8 พ.ย. เวลา 15:50 • หุ้น & เศรษฐกิจ

First Brands จำนำทุกอย่างที่ขยับได้ (ถ้าจับแมงสายได้ คงเอาไปจำนำแล้ว

FT รายงานข่าวของ First Brands บริษัทผลิตชิ้นส่วนที่เพิ่งล้มละลายไป
ในขณะที่ข้อกล่าวหาฉ้อโกงและข้อพิพาทเรื่องหลักทรัพย์ค้ำประกันปลิวว่อน สภาพ “หลังความตายของบริษัท” ที่กลายเป็นเศษซากจาก Frankenstein แห่งโลกการเงินนี้ (ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ในโอไฮโอ) ก็เริ่มสร้างคำถามที่ไม่ใช่แค่เรื่องกฎหมาย แต่แทบจะเป็นเรื่องอภิปรัชญา
• ถ้าใบแจ้งหนี้ถูก “สร้างขึ้นมา” ล่ะ จะมีหลักประกันบนสิ่งนั้นได้ไหม?
• เงินสด 2 พันล้านดอลลาร์ในบัญชีแยกพิเศษ “หายไปเฉยๆ” ได้จริงหรือ ถ้ามันอาจไม่เคยมีอยู่ตั้งแต่แรก?
• ถ้าคุณให้เงินกู้โดยมี “ที่ปัดน้ำฝน” ในโกดังที่เม็กซิโกเป็นหลักทรัพย์ แล้วของในโกดังนั้นถูก “ปนกัน” กับของของเจ้าหนี้รายอื่น ใครกันแน่ที่เป็นเจ้าของที่ปัดน้ำฝนพวกนั้น?
• และสุดท้าย… ทำไมใครบางคนถึงคิดว่าพันธบัตรที่มีที่ปัดน้ำฝนเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันคือการลงทุนที่ดี?
สงครามหลักทรัพย์ค้ำประกันแห่งเซาท์เท็กซัส
First Brands มีโครงสร้างทุนที่ซับซ้อนสุดจะบรรยาย แต่ “หลุมดำ” ที่ใหญ่ที่สุดอยู่ในระบบ SPV (Special Purpose Vehicle) นอกงบดุล ซึ่งบริษัทใช้กู้เงิน 2.3 พันล้านดอลลาร์ โดยเอาอะไหล่รถยนต์ในโกดังมาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน โดยมีเจ้าหนี้หลัก 4 ราย:
  • 1.
    Aequum Capital – 78 ล้านดอลลาร์
  • 2.
    CarVal – 159 ล้านดอลลาร์
  • 3.
    Evolution – 230 ล้านดอลลาร์
  • 4.
    Onset Financial จากยูทาห์ – ใหญ่สุดที่ 1.88 พันล้านดอลลาร์
1
แต่ SPV ของแต่ละรายไม่เหมือนกันเลย
CarVal ซึ่งเริ่มจากหน่วยลงทุนใน Cargill (บริษัทสินค้าเกษตรยักษ์ใหญ่) มี SPV ชื่อ Carnaby II (ที่ปัดน้ำฝนและฟิลเตอร์) และ Carnaby III (เบรก) ส่วน Aequum กำหนดให้โกดังต้องอยู่ในสหรัฐฯ เท่านั้น แต่ก็มีดีลที่เชื่อมกับธนาคาร Bawag ในออสเตรียที่รวมโกดังในเยอรมนีและโปแลนด์ด้วย
Aequum ตั้งชื่อแบบละตินว่า “สิ่งที่ถูกต้อง/เที่ยงธรรม” และอ้างว่าเป็นแพลตฟอร์มสินเชื่อเชิงเทคโนโลยี ร่วมมือกับ Castlelake (บริษัทลูกของ Brookfield) เพื่อปล่อยสินเชื่อผ่านระบบนั้น
ในเอกสารล้มละลาย Aequum บอกว่าตรวจนับของในสต็อกครบถ้วนก่อนบริษัทฟ้องล้มละลาย 30 วัน และทำซ้ำอีกตอนฟ้อง รวมถึงตรวจภาคสนามต่อเนื่องหลังจากนั้นด้วย
แต่ก็อย่างที่รู้กัน ต้อง “เห็นเองถึงเชื่อ”
การตรวจของ Evolution
Jeffrey Racy ที่ปรึกษาจาก Berkeley Research Group ซึ่งทำงานให้ Evolution อ้างในคำให้การว่าเขาไปตรวจโกดังสองแห่งในแคลิฟอร์เนีย และพบว่า “ไม่มีความคลาดเคลื่อนสำคัญระหว่างรายงานกับของจริง” พร้อมแนบรูปของโกดังที่เรียกว่า “Patterson Warehouses” เป็นหลักฐาน
ส่วนรายสุดท้าย Onset Financial เป็นเจ้าหนี้ใหญ่ที่สุดของ First Brands ด้วยหนี้เกือบ 2 พันล้านดอลลาร์ ผ่านสัญญาขายแล้วเช่ากลับ (sale-and-leaseback) ทั้งอุปกรณ์และสินค้าในสต็อก
บริษัทนี้ตั้งอยู่ในเมือง Draper รัฐยูทาห์ มีออฟฟิศ 2 แห่งแห่งละ 55,000 ตารางฟุต และสำนักงานใหญ่ที่ St. George มี “สวนเซนกลางแจ้งส่วนตัว” เพื่อให้ซีอีโอ Justin Nielsen ได้ “ใคร่ครวญชีวิต” (น่าจะได้ใช้บ่อยช่วงนี้)
ในโฆษณา Onset คุยว่า “เช่าได้ทุกอย่าง” ภายใต้สโลแกน “BEEN THERE, LEASED THAT.”
– ที่จอดรถ? เช่าแล้ว
– เฮลิคอปเตอร์ Blackhawk? มีเคสศึกษา
– ไก่? ก็เคยทำ (แต่จริงๆ คือเช่าคอกไก่)
เมื่อบริษัทเช่าแม้แต่เก้าอี้ออฟฟิศ
ในเอกสารศาล Onset อ้างว่าเป็น “เจ้าของโดยชอบธรรม” ของสินค้าที่ให้ First Brands เช่า แต่ในเอกสาร 1,500 หน้า มีของทุกอย่างตั้งแต่หัวเทียน เครื่องพิมพ์ HP LaserJet ไปจนถึง “โคมไฟ”พูดง่ายๆ คือทุกสิ่งที่ขยับได้ถูกเอาไปจำนำหมดแล้ว
ที่เลวร้ายกว่านั้นคือ First Brands บอกว่าอัตราผลตอบแทนที่ Onset เรียกสูงถึง “มากกว่า 100% ต่อปี” และ “บางกรณีแตะ 580%”
ทีมผู้บริหารใหม่กล่าวหาว่า Onset และ SPV ต่างๆ “ไม่ปฏิบัติตามรูปแบบการโอนทรัพย์อย่างถูกต้อง” และบางครั้ง “SPV อาจไม่เคยได้ครอบครองสินทรัพย์จริงเลยด้วยซ้ำ”
แต่ฝั่ง Onset สวนกลับ โดย Onset ได้ตอบโต้ในเอกสารศาลว่า ฝั่งลูกหนี้ “ยังไม่รู้ข้อมูลทั้งหมด และกำลังโยนความผิดให้ผู้อื่น” พร้อมกล่าวว่า “การฟ้องนี้เต็มไปด้วยข้อสรุปที่เอนเอียง” และว่าพวกเขาถูกหลอกโดย Patrick James ผู้ก่อตั้ง First Brands ที่ “หาเงินหลายพันล้านให้บริษัท แล้วเบียดบังมันเข้ากระเป๋าตัวเอง” (ซึ่งแน่นอน Patrick James ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด)
รอดูกันครับ รับรองมันหยดติ๋งแน่
โฆษณา