Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
หุ้นวันละตัว
•
ติดตาม
12 พ.ย. เวลา 13:35 • หุ้น & เศรษฐกิจ
M
🇹🇭
หมี ที่ราคา 29.50
ราคาปิด 12 พ.ย. 2025
หุ้นแบบนี้อ่ะนะ P/E 22 เท่า ???
ผมยังสงสัยมาถึงทุกวันนี้อยู่เลยว่า ราคาหุ้นมันขึ้นมาเยอะขนาดนี้ได้อย่างไร เพราะผมยังคงมองเหมือนเดิมว่า Fundamental ของบริษัท ไม่ได้เปลี่ยนไปเลยสักนิด
ผมสงสัยว่า ที่ราคาหุ้นขึ้นมา มาจากแรงปั่นหรือป่าว
เพราะการที่บริษัทแตกแบรนด์ใหม่ ซึ่งยังมีสาขาอยู่จำนวนน้อยมาก และยังไม่ได้ Proof เลยว่า ในระยะยาวจะส่งผลให้บริษัทพลิกสถานการณ์กลับมาได้
ผมเลยรู้สึกว่า มันไม่สมเหตุสมเลยน่ะครับ ที่ทำให้ราคาหุ้นบริษัทขึ้นมาขนาดนี้
ผมขอพูดแบบนี้นะ ในช่วงปีนี้ ผมกิน Mk บ่อยมาก น่าจะเป็นปีที่ผมกินบ่อยที่สุดในชีวิตแล้ว
นั่นก็เพราะ มันเป็นร้านที่คนไม่เต็มยังไงล่ะครับ ระหว่างกลับบ้าน คิดอะไรไม่ออก ก็เดินเข้าร้าน Mk เลย รับรองว่ามีที่นั่งแน่นอน ได้กินแบบสบายใจเพราะคนไม่เยอะดีด้วย
299 บาท เป็นบุฟเฟต์ คุ้มมากครับ หนำใจ ชอบกินเนื้อ โปะใส่ข้าวร้อน ๆ ให้ฟีลแบบกินข้าวหน้าเนื้อเลยครับ
จากที่ผมเดินผ่าน และสังเกตุมาหลายสาขา ผมค่อนข้างเชื่อว่า ต่อจากนี้ Strategy ของ Mk คือเป็นบุฟเฟต์โดยสมบูรณ์แน่เลย เพราะบางสาขา ผมเห็นมีบุฟเฟต์หลายราคาให้เลือกแล้ว กะว่าสิ้นเดือนจะไปจัดหนักจัดเต็มซะหน่อย
สำหรับผม คิดว่า Fundamental ของ Mk ในยุคนี้ ไม่ได้แข็งแกร่งเท่ากับเมื่อก่อนอีกต่อไปแล้ว
และถ้าเป็นแบบนั้น บริษัทก็ไม่ควรได้ P/E สูง ๆ แค่ 10 - 12 เท่าก็พอแล้ว
ผมล่ะไม่เข้าใจเลย ทำไมหุ้นถึงขึ้นมาเยอะได้ขนาดนี้ แต่ก็ยินดีกับคนได้กำไรครับ แม้ผมจะไม่เข้าใจว่า เหตุผลในการลงทุนจริง ๆ คืออะไรก็ตาม แต่บางทีมันอาจจะเป็นแบบนี้ครับ ถ้าหุ้นมันถูกไป ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง ลงทุนไปรอให้มันกลับมาที่มูลค่าที่แท้จริง เราก็ยังได้กำไร แม้จะเป็นบริษัทที่ไม่ได้เติบโตเลยก็ตาม
ซึ่งนี่ก็เป็นกลยุทธ์ที่ดีอีกแบบครับ ใช้ได้เหมือนกัน
จากผลประกอบการจะเห็นเลยว่า รายได้ของบริษัทเติบโตจริง แต่กำไรขั้นต้นน้อยลง นี่อาจจะหมายความว่า บริษัทเลือกใช้กลยุทธ์ Price Competitive มาสู้ศึกในช่วงที่ผ่านมา ก็คือการทำโปรโมชั่นบุฟเฟต์ราคาถูก
โดยยอมแลกกับอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับเป็น ไอ้ที่ทำมาอย่างเต็มที่ ทุ่มเทสรรพกำลังตั้งมากมาย แต่รายได้ดันโตนิดเดียว กำไรขั้นต้นของบริษัทก็ดันไม่โต แต่กลับน้อยลงอีกต่างหาก
คือรายได้โต แต่กำไรขั้นต้นลดลง ก็พูดได้เหมือนกันว่า กลยุทธ์ทำลาย GPM ของตัวเอง ให้ผลตอบแทนที่ไม่คุ้มค่าเลยครับ
ซึ่งนั่นก็นำมาสู้บรรทัดสุดท้าย คือกำไรสุทธิน้อยลงกว่าปีก่อน -33%
แต่ผมก็สงสัยเหมือนกันนะว่า ถ้าบริษัทไม่เลือกใช้กลยุทธ์แบบนี้ ซึ่งรายได้มีโอกาสจะลดลงสูงมาก และกำไรขั้นต้นก็จะน้อยลงตามรายได้นั่นแหละ
การอยู่เฉย ๆ ไม่มาทำอะไรแบบนี้ จะเป็นเรื่องที่ดีกว่าไหมนะ เพราะก็ไม่ต้องเหนื่อยฟรีแบบนี้ด้วย
แบบที่เราเห็นคือ อัดโปรโมชั่น รายได้ก็โตจริง แต่กำไรขั้นต้นดันลดลงกว่าปีก่อน ทั้งที่ปีที่แล้วยังไม่มีอะไรแบบนี้เนี่ยสิ มันหมายความได้แบบไม่มีอะไรให้อวยเลยว่า "สิ่งที่ทำมา ช่างสูญเปล่าเหลือเกิน"
ผมชอบมีมเมื่อ 10 กว่าปีก่อนนะ ผมว่ามันฮาดีอ่ะ
"มีความพยายาม แต่ก็ยังอ่อนหัด"
เพิ่มเติม ผมเพิ่งคิดได้เมื่อกี้เลยนะ ผมเรียกวิธีการแบบนี้ว่า
"ฉลาดสุด ๆ กลยุทธ์ทำลายตัวเอง ตึ่งโป๊ะ"
1 บันทึก
6
1
6
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย