Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
aomMONEY
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
4 พ.ย. เวลา 15:00 • ไลฟ์สไตล์
ผิดไหม ถ้าเราทำอาชีพเสริมในที่ทำงานแต่เราไม่ได้รบกวนเวลางาน เราทำเฉพาะตอนพักเที่ยงและหลังเลิกงาน?
ไปเจอคำถามนี้มาใน Pantip เลยอยากเอามาคุยกันต่อครับ (ลิงก์ในคอมเมนต์นะครับ)
คนถามบอกว่าตอนพักเที่ยงจะไปนั่งไลฟ์ขายของ ซึ่งบางคนก็บอกว่าไม่เห็นด้วย แต่ด้วยปัญหาเรื่องการเงิน ใช้หนี้บัตรเครดิต และหาเงินค่าฟอกไตพ่อทุกสัปดาห์ เลยต้องหาอาชีพเสริม
ในส่วนของหลังเลิกงานอาจจะไม่ได้มีประเด็นอะไรมาก แต่คอมเมนต์ส่วนใหญ่จะบอกว่าพอไลฟ์ช่วงพักเที่ยง คนอื่นๆ ในออฟฟิศอาจจะไม่สะดวกใจ และแม้ว่าจะเป็นเวลาพัก ก็อาจจะทำให้รู้สึกว่าไม่ได้ทำงานเต็มที่ ต้องมองในมุมของผู้ว่าจ้างด้วย
ซึ่งอันนี้ก็เห็นด้วยพอสมควร เลยคิดว่าถ้าทำหลังเลิกงานทีเดียวไปเลยน่าจะดีกว่า
แต่ถึงอย่างนั้นก็ตามอยากชวนให้มองอีกด้านของคนที่มาโพสต์ถามด้วยว่าทำไมถึงต้อง “ทำงานเสริมในเวลางาน”
บางทีเราอาจจะเห็นแค่ว่าผู้หญิงคนหนึ่งนั่งไลฟ์ขายของตอนเที่ยง ใช้กรีนสกรีน พอฟีดออกตอนบ่ายเลยดูเหมือนว่าแอบทำระหว่างเวลางาน ก็เลยตัดสินว่า “ไม่โปรเฟสชั่นนัลเลย” หรือ “แอบหารายได้ในช่วงเวลาทำงานของบริษัท” แต่ไม่ได้เห็นฉากเต็มที่อยู่ข้างหลังเลยว่ามีปัญหาอะไรอยู่บ้าง
สิ่งที่ต้องระวังคือเราอาจจะตัดสินคนอื่นไปก่อน เพราะใช้ประสบการณ์ของตัวเองเป็นจุดเริ่มต้น
สำหรับคนที่ไม่ได้มีปัญหา อาจจะคิดว่า “ทำไมไม่รอเงินเดือนออกแล้วบริหารเงินให้ดีละ” แต่ถ้าคุณอยู่ในโลกที่เงินออกวันที่ 30 แต่ค่าไตออกทุกสัปดาห์ มีคนทวงหนี้ตลอดเวลา คุณจะรู้เลยว่าปฏิทินของชีวิตจริงมันไม่ซิงก์กับปฏิทินเงินเดือนสักเท่าไหร่
2
นี่ไม่ใช่เรื่องขยันหรือไม่ขยันอย่างเดียว แต่มันคือเรื่องจังหวะของปัญหาชีวิตที่เรามองไม่เห็นด้วย
การที่ไปไลฟ์ตอนเบรก ไม่ได้แปลว่าคุณเป็นคนไม่ดี มันแปลว่าคุณอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ “รายได้จากแหล่งเดียวไม่พอ” เท่านั้นเอง
องค์กรสนใจว่าเวลาที่จ่ายเงินเดือนไป ถูกใช้กับงานหรือยัง? แต่ตัวคุณตอนนี้สนใจว่าจะเอาเงินจากไหนไปจ่ายไตพ่ออาทิตย์นี้?
