15 พ.ย. เวลา 03:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

เปิด 5 ประเด็นหลักการหารือ Article IV ของ IMF ต่อเศรษฐกิจไทย

คณะเจ้าหน้าที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) นำโดยนายปีเตอร์ บรอยเออร์ ได้จัดประชุมปรึกษาหารือตาม Article IV ปี 2568 กับประเทศไทย ระหว่างวันที่ 30 ต.ค. ถึงวันที่ 13 พ.ย. 2568 เมื่อสิ้นสุดการหารือ นายบรอยเออร์ได้ออกแถลงการณ์ดังนี้
📌 เศรษฐกิจไทยเผชิฐปัญหารอบด้าน
“เศรษฐกิจไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายที่เพิ่มขึ้น ทั้งปัญหาเชิงโครงสร้างที่มีมายาวนานและผลกระทบจากการระบาดของโควิด 19 รวมถึงหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงซึ่งส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจมาเป็นระยะหนึ่ง ความเปราะบางเหล่านี้ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นจากปัจจัยใหม่ อาทิ ผลกระทบจากอัตราภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ แม้จะปรับลดลงจากที่ประกาศไว้ในเบื้องต้นที่ 36% เป็น 19%
ก็ยังส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเศรษฐกิจไทย นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยเพิ่มเติมจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลง และความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศ"
📌 บริโภคเอกชน หดตัวต่อเนื่อง
“ในครึ่งแรกของปี 2568 เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ที่ 3% ดีกว่าที่ประเมินไว้ โดยมีแรงสนับสนุนจากการส่งออกที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งสะท้อนถึงการเร่งส่งออกสินค้าก่อนที่สหรัฐ จะปรับขึ้นภาษี อย่างไรก็ดี การบริโภคภาคเอกชนขยายตัวชะลอลงต่อเนื่อง ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนเริ่มฟื้นตัวในไตรมาสที่ 2 หลังจากหดตัวติดต่อกันสี่ไตรมาส ในส่วนของภาครัฐ การบริโภคและการลงทุนเติบโตขึ้นอย่างมากในครึ่งแรกของปี 2568 จากการใช้จ่ายที่ต่ำกว่ากรอบงบประมาณที่กำหนดไว้ในปีงบประมาณ 2567 จากความล่าช้าของการอนุมัติงบประมาณในปีก่อนหน้า
“ทั้งนี้ คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะชะลอตัวลงในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 และต่อเนื่องถึงปี 2569 โดยคาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) จะเติบโตที่ 2.1% ในปี 2568 และ 1.6% ในปี 2569 สำหรับการส่งออกมีแนวโน้มชะลอตัวลงหลังจากที่เร่งไปก่อนการขึ้นภาษี ประกอบกับอุปสงค์จากสหรัฐ ที่ลดลง และผลจากภาษีศุลกากรที่สูงขึ้น นอกจากนี้ คาดว่าสภาวะการเงินที่ตึงตัวจะส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ในประเทศ ส่วนอัตราเงินเฟ้อคาดว่าจะยังอยู่ในระดับต่ำ โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยอยู่ที่ -0.1% ในปี 2568 และ 0.4% ในปี 2569
โฆษณา