Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Top Ranking
•
ติดตาม
25 พ.ย. เวลา 14:16 • การศึกษา
นอนน้อยแต่นอนนะ หยุดทำร้ายร่างกายด้วย 10 วิธีปรับนาฬิกาชีวิตให้ตื่นมาสดชื่นทันที
เคยไหม? ปากบอกว่า "ไหว" แต่ร่างกายบอกว่า "ไม่". วลีฮิต "นอนน้อยแต่นอนนะ" อาจฟังดูตลกขบขัน แต่ในระยะยาว พฤติกรรมนี้คือการทำร้ายระบบการทำงานของร่างกายอย่างรุนแรง โดยเฉพาะสิ่งที่เรียกว่า "นาฬิกาชีวิต" (Circadian Rhythm)
เมื่อนาฬิกาชีวิตรวน คุณจะไม่ใช่แค่ "ง่วง" แต่ระบบฮอร์โมน การย่อยอาหาร และการซ่อมแซมเซลล์จะพังไปด้วย มาหยุดวงจรซอมบี้ แล้วรีเซ็ตระบบร่างกายใหม่ด้วย 10 วิธีที่ทำแล้วเห็นผลจริงกันครับ
1. รับ "แสงแดด" ทันทีที่ตื่นนอน
แสงแดดคือสัญญาณที่ทรงพลังที่สุดในการบอกสมองว่า "เช้าแล้ว" การออกไปรับแสงแดดอ่อนๆ เพียง 15-30 นาทีหลังตื่นนอน จะช่วยหยุดการหลั่งฮอร์โมนเมลาโทนิน (ที่ทำให้ง่วง) และกระตุ้นคอร์ติซอล (ให้ความตื่นตัว) ตามธรรมชาติ
Tip: เปิดม่านทันทีที่นาฬิกาปลุกดัง หรือเดินออกไปสูดอากาศที่ระเบียง
2. ตั้งเวลาตื่น "เวลาเดิม" ทุกวัน (แม้แต่วันหยุด)
การนอนตื่นสายในวันหยุด (Social Jetlag) ไม่ได้ช่วยชดเชยการอดนอน แต่กลับทำให้ร่างกายสับสนยิ่งกว่าเดิม หากคุณตื่น 7 โมงเช้าวันจันทร์-ศุกร์ ก็ควรตื่นใกล้เคียงเวลาเดิมในวันเสาร์-อาทิตย์ เพื่อตรึงนาฬิกาชีวิตให้นิ่ง
3. กฎเหล็ก: งดคาเฟอีนหลังบ่าย 2
กาแฟแก้วโปรดอาจมีฤทธิ์ตกค้างในร่างกายได้นานถึง 6-8 ชั่วโมง แม้คุณจะหลับได้ แต่คุณภาพการนอน (Sleep Quality) จะลดลง คุณจะหลับไม่ลึกและตื่นมาเพลีย
ดื่มได้: ช่วงเช้า - เที่ยง
งด: หลัง 14:00 น. เป็นต้นไป
4. เปลี่ยนห้องนอนให้มืดสนิทและเย็นฉ่ำ
อุณหภูมิร่างกายที่ลดลงเล็กน้อยจะช่วยให้หลับได้ลึกขึ้น อุณหภูมิที่เหมาะสมที่สุดคือประมาณ 23-25 องศาเซลเซียส และต้อง "มืดสนิท" เพราะแสงไฟเพียงเล็กน้อยก็รบกวนการหลั่งเมลาโทนินได้
5. บอกลา "แสงสีฟ้า" 1 ชั่วโมงก่อนนอน
แสงสีฟ้าจากมือถือ แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์ หลอกสมองเราว่า "นี่ยังเป็นเวลากลางวัน"
วิธีแก้: ตั้งกฎ No Screen Time ก่อนนอน 1 ชม. แล้วเปลี่ยนไปอ่านหนังสือกระดาษ หรือฟัง Podcast ผ่อนคลายแทน
6. อย่าทานมื้อดึก (Late Night Meal)
การกินอิ่มจัดก่อนนอนทำให้ร่างกายต้องทำงานหนักเพื่อย่อยอาหาร แทนที่จะได้พักผ่อนเพื่อซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ แถมยังเสี่ยงกรดไหลย้อนที่ทำให้คุณตื่นกลางดึก ควรเว้นระยะอาหารมื้อสุดท้ายอย่างน้อย 3 ชั่วโมงก่อนนอน
7. งีบได้ แต่อย่านาน (Power Nap)
ถ้าระหว่างวันไม่ไหวจริงๆ ให้งีบหลับได้ แต่ต้องทำอย่างถูกวิธี:
ระยะเวลา: ไม่เกิน 20 นาที (เพื่อไม่ให้เข้าสู่ภาวะหลับลึกแล้วตื่นมามึน)
เวลา: ไม่ควรงีบหลัง 15:00 น.
8. สร้าง "Sleep Ritual" (พิธีกรรมก่อนนอน)
ฝึกสมองให้จำว่า "ถ้าทำสิ่งนี้ = จะนอนแล้วนะ" เช่น การอาบน้ำอุ่น การยืดเหยียดเบาๆ (Yoga for sleep) หรือการดมกลิ่นลาเวนเดอร์ เมื่อทำซ้ำๆ ร่างกายจะปิดสวิตช์ตัวเองได้เร็วขึ้นโดยอัตโนมัติ
9. เตียงมีไว้สำหรับ "นอน" เท่านั้น
อย่าทำงาน กินข้าว หรือดูซีรีส์บนเตียง เพราะสมองจะเชื่อมโยงเตียงกับกิจกรรมที่ตื่นตัว หากนอนไม่หลับเกิน 20 นาที ให้ลุกออกจากเตียงไปทำกิจกรรมผ่อนคลายที่อื่นจนกว่าจะง่วง แล้วค่อยกลับมานอน
10. หยุดกดปุ่ม Snooze เด็ดขาด!
การกดเลื่อนนาฬิกาปลุกทำให้การนอนรอบสุดท้ายขาดตอน (Fragmented Sleep) การหลับๆ ตื่นๆ ในช่วง 10 นาทีนั้นไม่ได้ช่วยให้พักผ่อนเพิ่ม แต่ทำให้เกิดภาวะ Sleep Inertia หรืออาการ "เมาขี้ตา" ที่จะทำให้คุณมึนหัวไปครึ่งวัน
เริ่มต้นคืนนี้ เพื่อเช้าที่ดีกว่า
การปรับนาฬิกาชีวิตไม่ได้เกิดขึ้นในคืนเดียว ร่างกายอาจใช้เวลา 3-7 วันในการคุ้นเคยกับตารางใหม่ แต่ถ้าคุณทำตาม 10 ข้อนี้อย่างเคร่งครัด รับรองว่าคำว่า "ตื่นมาแล้วสดชื่นเหมือนเกิดใหม่" จะเป็นเรื่องจริงที่คุณสัมผัสได้ทุกวัน
เลิก "นอนน้อยแต่นอนนะ" แล้วเปลี่ยนเป็น "นอนพอและนอนดี" กันเถอะครับ!
การศึกษา
ความรู้รอบตัว
สาระน่ารู้
2 บันทึก
5
3
2
5
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย