2 พ.ย. เวลา 06:39 • ปรัชญา
ผมเคยถูกฝึกให้นั่งสมาธิหลับตาตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นเด็กชั้นประถม ถือว่าเป็นการพักผ่อนอย่างหนึ่ง
*ฌาน ไม่ใช่ ญาณ
วิธีฝึกที่ถูกต้องตามลำดับ
ควรฟังลิงค์ด้านล่าง ตั้งแต่ต้น
(ข้อความบางส่วน)
...เพราะสงัดจากกามและสงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลาย
จึงบรรลุฌานที่ ๑ มีวิตกวิจาร มีปีติและสุข อันเกิดแต่วิเวก แล้วแลอยู่,
เพราะสงบวิตกวิจารเสียได้
จึงบรรลุฌานที่ ๒ เป็นเครื่องผ่องใสในภายใน เป็นที่เกิดสมาธิแห่งใจ ไม่มีวิตกวิจาร มีแต่ปีติและสุขอันเกิดแต่สมาธิอยู่,
เพราะความจางแห่งปีติ ย่อมอยู่อุเบกขา มีสติสัมปชัญญะ เสวยสุขด้วยนามกาย
บรรลุฌานที่ ๓ อันเป็นฌานที่พระอริยเจ้ากล่าวว่า ผู้ได้ฌานนี้ เป็นผู้อยู่อุเบกขา มีสติ อยู่เป็นสุข,
และเพราะละสุขและทุกข์เสียได้ เพราะความดับหายไปแห่งโสมนัสและโทมนัสในกาลก่อน
จึงได้บรรลุฌานที่ ๔ อันไม่ทุกข์ไม่สุข มีแต่ความที่มีสติเป็นธรรมชาติบริสุทธิ์ เพราะอุเบกขา แล้วแลอยู่
"พราหมณ์เอย!
ภิกษุเหล่าใดที่ยังเป็นเสขะ คือยังต้องทําต่อไป ยังไม่บรรลุอรหัตตมรรค ยังปรารถนานิพพานอันเป็นที่เกษมจากโยคะ ไม่มีอื่นยิ่งไปกว่าอยู่
คำสอนที่กล่าวมานี้แหละ เป็นคำสอนสำหรับภิกษุทั้งหลายเหล่านั้น"
ส่วนภิกษุเหล่าใดเป็นอรหันต์สิ้นอาสวะแล้ว จบพรหมจรรย์แล้ว ทำกิจที่ต้องทำสำเร็จแล้ว มีภาระอันปลงได้แล้ว มีประโยชน์ตนอันได้บรรลุถึงแล้ว มีสังโยชน์ในภพสิ้นไปรอบแล้ว หลุดพ้นแล้วเพราะรู้โดยชอบแล้ว ธรรมทั้งหลายในคำสอนเหล่านี้เป็นไปเพื่อความอยู่เป็นสุขในทิฏฐธรรม และเพื่อสติสัมปชัญญะแก่ภิกษุทั้งหลายเหล่านี้ด้วย
"ทรงมีหลักเกณฑ์การฝึกตามลำดับ อย่างย่อ"
โฆษณา