินยอมร่วมมือกับฝ่ายไทยในการลงพื้นที่เดินสำรวจแนวเส้นอ้างสิทธิ์และวางหมุดชั่วคราวที่แน่ชัดด้วยกัน อันจะทำให้แต่ละฝ่ายยอมรับขอบเขตพื้นที่ที่เกิดขึ้น ตามผลการสำรวจและจะนำไปสู่การปรับการถือครองที่ดินของทั้ง 2 ฝ่ายได้ต่อไป
อาเซียนเเละสหรัฐเฝ้าสังเกตการณ์
พล.อ.ณัฐพล กล่าวอีกว่า ขอยืนยันว่าการวางหมุดชั่วคราวนี้เป็นเพียงเพื่อการสำรวจเท่านั้น และจะไม่กระทบต่อสิทธิ์ของไทยในเรื่องเขตแดนทางบกตามกฎหมายระหว่างประเทศแต่อย่างใด นอกจากนี้ฝ่ายไทยจะเริ่มดำเนินการสร้างรั้วชายแดนในบริเวณที่มีความชัดเจนของเส้นเขตแดนแล้ว โดยยืนยันว่ารั้วดังกล่าวจะอยู่ภายในเขตอธิปไตยของไทยเพื่อประโยชน์ในการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดนตลอดจนเพื่อป้องกันภัยคุกคามข้ามแดนระหว่างทั้ง 2 ประเทศ
ทั้งหมดที่กล่าวมานั้นนับเป็นความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญที่เกิดขึ้นจากการประชุม GBC ในครั้งนี้ ซึ่งยังคงมีรายละเอียดหลายเรื่องที่เราต้องร่วมกันติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิดต่อไป ฝ่ายไทยขอยืนยันว่า เราต้องการเห็นความคืบหน้าที่ชัดเจนในทุกเรื่องตามที่กล่าวไปแล้ว
จึงจะพิจารณาการยุติความเป็นปรปักษ์ต่อกัน ดังนั้นจึงขอเรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชาได้แสดงความจริงใจในการปฏิบัติตามผลการประชุม GBC ในครั้งนี้โดยเคร่งครัด เพื่อร่วมกันนำสันติสุขให้กลับคืนสู่ประชาชนของทั้ง 2 ประเทศ ตลอดจนภูมิภาคอาเซียนในภาพรวม ตนขอยืนยันในนามของรัฐบาลและกระทรวงกลาโหมว่าจะพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งอธิปไตยและประโยชน์ของชาติและประชาชนโดยคำนึงถึงเกียรติภูมิของประเทศไทยเป็นสำคัญ
เรียบเรียงโดยอาจารย์ต้นสัก สนิทนาม
#การประชุมความมั่นคง #JBC #GBC #ข่าว #ข่าวรอบโลก #ไทย #กัมพูชา
ข่าว
ไทย
กัมพูชา
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย