4 ชั่วโมงที่แล้ว • ความคิดเห็น
เรื่องราวของกรรมที่บันทึก การใช้อารมณ์กรรม กายวาจาใจ ต่างๆนั้น มีการบันทึก จดจำลงไปที่ธาตุทั้งสี่ เช่น ชาตินี้ เราตีเค้า ด่าเค้า .เมื่อมาชาติต่อไป มาเจอะเจอกัน ก็มีการชดใช้ เค้าก็มาตีเร่า ด่าเราบ้าง เหมือนที่เราเคยทำไว้ เป็นกงกรรมกงเกวียนกำเกวียน เคยทำให้เค้าทุกข์ เค้าก็มทำให้เราทุกข์บ้าง .เวลาทำเค้าได้ ..ชอบใจ สมน้ำหน้า ..เวลาถูกเค้าทำบ้าง ก็ทุกข์เสียใจ
มีเรื่องเจ้านายกับคนขับรถ พอเจ้านายขึ้นรถ ก็สังคนขับรถ อย่างงั้นอย่างนี้ ขับไมถูกใจ .บางที่อารมณ์เสียจากไหนมา ค้างคา ก็มาลงที่คนขับรถ .. .เราก็ดู .แหมไอ้คนขับรถนี่ มันทนจริง .
อ้อ..มันทนใช้กรรม เมื่อก่อนเป็นเจ้านาย ไอ้เจ้านายเมื่อก่อนเป็นคนขับรถ พอชาตินี้ก็เปลี่ยนตำแหน่งกันสลับตำแหน่งกัน .ไอ้ขนเคยขับรถมาเป็นเจ้านาย ไอ้เจ้านายมาเป็นคนขับรถ
มาดูเรื่องราวของพระองคุลีมาร ขนาดชาติสุดท้าย ท่านก็มีเศวษของกรรม จิตที่รู้ว่า .
มีกรรมกับพระองคุมาลี เคยทำร้ายพระองคุลีมาร สมัยที่เกิดเป็นเต่า เค้าก็รีบลงมาเกิดให้พระองคุลีมารฆ่า .เพราะว่า พระองคุลีมาร จะเกิดมาเป็นชาติสุดท้าย ไม่เกิดอีกแล้ว หากไม่รีบเกิดมาชดใช้ ให้องคุลีมารฆ่า บัญชีกรรมนี้ กตืดค้าง อยู่กับธาตุทั้งสี่ ที่เป็นเสมือนดินฟ้าอากาศ
เมื่อองคุลีมารชำระล้าง เคลียร์บััญชีดรรม เรียบร้อย ท่านถึงได้พยพระพุทธเจ้า แล่วก็ขอบวช จนบุญพระอรหันต? ยุติการเกิดได้ และด้วยบุญกุศลบารมี ที่พระองคุลีมาร ชำสะสางกรรม บุญบารมีที่ท่านสะสมมาเต็มที่ ก็ส่งจิตที่เกิดมาชำระสะสางกรรม ให้ไปเกิดในสถานที่ดีๆ ทั้งนั้น นั้นก็เป็นเรื่องราวที่เศษของกรรม ที่ติดอยู่กับธาตุทั้งสี่ แล้วชาติสุดท้าย ต้องขัดสี ธาตุทั้งสี่ให้เป็นแก้ว ปราบศมลทิน ปราศจาก ที่ต้องนำพาให้มาเกิดอีก
พระกัสสป ..ชาติสุดท้าย ท่านก็มีเรื่องราว ที่อดีตชาติ เคยยุ่งเดียวเรื่องราวของไสยศาสตร์ ใช้ไปทพร้ายทำลายผู้อื่น ไปทำให้คนอื่นเค้าลุ่มหลง ท่านก็ต้องมาชดใช้ กรรมทุกข์ทรมานแสนสาหัส กว่าจะหมดทุกข์ บรรลุเป็นพระอรหันต์ ท่านแก่เฒ่าชรา คลานจงกรม เลือดไหลนอง คมหิน .คมไม้ บาดลึกเป็นแผลถึงกระดูก .(เราก็ฟัง พระท่านเล่าให้ฟัง ท่านบอกว่า หาเอาภาพนั้นมาให้ดูได้ .ก็จะน้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัวเลย)
เรื่องราวของกรรมนั้น มันสลับซับซ้อน เพราะเราเข้าไปไม่ถึง ในสิ่งที่เรียกว่า กรรมอดีตที่สะสมมา .เมื่อได้มีกายเป็นมนุษย์ เค้าก็ชี้ทางให้สร้างบุญกุศล คัดเอ้าท์กรรมออกไป มำให้กรรมนั้นละลายออกไป ทำอย่างไร .ก็อาศัยรอยทั้งสี ..มากระทำขึ้น ..แต่นั้นแหละ หากเราอดีตเร่ไม่ได้สะสมนิสัยมา ก็ยากที่จะปฏิบัติ ละลายกรรมที่อยู่กับธาตุทั้งสี่ให้เกิด .การอโหสิกรรม
เรื่องของเวรกรรม ที่เค้าว่า อารมณ์กรรมตัวกระทำไม่ได้สูญหายไปไหน ..ธาตุทั้งสี่บันทึกไว้ให้หมด เป็นสักขีพยาน .เคยไปเกิดที่ไหน เป็นสัตว์เปรตอสุรกาย หณือ เคยเกิดเป็นเทพยดาอินทร์พรหม ธาตุทั้งสี่ก็บันทึกไว้ให้
แม้ผู้ที่มีหูฟังตาทิพย์ ท่านก็กลัวการเกิด เกิดแต่ละครั้ง มันเสี่ยงทาย เผลอสติ ไปตามอารมณ์ โมโห เกลียดชัง อิจฉาตาร้อน ..ไม่พอใจ อะไรต่างไปเรื่อย แก้ไขไม่ได้ ก็ลงนรก .กลับที่เก่าไม่ได้ เคยมีสุขยาวนาน ก็ไปจมอยู่กับทุกข์ยาวนาน ที่มาอาศัยกายมนุษย์เพียงไม่กี่ปี่ เอาแค่แปดสิบ สังขารก็ เสื่อม ใช้งานไม่ได้ดังใจแล้ว
แล้วการจะแก้ไขสร้างบุญกุศล ปฏิบัติหนีเวรกรรม มันทำได้ตอนที่ ร่างกายแข็งแรง มีอาการครบสามสิบสอง แก่าเฒ่าชรา จะมายืนเดิรนั่งนอนไม่คิดอะไรเลย มันเป็นไปไม่ได้ ฝืนอารมณ์นึกคิดไม่หรอก เพราะใช้จนเคยชิน สะสมบันทึกกรรมทาสีดำสีม่วงลงไปที่ธาตุทั้งสี่มาทั้งชีวิต มันฝีนอารมณ์กรรมในตัวตนไม่ได้เลย จิตก็ถูกปิด ก็เหมือนจ้ตทั่วไปที่ได้กายมาเป็นมนุษย์ ออกจากกายก็ไปทุกข์ยาวนาน ..ไม่กลัวเกรงกรรม ก็สมน้ำคนที่เค้ามาทำให้ทุกข์ร้อน .ก็คล้องกรรมจองเวรกรรมกันไป แล้วก็ต้องมาขดใช้กันอีก .เพราะหลักฐานมีอยู่ที่ธาตุทั้งสี่
โฆษณา