สองคำถามนี้ไม่ได้ผิดอะไร แต่เวลาดันมาชนกัน คนที่อ่อนแอทางโครงสร้างจะเสียเปรียบเสมอ คือพนักงาน
เพราะฉะนั้น สิ่งแรกที่ต้องย้ำให้ตัวเองรู้คือ การหาเงินเพิ่มไม่ใช่เรื่องน่าอาย มันคือสิ่งจำเป็นเพื่อให้ชีวิตอยู่รอด แค่วิธีที่เราทำต้องไม่ทำให้เราเจอปัญหาในที่ทำงานด้วย
แม้ว่าผู้ถามจะตั้งเวลาโพสต์เอาไว้หรืออะไรก็ตาม พอมันเป็นช่วงเวลางาน นั่นคือสิ่งที่คนมองเห็น และคนเราตัดสินจากสิ่งที่มองเห็นง่าย เพราะสมองเราขี้เกียจประมวลผลบริบทลึกๆ
ผมลองสรุปให้เป็นแนวทางแบบนี้ครับ
1. อย่าทำให้ดูเหมือนทำในเวลางาน : ตั้งเวลาโพสต์ได้ก็ตั้ง แต่พยายามให้ช็อตที่คนเห็นตรงกับเวลาพักหรือหลังเลิกงาน (ซึ่งหลังเลิกงานไปเลยน่าจะเป็นอะไรที่ชัดเจนง่ายกว่า)
2. ให้ผลงานประจำดีมากๆ : คนจะไม่ค่อยกล้าว่าเราถ้างานหลักเราส่งครบ ส่งก่อน และไม่มีใครต้องตาม แบบไร้ข้อกังขาเรื่องประสิทธิภาพงานเลย
3. บอกเจ้านายแบบกรอบกว้างๆ ได้ : ไม่ต้องเล่ารายละเอียด แต่บอกว่า “ช่วงนี้มีภาระครอบครัว ต้องทำงานเสริมตอนเย็น ถ้าต้องให้ช่วยนอกเวลาได้เป็นบางวันนะคะ แต่ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ จะขอทำงานเสริมหลังเลิกงานเพื่อหาเงินมาดูแลส่วนนี้”
4. แยก device/แอคเคานต์ถ้าเป็นไปได้ อันนี้ก็พอจะลดแรงเสียดทานได้
สิ่งที่กำลังเผชิญอยู่จริงๆ ไม่ใช่ปัญหาว่าทำงานเสริมได้ไหม แต่คือรายจ่ายของชีวิตโตเร็วกว่ารายได้ประจำ เราต้องหาทางเพิ่มรายรับให้ทัน เมื่อระบบการจ้างงานแบบ 9–5 ถูกออกแบบมาสำหรับคนที่ค่าครองชีพคาดเดาได้ แต่ความเป็นจริงของโลกตอนนี้อาจจะมีทั้งหนี้บัตรเครดิตดอกเบี้ยสูง ค่ารักษาพยาบาลรายสัปดาห์ หรือค่าเดินทาง ค่าเช่า ที่ไม่รอเงินเดือนออก
พอระบบไม่ยืดหยุ่น คนก็ต้องยืดหยุ่นเอง และบางทีมันอาจจะแปลกจากคนอื่นๆ สักหน่อย นี่แหละครับชีวิตจริง คนที่เตือนคุณไม่ได้รู้ว่าคุณต้องจ่ายไตพ่อเท่าไหร่ คนที่บอกว่โฟกัสที่งานสิเดี๋ยวเงินเดือนก็ขึ้นไม่ได้เป็นคุณในเวลานี้ เพราะงั้นคำเตือนเราฟังได้ แต่อย่าเอาคำเตือนมาทำให้เรารู้สึกผิดที่ต้องหาเงินเพื่อรับผิดชอบภาระเหล่านั้น
สองเรื่องนี้แยกกันได้ และควรแยกกัน
ปัญหาชีวิตบางที เราต้องการความยืดหยุ่นและเห็นอกเห็นใจตัวเองด้วย
ในเวลางานให้ทำงานเต็มที่ ให้เขาเห็นด้วย ส่วนนอกเวลางานเราจะทำอะไรควรเป็นเรื่องของเรา
#aomMONEY
11 บันทึก
18
10
11
18
10
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย