28 พ.ย. เวลา 10:40 • ปรัชญา

watthakhanun

สำหรับวันพรุ่งนี้จะเป็นวันสำคัญที่สุดวันหนึ่งของการศึกษาคณะสงฆ์ ก็คือการสอบธรรมศึกษาของเด็กนักเรียน โดยเฉพาะพวกเราที่ต้องดูแลหลายโรงเรียนด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนทองผาภูมิวิทยา ซึ่งมีห้องสอบ ๒๑ ห้อง เราต้องมีพระไปกำกับห้องสอบ ๒๑ รูป รวมกระผม/อาตมภาพก็ ๒๒ รูป แล้วไหนจะโรงเรียนอนุบาลทองผาภูมิ โรงเรียนบ้านจันเดย์ โรงเรียนสมาคมป่าไม้แห่งประเทศไทยอุทิศ ซึ่งต้อง
ใช้พระภิกษุสามเณรของเราทั้งนั้น
ดังนั้น..ท่านทั้งหลายที่มีประสบการณ์แล้วก็ดี จบนักธรรมชั้นเอกแล้วก็ตาม ต้องเลือกคุมห้องธรรมศึกษาเอกเอาไว้ก่อน หลังจากนั้นค่อยลงไปห้องธรรมศึกษาโท จนกระทั่งหมดแล้วถึงเอาพระใหม่ไปคุมธรรมศึกษาตรี
สิ่งแรกที่ทุกคนต้องทำก็คือ เมื่อได้บัญชีรายชื่อเข้าห้องไปแล้ว ลองสุ่มเรียกสัก ๔ - ๕ คน เพราะว่าบางทีเราก็เข้าห้องผิด บางทีเด็กก็เข้าห้องผิด ก็คือไม่ดูตาม้าตาเรือว่าชื่อของตัวเองอยู่ตรงไหน เพื่อนเข้าห้องนี้ กูก็จะเข้าด้วย..! แล้วส่วนที่ต้องระมัดระวังที่สุดก็คือ เมื่อเด็กส่งข้อสอบต้องให้เซ็นส่งทุกครั้ง อย่าให้มีชื่อเซ็นไว้แล้วไม่มี
ข้อสอบ หรือมีข้อสอบแต่ไม่มีชื่อเซ็นก็ยังพอทน เพราะว่าไปตามตัวมาเซ็นทีหลังได้
ปัญหาใหญ่อีกปัญหาหนึ่งก็คือ เด็กสอบเช้าแล้วบ่ายกลับบ้าน ไม่สอบต่อ หรือเด็กมาสอบช่วงบ่าย แล้วช่วงเช้าไม่ได้สอบ พวกนั้นกระผม/อาตมภาพจะจัดการเอง
เพราะว่าต้องดึงทิ้งทั้งหมด เนื่องจากว่าสอบไม่ครบตามรายวิชา ถ้าหากว่าสอบไม่ครบหรือว่าขาดสอบ ผู้กำกับห้องสอบกรุณาอย่าได้ไปเขียนในช่องเซ็นชื่อว่า "ขาดสอบ" เป็นอันขาด ปล่อยว่างเอาไว้อย่างนั้น ถึงเวลาเขามีวิธีจัดการ ก็คือต้องขีดฆ่าด้วยหมึกแดง แล้วเขียนกำกับท้ายว่าขาดสอบ ถ้าท่านไปเขียนว่า "ขาดสอบ" จะกลายเป็นลายเซ็นเด็กส่งข้อสอบ เนื่องเพราะว่าพอมองไปแล้ว ช่องไม่ได้ว่างก็คิดว่าเขามาสอบ
เป็นเรื่องที่ต้องใช้ประสบการณ์ในการทำงานค่อนข้างมาก แล้วพระใหม่ของเราบางทีก็ไม่เข้าใจ ก็มีการทำผิดทำพลาด โดยเฉพาะเมื่อรับรายชื่อเด็กของห้องนั้นไปแล้ว ให้เซ็นชื่อกรรมการกำกับห้องสอบไว้ ทั้งหน้าแรกและหน้าสุดท้าย ส่วนใหญ่มักจะเซ็นหน้าแรกหน้าเดียว และที่สำคัญก็คือวิชาธรรมะ พุทธะและวินัย เด็กมีเวลาน้อยมาก ๆ ก็คือ ๕๐ ข้อใน ๕๐ นาที จึงไม่ใช่เรื่องที่เราท่านทั้งหลายจะไปอ่านตัวอย่าง ก. ข. ค. ง. ให้เด็กเขารู้ปัญหาแล้วค่อยไปเลือก แบบนั้นทำได้ครึ่งหนึ่งก็ดีตายชักแล้ว..!
