12 พ.ย. เวลา 07:33 • ข่าว

กงสุลจีนขู่ตัดหัวนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น

หลังนายกฯหญิงประกาศพร้อมส่งกองทัพญี่ปุ่นไปช่วยไต้หวัน
ความสัมพันธ์ระหว่างจีน-ญี่ปุ่น ดิ่งเหวสุดกู่ หลังกงสุลจีนประจำโอซาก้า โพสต์ข้อความขู่ว่าจะตัดศีรษะผู้นำญี่ปุ่นทิ้งตอบโต้คำประกาศกร้าวของ ซานาเอะ ทาคาอิจิ นายกรัฐมนตรีหญิงคนปัจจุบัน ที่กล่าวว่า เธอพร้อมจะส่งกองกำลังป้องกันประเทศของญี่ปุ่นไปช่วยไต้หวันทันที หากจีนส่งกองทัพรุกรานไต้หวัน
ประเด็นข้อความสะเทือนความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่าง จีน-ญี่ปุ่น เกิดขี้นเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2025 ที่ผ่านมา เมื่อนาย เสว เจี้ยน กงสุลใหญ่ประจำโอซาก้า ได้โพสต์ข้อความผ่าน X ว่า "ใครที่คิดจะไสหัวโสโครกเข้ามาอย่างไม่ดูตาม้า ตาเรือ จะถูกตัดหัวทิ้งทันทีอย่างไม่ลังเล"
1
โพสต์ของกงสุลจีน ปรากฏขึ้นทันทีหลังมีการนำเสนอ คำแถลงของ ซานาเอะ ทาคาอิจิ ต่อคณะกรรมาธิการพิจารณางบประมาณในสภาผู้แทนราษฎร ที่นายกฯ หญิง ได้ประกาศอย่างแข็งกร้าวว่า
"ผลกระทบจากการใช้กำลังทหารลุกล้ำอธิปไตยไต้หวันจะถือเป็น "สถานการณ์คุกคามความอยู่รอด" เมื่อถึงเวลานั้น ญี่ปุ่นจะตอบโต้ด้วยการส่งกองกำลังป้องกันประเทศเข้าไปสนับสนุนไต้หวัน" ซึ่ง ซานาเอะ ทาคาอิจิ เป็นผู้นำญี่ปุ่นคนแรกที่ออกมาประกาศจุดยืนอย่างชัดเจนต่อกรณีข้อพิพาท จีน-ไต้หวัน
ซึ่งการใช้คำว่า "สถานการณ์คุกคามความอยู่รอด" ของผู้นำญี่ปุ่น มีนัยสำคัญอยู่
ตามกฎหมายความมั่นคงของญี่ปุ่นที่บัญญัติไว้ในปี 2015 ระบุว่าหากมีการใช้อาวุธทางทหารโจมตีพันธมิตรของญี่ปุ่น จะถือเป็นภัยคุกคามต่อการดำรงอยู่ของญี่ปุ่นเช่นกัน และเมื่อพิจาณาแล้วว่าเป็น "สถานการณ์คุกคามความอยู่รอด" รัฐบาลญี่ปุ่นสามารถใช้กองกำลังป้องกันตนเองตอบโต้ต่อภัยคุกคามนั้นได้
แน่นอนว่า ฝ่ายปักกิ่งไม่พอใจมาก กองทัพจีนจะรุกรานไต้หวัน จนทำให้เกิด "สถานการณ์คุกคามความอยู่รอด" ขึ้นเมื่อไหร่นั้น ยังไม่มีใครรู้ แต่คำกล่าวของนายกฯหญิง ต่อสภา นั่นถือเป็นภัยคุกคามต่อจีนแล้ว โดยกระทรวงต่างประเทศของจีนออกมาตอบโต้ทันทีว่า คำพูดของผู้นำญี่ปุ่นถือว่า “ร้ายแรงมาก”
และนั่นจึงเป็นที่มาของทวิตขู่ตัดหัวของกงสุลใหญ่จีนในโอซาก้า ที่ตีความเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลยว่า "หัวโสโครกที่ไสเข้ามาอย่างไม่ดูตาม้า ตาเรือ" คงหมายถึงนายกรัฐมนตรี ซานาเอะ ทาคาอิจิ นั่นแหล่ะ
แต่หลังจากกงสุลจีนโพสต์ข้อความได้ไม่นาน ก็ลบออกไปอย่างรวดเร็ว แต่เร็วแค่ไหนก็ไม่ทันทีมแคปทันเจแปน และนำไปสู่การยื่นจดหมายประท้วงของฝ่ายกระทรวงการต่างประเทศ และ สถานทูตญี่ปุ่นประจำกรุงปักกิ่ง ส่งตรงถึงรัฐบาลจีนเพื่อเรียกร้องคำอธิบายอย่างเป็นทางการต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ด้านเจ้าหน้าที่สหรัฐก็ออกมารับลูกต่อในจังหวะสวนกลับทันที โดย จอร์จ กลาส เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำญี่ปุ่น ได้ออกมาโพสต์ถึงข้อความข่มขู่หมายปองถึงชีวิตของ เสว เจี้ยน กงสุลจีน ว่าเป็นกงสุลหน้ากากหลุด และนี่ไม่ใช่กรณีแรกที่ท่านกงสุลมือลั่น โพสต์ข้อความสะเทือนความสัมพันธ์ทางการทูต
เพราะเมื่อไม่กี่เดือนก่อน เสว เจี้ยน ก็ได้โพสต์พาดพิงถึงอิสราเอลว่า ไม่ต่างจากนาซีเยอรมัน มาวันนี้ก็ข่มขู่นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นอีก เมื่อไหร่ปักกิ่งจะทำตัวสมกับเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่ดีอย่างที่เคยพูดไว้หลายครั้ง แต่ไม่เคยทำได้ย่างที่พูดสักที
ซานาเอะ ทาคาอิจิ นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์การเมืองญี่ปุ่น ที่ก้าวขึ้นมารับตำแหน่งพร้อมคำมั่นสัญญาว่าจะพาญี่ปุ่นกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง เธอมีอุดมการณ์ชาตินิยมชัดเจน และแสดงความเห็นต่อสาธารณะอย่างตรงไปตรงมา โดยเฉพาะการกระชับสัมพันธ์กับสหรัฐอเมริกา และ ชาติพันธมิตรตะวันตกในการต่อต้านภัยคุกคามจากจีน ทำดีกรีความตึงเครียดระหว่างจีน-ญี่ปุ่น พุ่งสูงขึ้นในทันทีหลังการเข้ารับตำแหน่งของเธอ
ไม่ว่าการประกาศพร้อมส่งกำลังทหารญี่ปุ่นสนับสนุนไต้หวัน จะมีใครชักใยอยู่เบื้องหลังหรือไม่ แต่จุดยืนของผู้นำญี่ปุ่นคนปัจจุบันย่อมส่งผลต่อสถานการณ์พิพาทในทะเลจีนใต้อย่างไม่ต้องสงสัย
****************
ติดตามบทความของ "หรรสาระ" เพิ่มเติมได้ที่
Facebook - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
Twitter - @HunsaraByJeans
Blockdit - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
แพลทฟอร์มคุณภาพ ไม่ปิดกั้นการมองเห็นเนื้อหา
****************
แหล่งข้อมูล
โฆษณา