‘หลุมดำ’ กลืนทุกสิ่งได้จริงหรือ?
รู้หรือไม่… วัตถุที่ทรงพลังที่สุดในจักรวาลอย่าง “หลุมดำ” อาจไม่ได้ทำหน้าที่ “กลืนทุกสิ่ง” อย่างที่เรามักเข้าใจ
หลุมดำ (Black Hole) คือบริเวณในอวกาศที่แรงโน้มถ่วงรุนแรงมากจนแม้แต่แสงก็ไม่สามารถหนีออกมาได้ เมื่อสิ่งใดหลุดเข้าไปถึง “ขอบเขตของมัน” หรือที่เรียกว่า Event Horizon ก็จะไม่มีวันหวนกลับ นั่นคือเหตุผลที่นักดาราศาสตร์เรียกมันว่า “ขอบฟ้าแห่งการไม่หวนคืน”
อย่างไรก็ตาม หลุมดำไม่ได้ทำตัวเหมือนเครื่องดูดมหึมาที่ดูดทุกอย่างรอบข้างเสมอไป หากดวงอาทิตย์ถูกแทนที่ด้วยหลุมดำที่มีมวลเท่ากัน โลกก็ยังจะโคจรรอบมันได้ตามปกติ เพราะแรงโน้มถ่วงภายนอกไม่ได้เปลี่ยนแปลง เพียงแต่หลุมดำจะไม่ส่องแสงให้เราเห็นเท่านั้น
นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่า สิ่งที่เรามองเห็นรอบหลุมดำไม่ใช่ตัวมันเอง แต่คือ “แสงสุดท้าย” จากวัตถุที่กำลังตกลงไปภายใน ซึ่งเกิดจากแรงเสียดทานอันมหาศาลจนเกิดการเรืองแสง เราเรียกบริเวณนี้ว่า Accretion Disk หรือ “จานพลังงานรอบหลุมดำ” ที่บางครั้งสว่างกว่ากาแล็กซีทั้งกาแล็กซี
และแม้หลุมดำจะขึ้นชื่อว่าไม่ปล่อยอะไรออกมาเลย แต่ในปี 1974 สตีเฟน ฮอว์คิง กลับเสนอสิ่งที่ทำให้วงการวิทยาศาสตร์สั่นสะเทือน เขาค้นพบว่า หลุมดำอาจ “คายพลังงาน” ออกมาได้จริง ผ่านรังสีที่ภายหลังถูกเรียกว่า Hawking Radiation ซึ่งหมายความว่าหลุมดำก็อาจ “ตาย” ได้ในที่สุด
นั่นแปลว่า… หลุมดำไม่ใช่ปีศาจในอวกาศที่กลืนกินทุกสิ่งโดยไร้ที่สิ้นสุด แต่มันคือปรากฏการณ์ธรรมชาติอันซับซ้อน ที่สะท้อนให้เห็นขอบเขตของความเข้าใจของมนุษย์ต่อจักรวาล
สิ่งที่เราเห็นว่า “กลืนทุกสิ่ง” อาจแท้จริงแล้วเป็นเพียง “เงาของกฎฟิสิกส์” ที่เรายังมองไม่ทะลุ
บางที… ความลึกลับของหลุมดำ อาจไม่ได้อยู่ที่ว่ามันทำลายอะไรได้บ้าง
แต่อยู่ที่ “มันทำให้เราตระหนักว่ามนุษย์รู้จักจักรวาลน้อยเพียงใด”
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
