7 พ.ย. เวลา 03:37 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

A House of dynamite

ระเบิดลูกเดิมระหว่างเสียงหัวเราะของคูบริกกับความเงียบของบิเกโลว์
หนังว่าด้วยความหวาดกลัวในอาวุธนิวเคลียร์ของแคทริน บิเกโลว์เรื่องนี้ ดันสะท้อนออกมาเหมือนกับหนังเมื่อ 61 ปีที่แล้วอย่าง Dr. Strangelove or: How I Learned to Stop Worrying and Love the Bomb (1964) หนังสองเรื่องพูดถึงวันระเบิดนิวเคลียร์ล้างโลกเหมือนกัน แต่ใช้วิธีเล่าคนละขั้วสุดขั้ว สแตนลีย์ คูบริกใช้ตลกร้ายเพื่อเปิดโปงความวิกลจริตของการแข่งขันสะสมอาวุธนิวเคลียร์ ส่วนบิเกโลว์ใช้ความจริงจังสุดขีด ดิบ และสมจริงอย่างน่าขนลุก
ในปี 1964 สแตนลีย์ คูบริก ปล่อย Dr. Strangelove or: How I Learned to Stop Worrying and Love the Bomb ปล่อยพลังตลกร้ายที่เสียดสีความวิกลจริตของยุคสงครามเย็นอย่างแสบสันต์ หนังเต็มไปด้วยความขบขันที่ดำมืดจนเจ็บปวด ผู้ชมทั้งหัวเราะและสะอึกในเวลาเดียวกัน เพราะรู้ดีว่าเบื้องหลังเสียงหัวเราะนั้นคือความจริงอันบ้าคลั่งของการแข่งขันสะสมอาวุธนิวเคลียร์ และความโง่เขลาของมนุษย์ที่พร้อมผลักโลกเข้าสู่หายนะเพียงเพราะอัตตาและความกลัว
ส่วน A House of Dynamite แต่เลือกทางตรงข้ามโดยสิ้นเชิง แทนที่จะใช้ความประชดประชัน เธอเลือกความจริงจัง แทนเสียงหัวเราะ เธอใช้ความเงียบและแรงกดดันทางเวลา ใช้ใบหน้าที่เต็มไปด้วยเหงื่อและความสิ้นหวังของผู้นำประเทศ ทำให้ความหวาดกลัวในภัยนิวเคลียร์ของบิเกโลว์สมจริงมากขึ้น เมื่อคำนึงถึงความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่หนักขึ้น และความขัดแย้งที่พร้อมปะทุเป็นความรุนแรง อีกทั้งประเทศต่างๆ ในวันนี้มีศักยภาพทางนิวเคลียร์กว่าเมื่อก่อนมาก
หนังเปิดฉากด้วยเหตุการณ์ขีปนาวุธลึกลับที่ถูกยิงมาจากทะเลในมหาสมุทรแปซิฟิคเข้ามายังดินแดนสหรัฐอเมริกา ก่อนพาผู้ชมดำดิ่งสู่ห้องสถานการณ์ในทำเนียบขาวและเพนตาก้อนที่ซึ่งทุกการตัดสินใจอาจหมายถึงสงครามโลกครั้งใหม่ ปฏิกริยาของผู้มีอำนาจเปลี่ยนโฉมโลกที่จะรับมือและตัดสินใจอย่างไร โดยที่เหตุการณ์นี้กินเวลาเพียง 19 นาที
บิเกโลว์ยังคงถ่ายทอดความตึงเครียดได้อย่างเฉียบคม บทสนทนาเฉียบแหลม การแสดงยอดเยี่ยม และการตัดต่อที่แบ่งเรื่องราวออกเป็นองก์ ๆ อย่างตั้งใจ ให้ผู้ชมต้องขบคิดต่อเองถึงเบื้องหลังของอำนาจและการเมืองโลก หนังเรื่องนี้สะท้อนภูมิรัฐศาสตร์ร่วมสมัยได้ทั้งทรงพลังและเยือกเย็นในเวลาเดียวกัน
เรื่องราวใน A House of Dynamite วางอยู่บนสมมุติฐานที่ดูเป็นไปได้จริงอย่างน่ากลัว แต่ละกลุ่มตัวละครอยู่ในตำแหน่งต่างกันของระบบอำนาจอเมริกัน ทุกคนกำลังตอบสนองต่อวิกฤติเดียวกันแบบเรียลไทม์ ผลลัพธ์คือหนังระทึกขวัญทางการเมืองที่ถูกออกแบบอย่างรัดกุม และเผยให้เห็นความน่าสะพรึงของระบบตอบโต้อัตโนมัติที่อาจหลุดจากการควบคุมของมนุษย์ได้ทุกเมื่อ และชีวิตมนุษย์ทั้งหมดถูกบีบให้เหลือแค่ตัวเลขนับเวลาถอยหลังบนหน้าจอนาฬิกาเท่านั้น
ดูได้ทาง Netflix
8/10
โฆษณา