9 ชั่วโมงที่แล้ว • ความคิดเห็น
จิตมีกรรม เคยเป็นจิตมนุษย์ ก็ไปอาศัยสังขารสัตว์ เป็นชาติหนึ่ง .พบเห็นได้ด้วยสายตา .รูปสัตว์สี่ขา หางยาวๆ เป็นสังขารให้รองรับ จิตที่สะสมกรรมมาให้ไปอยู่อาศัย สังขารสัตว์ ..มันเจ็บปรวยก็ช่วย เหล่อเอื้อเฟื้อ เกื้อกูล รักษากายที่เจ็บป่วยไม่ได้ เจ็บป่วยก็รอความตาย ไม่สามารถจะใช้สังจารมาทำเรื่องราวดีๆได้ หากินไปตามสัญชาตญาณชองรูป
เราก็ไปดูรูปสัตว์ เอ มันมีสองตา สองหู สองรูจมูก หนึ่งปาก มัมีคล้ายมนุษย์มี สองตา สองหู สัตว์บางตัว มันก็ฟังมนุษย์ ฟังเสียงมนุษย์ได้ ยอกให้ทำอะไมันก็ทำตามได้ เอ..มีนจิตที่เคยเป็นมนุษย์ที่ไปเกิดเป็นสัตว์มั้ยเนี่ย
รูปมนุษย์นั้นดีหน่อย ประเสริฐกว่าสัตว์ สามารถใช้มาเรียนเรื่องต่างได้ ทำดีก็ได้ ทำชั่วก็ได้ ใช้วาจาด่าว่า หรือ ชมเชยก็ มีสติปัญญาที่จะใช้พิมพ์เหตผลต่างได้ รู้จักพระคุณ่พอแม่ได้ ส่วนสัตว์..มันรู้จักพ่อแม่ไม่ได้ มาทำเรื่องราวกตัญญูรู้คุณ ทำไม่ได้
พระอานนท์ท่านเล่า ว่่า ชาติหนึ่ง ท่านเกิดเป็นคน เห็นคนทำบุญทำทาน ก็ไปติเตียนเค้า วพอท่านละจากกายมนุษย์ไป ท่านก็ไปเกิดเป็นควาย ด้วนอานิสงส์ที่ไปติเตียน ผู้ที่ทสร้างบุญกุศล เพราะกรรมที่ไม่รู้..โง่เหมือนควาย ท่านจึงได้รับอานิสงส์นั้น ไปเกิดเป็นควาย ..แหม..ไม่น่าเป็นไปได้เลยนิ
นี่พระท่านเล่าให้ฟัง เราก็จำๆมาเล่าต่อ ท่านยังบอก ว่า บอกตัวเองซิ ว่า ข้าพเจ้าไม่ใช่คนโง่ .มีสติปัญญา..พิจารณาเหตุผลอะไรได้ ฟังแล้วอย่าเขื่อ ไปปฏิบัติขึ้นมา .ให้รู้จักจากจิตของตนเอง .จิตของตนเอง จะได้คำตอบ ว่าเมื่อเปลี่ยนกาย นั้นจะได้สังขารเป็นรูปอะไร .
โฆษณา