48 นาทีที่แล้ว • ธุรกิจ

ปปง. มีมติยึดทรัพย์ มูลค่า 10,000 ล้าน ของเครือข่ายสแกมเมอร์ 1) เฉิน จื้อ 2) ก๊ก อาน 3) เบน สมิธ

คณะกรรมการธุรกรรม ปปง. มีมติยึดและอายัดทรัพย์ ที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ “ขบวนการสแกมเมอร์ (Scammer)” ซึ่งมีลักษณะเป็น องค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ รวมทั้งหมด 289 รายการ มูลค่าราว 10,165 ล้านบาท ครอบคลุมคดีสำคัญ 4 คดี
1. คดีนายเฉิน จื้อ (Chen Zhi) กับพวก : เครือข่ายไฮบริดสแกม + ฟอกเงินคริปโท
1
สำนักงาน ปปง. ตรวจพบว่าเครือข่ายนี้เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงออนไลน์, การค้ามนุษย์, การฟอกเงินผ่านสินทรัพย์ดิจิทัล
โดยมีฐานใหญ่ในกัมพูชา เชื่อมโยงไปถึง นายเฉิน จื้อ ผู้ก่อตั้งและประธาน Prince Holding Group กลุ่มธุรกิจข้ามชาติในประเทศกัมพูชา ที่ทำธุรกิจหลากหลาย ทั้งอสังหาฯ และธนาคาร
2
กลุ่มนี้ใช้วิธีฟอกเงินด้วยการสลับเงินระหว่างสกุลเงินประเทศต่าง ๆ และสินทรัพย์ดิจิทัล
อีกทั้งพบเส้นทางการเงินโยงถึงบุคคลหลายรายในเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ
2
โดยเป็นขบวนการหลอกลวงในลักษณะ “ไฮบริดแสกม” ใช้การหลอกลวงในหลายรูปแบบ หลายขั้นตอน เพื่อหลอกให้เหยื่อ โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคาร
-ผลการยึดทรัพย์
จำนวน 102 รายการ เช่น ที่ดิน, เงินสด, สินค้าแบรนด์เนม และเครื่องประดับ
มูลค่ารวมประมาณ 373 ล้านบาท
2. คดีนายก๊ก อาน (MR. KOK AN) กับพวก : ฐานใหญ่สแกมเมอร์ในกัมพูชา + ซื้อที่ดินฟอกเงิน
กรณีผู้เสียหาย น.ส.ชาล็อต ออสติน ได้ถูกคนร้ายหลอกลวงได้รับความเสียหาย
1
จนมีการเข้าจับกุม น.ส.ปาริฉัตต์ แซ่เอี๊ยว กับพวก ซึ่งเป็นผู้กระทำความผิดฐานมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติและฟอกเงิน
การสืบสวนพบว่า เครือข่ายมีศูนย์ปฏิบัติการหลายจุดในกัมพูชา เช่น อาคาร 25 ชั้น, อาคาร 18 ชั้น, อาคาร Hiso, อาคาร Crown Casino
ซึ่งมี นายก๊ก อาน สัญชาติกัมพูชา เป็นเจ้าของสถานที่
ขบวนการกลุ่มนี้ใช้ “บัญชีม้า” ด้วยการให้เจ้าของบัญชีสแกนใบหน้าเพื่อยืนยันทำธุรกรรม
เพิ่มเติมยังพบว่า เงินที่ได้จากการหลอกลวงถูกนำไปซื้อที่ดินและทรัพย์สินในประเทศไทย โดยใช้บุคคลในเครือข่ายถือกรรมสิทธิ์แทน เพื่อฟอกเงิน
-ผลการยึดทรัพย์
จำนวน 90 รายการ เช่น ที่ดิน และเงินในบัญชีธนาคาร
มูลค่ารวมประมาณ 467 ล้านบาท
3. คดีนางสาวแตงไทย บ้านมะหิงษ์ กับพวก : เครือข่ายสแกมเมอร์ + โอนเงินโยงถึง เบน สมิธ
น.ส.แตงไทย หลอกเหยื่อว่า พบข้อมูลการส่งของผิดกฎหมายจากจังหวัดเชียงราย ไปจีน และบัญชีของเหยื่อ เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน เพื่อบังคับให้เปิดเผยข้อมูลและโอนเงิน
จากเส้นทางการเงินพบว่า น.ส.แตงไทย ได้รับมอบอำนาจจัดการบัญชีของ MR. LEAK YIM (ยิม เลียก) บุคคลใกล้ชิดทายาทเครือข่ายผู้มีอิทธิพลในกัมพูชา และโยงกับเครือข่ายสแกมเมอร์ ซึ่งตรวจพบธุรกรรมโยงถึงบุคคลและบริษัทจำนวนมาก
รวมถึงการโอนเงินไปยัง MR. SMITH BEN (เบน สมิธ) กลุ่มนี้มีลักษณะโอนเงินไปมาระหว่างหลายบริษัท ทั้งในและต่างประเทศ เสมือนดำเนินธุรกิจจริง เพื่อปกปิดความผิด
รวมถึงใช้บริษัทถือครองทรัพย์สินแทนตนเองและบุคคลใกล้ชิด
2
-ผลการยึดทรัพย์
จำนวน 66 รายการ เช่น ที่ดิน, ห้องชุด, หลักทรัพย์ในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ และเงินในบัญชีธนาคาร
มูลค่ารวมประมาณ 9,279 ล้านบาท เป็นคดีที่มีมูลค่าทรัพย์สินสูงที่สุดในรอบนี้
4. คดีนายเอื้ออังกูร สันติรักษ์โยธิน กับพวก : หลอกลงทุนเทรดหุ้น ULELA Max + ฟอกเงินผ่านคริปโท
กลุ่มผู้ต้องหาได้ตั้งกลุ่มไลน์ชื่อ “กลยุทธ์การลงทุน” อ้างให้ความรู้การเทรดหุ้น พร้อมโชว์กำไรเพื่อหลอกให้เหยื่อร่วมลงทุนผ่านแอป ULELA Max
จากการตรวจสอบพบว่า เงินที่ได้จากการหลอกลวงถูกนำไป แปลงเป็นเหรียญดิจิทัล USDT โอนต่อไปยังกระเป๋าดิจิทัลต่าง ๆ เชื่อมโยงไปยังกลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติ และบริษัทสัญชาติกัมพูชา
-ผลการยึดทรัพย์
จำนวน 31 รายการ (เงินสดและเงินในบัญชีธนาคาร)
มูลค่ารวมประมาณ 46 ล้านบาท
โดยทั้ง 4 คดีเชื่อมโยงถึงกัน มีฐานปฏิบัติการในกัมพูชา ใช้วิธีฟอกเงินโดยเปลี่ยนสภาพระหว่างเงินตราและสินทรัพย์ดิจิทัล และเกี่ยวพันกับกลุ่มบริษัทสัญชาติกัมพูชา
โฆษณา