เมื่อวาน เวลา 10:09 • หุ้น & เศรษฐกิจ

จีน ‘ยกเลิก’ ลดหย่อนภาษีทอง คาดดันต้นทุนทองให้สูงขึ้น นักวิเคราะห์เชื่อ ‘ทองคำยังไม่จบ’

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า จีนเตรียมยกเลิก “มาตรการลดหย่อนภาษีทองคำ” ที่มีมานาน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อตลาดทองคำที่ใหญ่ที่สุดของโลก
นับตั้งแต่วันที่ “1 พฤศจิกายน” เป็นต้นไป รัฐบาลปักกิ่งจะไม่อนุญาตให้ผู้ค้าปลีกนำภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ที่จ่ายจากการซื้อทองคำในตลาดทองคำเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Gold Exchange) มาหักออกเมื่อขายต่อ ไม่ว่าจะเป็นการขายโดยตรงหรือหลังจากนำไปแปรรูป ทั้งนี้เป็นไปตามกฎหมายฉบับใหม่จากกระทรวงการคลังของจีน
กฎใหม่นี้ครอบคลุมทั้งทองคำเพื่อการลงทุน เช่น ทองคำแท่งบริสุทธิ์ เหรียญทองที่ได้รับอนุมัติจากธนาคารกลางจีน (PBOC) และทองคำเพื่อการใช้งานทั่วไป เช่น เครื่องประดับหรือวัสดุอุตสาหกรรม
ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวจะช่วยเพิ่มรายได้ให้ภาครัฐ ในช่วงที่เศรษฐกิจจีนชะลอตัวและตลาดอสังหาริมทรัพย์ซบเซา แต่ในอีกด้านหนึ่ง ก็จะทำให้ต้นทุนการซื้อทองของผู้บริโภคจีนเพิ่มขึ้น
จากความต้องการซื้อทองในหมู่นักลงทุนรายย่อยทั่วโลกเมื่อไม่นานมานี้ ได้ช่วยหนุนให้ราคาทองคำพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แต่ก็ทำให้ตลาดอยู่ในภาวะ “ซื้อมากเกินไป” ซึ่งอาจนำไปสู่การปรับฐานของราคาทองในระยะสั้น
ไม่นานนี้ เกิดการร่วงลงของราคาทองคำที่รุนแรงที่สุดในรอบกว่าทศวรรษ พร้อมกับการกลับทิศของกระแส “ซื้อทองผ่านกองทุน ETF” ที่ดำเนินต่อเนื่องมาตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม
นอกจากนี้ยังสอดคล้องกับการสิ้นสุดของช่วง “ฤดูกาลซื้อทอง” ที่มักเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลของอินเดีย ขณะเดียวกัน “การสงบศึกทางการค้า” ระหว่างสหรัฐและจีน ก็ทำให้ความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยลดลงด้วย
อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำยังคงทรงตัวอยู่ใกล้ระดับ 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นระดับสำคัญที่เพิ่งทะลุผ่านไปเมื่อต้นเดือนตุลาคม และปัจจัยพื้นฐานหลายประการที่หนุนให้ราคาทองพุ่งขึ้นยังคงอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าซื้อทองของธนาคารกลางทั่วโลก การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ รวมถึงความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ทั่วโลก ที่ยังคงทำให้ทองคำดูเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในสายตานักลงทุน
ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมจำนวนไม่น้อยยังคงคาดว่า ราคาทองคำอาจ “แตะระดับใกล้ 5,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์” ภายในราว 1 ปีข้างหน้า จากระดับปัจจุบันที่ 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์
โฆษณา