ปี 2568 ถือเป็นปีที่ “สงครามความเร็วของปัญญาประดิษฐ์ (AI)” เข้าสู่จุดเปลี่ยนสำคัญ โดยจีนแสดงศักยภาพด้านนวัตกรรมและการพัฒนาเทคโนโลยี AI อย่างต่อเนื่อง จนหลายสำนักข่าวเทคโนโลยี เช่น TechNode และ South China Morning Post (SCMP) วิเคราะห์ว่า จีนกำลังเร่งก้าวขึ้นเป็น “ผู้นำร่วม” ของโลก AI ภายในช่วงกลางทศวรรษนี้
ข้อมูลจาก China Academy of Information and Communications Technology (CAICT) ระบุว่า จีนมีบริษัทด้าน AI มากกว่า 4,000 แห่ง และมีการพัฒนาโมเดลขนาดใหญ่ (LLM) มากกว่า 200 รุ่น ภายในประเทศ (รายงานเดือนกันยายน 2568) ซึ่งสะท้อนถึงความหลากหลายและความเร็วในการวิจัยและพัฒนา
ขณะเดียวกัน รัฐบาลจีนได้ออกนโยบายสนับสนุน “AI for Industrial Economy” ส่งเสริมการใช้ AI ในการผลิต พลังงาน การแพทย์ และภาคการเงิน เพื่อยกระดับประสิทธิภาพเศรษฐกิจดิจิทัลทั่วประเทศ
ปีแห่งการไล่ทันและแซงโค้ง
ในขณะที่สหรัฐฯ และยุโรปกำลังเร่งพัฒนา GPT-5, Gemini Ultra และ Claude Next จีนกลับขยายแนวรบทั้งด้าน LLM, Agentic AI และ Generative AI พร้อมกัน
รายงานจาก South China Morning Post (ตุลาคม 2568) ระบุว่า “จีนกำลังลดช่องว่างทางเทคโนโลยีกับตะวันตกอย่างรวดเร็ว ทั้งในมิติของประสิทธิภาพและความคุ้มค่าเชิงเศรษฐกิจ”
ปี 2568 จึงอาจถูกจดจำว่าเป็น“ปีที่จีนแสดงศักยภาพอย่างเต็มรูปแบบในเวที AI โลก” ไม่ใช่เพียงในฐานะผู้ตาม แต่ในฐานะ “ผู้ท้าทายที่กำลังเร่งแซง” อย่างมีระบบ-