และที่แน่ ๆ ก็คืออย่าให้มีการทุจริตรั่วไหลอะไรหลุดออกไปเป็นอันขาด เพราะว่าเราจะไม่โดนคนเดียว แต่ตั้งแต่ประธานอย่างกระผม/อาตมภาพก็จะโดนไปกับพวกท่านทุกคนด้วย..! เป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังมากว่า อย่าได้มีการใช้สื่อโซเชียลส่งเดช แม้กระทั่งในการถ่ายคำตอบประหลาด ๆ ของเด็กแล้วก็ส่งไปหัวเราะกัน เนื่องเพราะว่าบางทีกระผม/อาตมภาพเองก็เจอมาก็ลักษณะอย่างนั้น
ข้อที่ ๑ ตอบว่า "ไม่รู้" ข้อที่ ๒ "นี่ก็ไม่รู้" ข้อที่ ๓ "นี่ก็ไม่รู้อีก" เราอาจจะเห็นเป็นเรื่องสนุกสนาน แต่ถ้าหากว่าถ่ายส่งไปเมื่อไร ก็จะกลายเป็นเราทำผิดระเบียบห้องสอบ ทำอะไรจึงเป็นเรื่องที่ต้องระวังอย่างยิ่ง เพราะว่าเดี๋ยวนี้การยกเลิกข้อความในไลน์ เขาให้เวลาแค่ชั่วโมงเดียวแค่นั้น พลาดเกินชั่วโมงเมื่อไรก็ลบไม่ได้แล้ว หรือถ้าจะลบก็ต้องเสียสตางค์ให้เขา กลายเป็นว่าปัจจุบันนี้ ถ้ามีอะไรทุจริตผิดพลาด
เล็ดลอดลงสื่อโซเชียลเมื่อไร โอกาสที่จะรู้ทั่วประเทศ หรือทั่วโลกจะมีทันที..!
อีกส่วนหนึ่งที่เหมือนดูกับทุจริตเลยก็คือ การช่วยเขียนคำยากให้เด็ก ๆ เราสามารถสะกดให้ได้ แต่ถ้ามีใครถ่ายไป ต้องอธิบายให้เขาทราบได้ด้วยว่าคุณเขียนเพื่ออะไร ต้องระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่าบางทีกรรมการจากส่วนกลางก็จะมาตรวจสนามสอบ แต่ด้วยความที่ว่าแค่อำเภอทองผาภูมิก็ ๒๐ กว่าสนามไปแล้ว กรรมการจึงมัก
จะไปไม่ทั่วถึง แล้วก็ยังดีตรงที่ว่า ถ้าจะมาเขาจะติดต่อแจ้งมาก่อน
อีกส่วนหนึ่งก็คือการเซ็นชื่อในสมุดเยี่ยม ของกระผม/อาตมภาพตำแหน่งก็คือ "ประธาน" ของพวกท่านก็คือ "กรรมการ" กระผม/อาตมภาพเจอมาแล้ว ที่เขียนว่าตำแหน่ง "พระลูกวัด" ถูกต้องตรงเป๊ะเลย แต่ควรจะโดนถีบมากกว่า..! เพราะว่าวันนั้นคุณคือกรรมการกำกับห้องสอบ เป็นเรื่องที่จะต้องระมัดระวังให้มาก อะไรไม่แน่ใจ ให้ถามรุ่นพี่ที่เขาผ่านงานมาก่อน
พรุ่งนี้จะต้องมีพิธีเปิดตอน ๘ โมงเช้า แล้วเด็กสอบตอน ๘ โมงครึ่ง เราจึงต้องงดบิณฑบาต ๑ วัน เพื่อที่จะได้ไปเตรียมการให้เรียบร้อย กระผม/อาตมภาพเองก็ต้องให้โอวาท ต้องอ่านสาส์นจากแม่กองธรรมสนามหลวง แล้วถึงปล่อยเด็กให้เข้าห้อง เวลาแค่ ๓๐ นาทีนี่แทบจะทำอะไรไม่ทัน เราก็จะได้รู้กันในวันนั้นเองว่าใครมีความคล่องตัวในการทำงานเท่าไร ก็ได้แต่หวังว่าจะไม่ทิ้งปัญหาให้กระผม/อาตมภาพแก้ไขอะไรมากมายอะไรนัก..!
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๘
โฆษณา