Apple จ่อผงาดเบอร์ 1 ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนโลก
แซง Samsung ครั้งแรกในรอบ 14 ปี โบรกฯ ชูพื้นฐานแกร่ง ยังแนะสะสมต่อ
Apple ส่งออกสมาร์ทโฟนแซง Samsung ก้าวขึ้นแท่นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอันดับ 1
Apple กลายเป็นประเด็นใหญ่ของวงการสมาร์ทโฟนในปี 2025 หลังจากรายงานของ Counterpoint Research ระบุว่า ปีนี้ Apple มีแนวโน้มจะส่งออก iPhone สูงถึง 243 ล้านเครื่อง ซึ่งมากกว่า Samsung ที่คาดส่งออกประมาณ 235 ล้านเครื่อง ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 14 ปีที่ Apple ได้ก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนเบอร์หนึ่งของโลกในแง่จำนวนเครื่องที่ส่งออก
โดยแรงส่งสำคัญมาจากกระแสตอบรับของ iPhone 17
ซึ่งยอดขายในสหรัฐฯ ในช่วง 4 สัปดาห์แรกเติบโตขึ้นกว่า 12% เมื่อเทียบกับ iPhone 16 ขณะที่ยอดขายในจีน โตถึง 18% นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยเรื่อง “รอบการเปลี่ยนเครื่อง” ของผู้ใช้งานจำนวนมากที่ซื้อโทรศัพท์ช่วงโควิดและกำลังเปลี่ยนเครื่องใหม่ในปี 2025–2026 รวมถึงการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นราคาย่อมอย่าง iPhone 17e ที่ช่วยให้ Apple ขยายฐานลูกค้าในตลาดเกิดใหม่ได้มากขึ้น
ผลประกอบการ Apple ในไตรมาส 4/2025 ความโดดเด่นกว่าคาด
โดยบริษัทประกาศรายได้รวม 102.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดใหม่ และกำไรต่อหุ้น (EPS) อยู่ที่ 1.85 ดอลลาร์ สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ จุดแข็งสำคัญของ Apple มาจาก (1) ธุรกิจบริการ (Services) ซึ่งมีโครงสร้างรายได้แบบที่เกิดขึ้นซ้ำ (recurring) ไม่ผันผวนเหมือนยอดขายฮาร์ดแวร์ และ (2) ความแข็งแกร่งของ ecosystem ที่ทำให้ผู้ใช้งานมีโอกาสน้อยที่จะเปลี่ยนไปใช้แบรนด์อื่น
ในด้านความเห็นโบรกเกอร์ชั้นนำระดับโลก สะท้อนถึงทั้งมุมมองบวกและความกังวล ผสมกันไป
Goldman Sachs ยังคงแนะนำ “ซื้อ (Buy)” หุ้น Apple โดยเดือนกันยายน 2025 ให้ราคาเป้าหมายที่ประมาณ 266 ดอลลาร์ พร้อมระบุว่า รายได้จาก App Store และบริการต่างๆ ของ Apple ยังคงเติบโตแข็งแกร่ง แม้ว่ายอดขาย iPhone บางภูมิภาค อย่างเช่นจีนจะผันผวนบ้างก็ตาม
ซึ่งก่อนหน้านี้ในเดือนกรกฎาคม 2025 Goldman Sachs ก็ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” อีกครั้งด้วยราคาเป้าประมาณ 253 ดอลลาร์ โดยมองว่าแม้ภาพรวมสมาร์ทโฟนจะชะลอ แต่ Apple ก็ยังแข็งแกร่งกว่าคู่แข่งอย่างชัดเจน
ฝ่ายวิจัย FSSIA (Finansia Syrus Securities) ออกบทวิเคราะห์ในเดือนพฤษภาคม 2025 ให้ความเห็นในเชิง “ระมัดระวังแต่มั่นใจในพื้นฐาน” โดยชี้ว่า ธุรกิจบริการมีความแข็งแรงอย่างมาก แต่ยอดขาย iPhone ในบางภูมิภาค เช่น จีน อาจเผชิญแรงกดดันจากการแข่งขันและภาษีนำเข้า ซึ่งถือเป็นความเสี่ยงภายนอกที่ต้องจับตา แต่ถึงแม้จะมีแรงกดดันเหล่านี้ FSSIA ยังคงมองว่าโครงสร้างรายได้ของ Apple โดยรวมถือว่าแข็งแรงมาก
ทั้งนี้ ภาพรวมความเห็นของนักวิเคราะห์จาก Wall Street ราว 37 รายยังคงอยู่ในระดับ “Moderate Buy” โดยมีราคาเป้าหมายเฉลี่ยประมาณ 278 ดอลลาร์ ขณะที่ราคาเป้าหมายสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 345 ดอลลาร์ ซึ่งสะท้อนว่าตลาดยังคงให้มุมมองบวกกับ Apple ในระยะกลาง แต่ก็ยอมรับว่ามีความไม่แน่นอนในด้าน valuation และการแข่งขันในตลาดสมาร์ทโฟนระดับบน
สำหรับนักลงทุน Apple ยังคงเป็นหุ้นที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความมั่นคงควบคู่ไปกับการเติบโต
แม้หุ้นเทคโนโลยีอื่นๆ โดยเฉพาะในกลุ่ม AI จะให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า แต่ก็มีความผันผวนมากกว่าด้วย ในทางตรงกันข้าม Apple มีจุดแข็งด้านแบรนด์, ecosystem, รายได้ recurring และงบดุลที่แข็งแรง ทำให้ยังเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยกว่า ในกลุ่มเทคขนาดใหญ่
อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงที่ต้องติดตามคือยอดขายในจีน, การแข่งขันจากมือถือราคาย่อมในตลาดเกิดใหม่, และระดับราคา (P/E) ที่ค่อนข้างสูง ซึ่งอาจจำกัด upside บางส่วนในระยะสั้น
ด้วยภาพรวมทั้งหมดนี้ หากเป็นนักลงทุนระยะกลาง–ยาว (1–3 ปี) การ ทยอยสะสม (DCA) หุ้น Apple ยังคงเป็นกลยุทธ์ที่เหมาะสมที่สุด เพราะโครงสร้างรายได้มีความมั่นคงและบริษัทมีความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดสูง ขณะที่สายเก็งกำไรระยะสั้นอาจรอจังหวะ “ตลาดย่อ” รอบผลประกอบการหรือรอบข่าวลบเกี่ยวกับยอดขาย iPhone เพื่อเข้าซื้อที่ระดับราคาที่น่าสนใจกว่า
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
