ลงทุนอย่างไรให้ไม่ขาดทุนด้วย Option เข้าใจพื้นฐานออปชัน โอกาสและความเสี่ยงก่อนเริ่มลงทุน
การลงทุนในตลาดหุ้นเป็นเรื่องที่ต้องศึกษาและทำความเข้าใจเครื่องมือต่างๆ เพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคปัจจุบันที่ตลาดมีความผันผวนสูง "ออปชัน" (Option) จึงเป็นเครื่องมือหนึ่งที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุน
บทความนี้ได้สรุปประเด็นบางส่วนมาจาก Session: Options 101 : Investing Beyond Stocks and Bonds เข้าใจพื้นฐานออปชัน โอกาสและความเสี่ยงก่อนเริ่มลงทุน โดยคุณบุ้งกี๋ "ณัฐชนก มานะสมจิตร Wealth Advisor, Singapore (Gee Money & More, Facebook and YouTube page) ที่ได้มาแชร์ในงาน Work Life Festival 2025
1. ทำความเข้าใจพื้นฐานของ Options
Options คือ "สิทธิ์" ในการซื้อหรือขายหุ้นในราคาและวันเวลาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ไม่ใช่ภาระผูกพัน หมายความว่าผู้ถือออปชันมีสิทธิ์ที่จะใช้หรือไม่ใช้สิทธิ์นั้นก็ได้
ประโยชน์ของ Options
- สามารถลดความเสี่ยงในตลาดหุ้น หรือ สร้าง Income ได้
- ออปชันช่วยให้การบริหารจัดการพอร์ตมีประสิทธิภาพมากขึ้น
2. เปรียบเทียบความเสี่ยงและผลตอบแทนที่คาดหวัง
เมื่อพิจารณาเครื่องมือทางการเงินต่างๆ ตั้งแต่เงินฝากออมทรัพย์, ตราสารหนี้, กองทุนรวม, หุ้น ไปจนถึงตราสารอนุพันธ์ (ซึ่งออปชันเป็นส่วนหนึ่ง) จะพบว่าตราสารอนุพันธ์มีความเสี่ยงสูงที่สุด แต่ก็มีโอกาสให้ผลตอบแทนที่สูงที่สุดเช่นกัน นักลงทุนจึงต้องประเมินความเสี่ยงที่ตนเองรับได้และผลตอบแทนที่คาดหวังอย่างรอบคอบ
3. กลยุทธ์ลงทุน Options เพื่อสร้างรายได้และตั้งรับหุ้น
หนึ่งในกลยุทธ์ที่น่าสนใจคือ กลยุทธ์ของวอร์เรน บัฟเฟตต์ ตอนนั้นวอร์เรนใช้กลยุทธ์ Short Put Option ในการลงทุนใน Coca-Cola โดยเขาขาย Put Option ที่ราคา $35 เพื่อรอซื้อหุ้นที่ราคา $35 และได้รับค่า Premium ถึง $7.5 ล้านเหรียญ
การลงทุนครั้งนั้นทำให้เขาได้
- รับเงินทันที นักลงทุนจะได้รับค่าพรีเมียมจากการขายสิทธิ์ (Option) ทันที
- ได้ซื้อหุ้นในราคาที่ต้องการ หากราคาหุ้นตกลงมาถึงระดับราคาที่เราตั้งรับไว้ (Strike Price)
- หากราคาหุ้นไม่ตกลงมาถึงระดับราคาที่เราตั้งรับไว้ สิทธิ์นั้นก็จะหมดอายุไป และเราก็จะได้เก็บเงินค่าพรีเมียมนั้นไว้โดยไม่ต้องทำอะไรเลย
กลยุทธ์นี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อหุ้นตัวใดตัวหนึ่งในอนาคตอยู่แล้ว และต้องการสร้างรายได้ระหว่างรอ
4. ปัจจัยในการตัดสินใจใช้ Options อย่างชาญฉลาด
นักลงทุนที่ฉลาดจะพิจารณา 4 ปัจจัยสำคัญก่อนตัดสินใจใช้ออปชัน
- ราคา (Price) ราคาปัจจุบันของหุ้นและราคาใช้สิทธิ์ (Strike Price)
- ทิศทาง (Direction) การคาดการณ์ทิศทางราคาหุ้นว่าจะขึ้นหรือลง
- เวลา (Time) ระยะเวลาที่เหลืออยู่ของออปชัน เนื่องจากออปชันมีอายุจำกัด (Time Decay)
- ความผันผวน (Volatility) ระดับความผันผวนของราคาหุ้น ซึ่งส่งผลต่อราคาออปชัน
5. ข้อควรระวังและ Mindset ที่ถูกต้อง
แม้ว่าออปชันจะมีประโยชน์ แต่ก็มีข้อควรระวังที่สำคัญ:
- มีอายุจำกัด (Time Decay) มูลค่าของออปชันจะลดลงเรื่อยๆ เมื่อใกล้ถึงวันหมดอายุ
- ความผันผวน (Volatility) ความผันผวนของราคาหุ้นส่งผลกระทบโดยตรงต่อราคาออปชัน
- ห้าม ALL-IN ไม่ควรนำเงินลงทุนทั้งหมดมาลงกับออปชันเพียงอย่างเดียว เนื่องจากมีความเสี่ยงสูง
[ 🧠 Mindset ของนักลงทุนที่จะได้ประโยชน์จากออปชัน ]
- ใช้เพื่อควบคุมความเสี่ยง ไม่ใช่เพื่อเสี่ยงให้สุด ออปชันควรเป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยง ไม่ใช่การเพิ่มความเสี่ยงที่ไม่จำเป็น
- เริ่มต้นจากเล็กๆ หรือทดลองก่อน ควรเริ่มลงทุนด้วยเงินจำนวนน้อย หรือใช้บัญชีทดลอง (Demo Account) เพื่อทำความเข้าใจกลไกและความเสี่ยงก่อน
- มีแผนรับมือทุกสถานการณ์ เตรียมแผนสำรองสำหรับสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น เพื่อลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
สรุป: การลงทุนในออปชันเป็นเครื่องมือที่มีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนและบริหารความเสี่ยง หากนักลงทุนมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้ มีการวางแผนที่ดี และใช้ด้วยความระมัดระวัง ก็จะสามารถลดโอกาสในการขาดทุนและเพิ่มโอกาสในการสร้างผลกำไรได้อย่างยั่งยืน
#aomMONEY #การเงิน #ลงทุน #วางแผนชีวิต #FinancialPlanning #WorkAndWealth #MoneyGoals #WorkLifeFestival2025 #Options
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
