29 พ.ย. เวลา 21:25 • ปรัชญา

watthakhanun

มีอยู่ช่วงหนึ่งที่กระผม/อาตมภาพเคยปรึกษาหารือกับพรรคพวกเพื่อนฝูงว่า ถ้าเราจะเตรียมรับสถานการณ์ฉุกเฉินแบบนี้ ควรที่จะมีอะไรบ้าง ? ทุกคนออกมาในแนวเดียวกันก็คือ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค แต่มีอยู่รายหนึ่งบอกว่า "อาวุธและกระสุน" ถามว่าทำไมต้องอาวุธและกระสุน ? เขาบอกว่าถ้าถึงตอนนั้น คนอื่นเดือด
ร้อนกันหมด แล้วเราสบายอยู่คนเดียว โปรดระวังด้วย..เขาไม่มีเสบียงอาหาร แล้วเห็นว่าเรามี เขาก็จะปล้นเอา..! ตรงนี้ฟังแล้ว "น้ำตาจิไหล" อีกเหมือนกัน แม้ว่าจะเป็นการมองโลกในแง่ร้าย แต่ก็ต้องยอมรับว่าความจริงเป็นเช่นนั้น
อย่าลืมว่ามนุษย์เราก็คือสัตว์ประเภทหนึ่ง ในหมู่สัตว์นั้น ผู้ที่แข็งแรงเท่านั้นจึงจะอยู่รอด ทำให้นึกถึงบาลีที่ว่า อาหาระนิททัง ภะยะเมถุนัญจะ สามัญญะเปตัปปะสุภีนะรานัง
อาหาร คือ การกิน
นิททัง คือ การนอน
ภะยะ คือ ความกลัวภัย
เมถุนะ คือ การเสพกาม
สามัญญะเปตัปปะสุภีนะรานัง ก็คือ เป็นสิ่งที่เสมอกันทั้งคนและสัตว์ทั้งหลาย
ธัมโมหิ เตสัง อะธิโก วิเสโส ธรรมเท่านั้นที่ทำให้เกิดความแตกต่างกันไป
ธัมเมนะ วีณา ปะสุภิสสะมานา ดังนั้น..ธรรมจึงเป็นเครื่องจำแนกคนและสัตว์ทั้งหลายออกจากกัน
ก็แปลว่ามนุษย์เราถ้าไม่มีศีลไม่มีธรรม ก็เหมือนกับสัตว์ดี ๆ นี่เอง กิน ถ่าย นอน สืบพันธุ์ แล้วก็แย่งชิงทรัพยกรกัน รบราฆ่าฟันจนตายกันไปนับไม่ถ้วนตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน ที่มีผู้รู้เขาสรุปเอาไว้ว่า "แย่งอาหารกิน แย่งถิ่นที่อยู่ แย่งคู่สวาท แย่งอำนาจปกครอง"
ในเรื่องของการแย่งอาหาร หรือสถานที่อุดมสมบูรณ์ พอที่จะหล่อเลี้ยงคณะของตนได้ เราต้องดูบรรดาผู้ที่อาศัยอยู่ในทุ่งหญ้าทางประเทศจีนหรือมองโกเลีย ที่ต้องอพยพหาแหล่งที่อุดมสมบูรณ์อยู่ทุกปี คราวนี้ถ้าจะสร้างจะเสริมเองก็เป็นเรื่องที่ยาก ต้องอาศัยเวลานาน ก็เลยไปฉกชิงจากเผ่าอื่นที่อ่อนแอกว่า..!
แย่งถิ่นที่อยู่ก็อยู่ในลักษณะเดียวกัน ตัวอย่างที่ชัด ๆ ก็คือพวกอเมริกันแย่งที่อยู่ของอินเดียนแดง จนกระทั่งปัจจุบันนี้เจ้าของที่แทบจะไม่เหลือเผ่าพันธุ์เอาไว้แล้ว ส่วนคนไปแย่งที่อยู่เขา ทุกวันนี้ก็อ้างสิทธิมนุษยชนทุกอย่าง แต่ก็ก่อสงครามไปทุกที่เหมือนกัน..!
แย่งคู่สวาท บางทีก็เข่นฆ่ากันล้มตายเป็นร้อยเป็นพัน หรือแม้กระทั่งในครอบครัว พ่อลูกก็ฆ่ากันเอง ตัวอย่างโบราณ ๆ หน่อยก็ "เฮเลนแห่งทรอย" ศึกกรุงทรอยที่รบกันแทบเป็นแทบตาย เกิดจากผู้หญิงคนเดียว จนกระทั่งมี "ม้าโทรจัน" ซึ่งทำให้สามารถตีกรุงทรอยแตกได้ หรือไม่ก็มายุคสมัยต่อมาอย่าง "หยางกุ้ยเฟย" เป็นภรรยาของพ่อแล้วต้องไปเป็นภรรยาของลูก แทบจะรบราฆ่าฟันกันเองในครอบครัวก็เพื่อผู้หญิงคนเดียว..!
ข้อสุดท้าย แย่งอำนาจปกครอง ดูบ้านเราก็รู้เรื่อง โดยเฉพาะนักการเมือง เขาถือว่าไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร เนื่องเพราะว่าเพื่อให้ได้อำนาจมา สามารถที่จะผสมพันธุ์กับทุกพรรคได้ ไม่ต้องไปสนใจว่าแนวทางหรือนโยบายพรรคจะไปกันได้หรือไม่ ? สนใจอยู่อย่างเดียวว่าจะได้ประโยชน์เท่าไร ? หรือว่า จะรักษาอำนาจไว้ได้หรือไม่ ?
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๘
โฆษณา