เมื่อวาน เวลา 03:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

'คมนาคม' ชง ครม.ซื้อคืนรถไฟฟ้า ยึดแนวทาง 'กรรมสิทธิเดียว' รฟม.คุม

Single Ownership เป็นแนวทางที่กระทรวงคมนาคมกำลังผลักดันให้โครงการรถไฟฟ้าที่เปิดให้บริการในปัจจุบันอยู่ในรูปแบบกรรมสิทธิเดียว เพื่อเป็นการแก้ปัญหาการบริหารจัดการค่าโดยสารจากปัจจุบันที่มีหน่วยงานรับผิดชอบรถไฟฟ้ารวม 3 หน่วยงานหลัก ประกอบด้วย
1. การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เป็นเจ้าของโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สายสีม่วง สายสีเหลืองและสายสีชมพู
2. กรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นผู้ให้สัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว และเป็นเจ้าของรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย
3. การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เป็นเจ้าของโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง
ที่ผ่านมารัฐบาลได้แก้ปัญหาค่ารถไฟฟ้าสายสีม่วงและสายสีแดงตลอดสาย 20 บาท หลังจากนั้นรัฐบาลปัจจุบันได้ปรับโครงการเป็นรถไฟฟ้าตลอดวัน 20 บาท แต่การดำเนินการดังกล่าวจำกัดเฉพาะรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสายสีแดง เพราะมีปัญหาเรื่องสัญญาสัมปทานการเดินรถ โดยสายสีน้ำเงินได้ให้บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM รับสัมปทานเดินรถและบำรุงรักษา
ขณะที่รถไฟฟ้าสายสีเขียวมี บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด หรือ BTSC รับสัมปทานโครงการช่วงหมอชิต-อ่อนนุช และช่วงสนามกีฬาแห่งชาติ-สะพานตากสิน รวมทั้งได้รับสัญญาจ้างเดินรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ภายหลังกระทรวงคมนาคมได้นำร่องจัดทำนโยบายค่าโดยสารรถไฟฟ้า 40 บาทตลอดวัน ในรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสายสีแดง
ทั้งนี้ ถือเป็นสารตั้งต้นที่จะนำไปสู่การใช้ “ระบบตั๋วร่วม” หรือ Common Ticket อย่างสมบูรณ์ในอนาคต ซึ่งจะต้องดำเนินการบริหารจัดการรถไฟฟ้าภายใต้แนวคิดบริหารรายเดียว หรือ Single Ownership
อย่างไรก็ดี กระทรวงคมนาคมได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 9 ธ.ค.2568 เพื่อพิจารณาหลักการของการบริหารรถไฟฟ้าด้วย Single Ownership ซึ่งจะโอนโครงการรถไฟฟ้าทั้งหมดมาอยู่ภายใต้การบริหารของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) รวมไปถึงโครงการรถไฟฟ้าที่เป็นสัมปทานของเอกชนด้วย
ทั้งนี้ หากจะดำเนินการโอนสิทธิการบริหารรถไฟฟ้าที่มีสัมปทานกับเอกชนกลับมาเป็นของ รฟม.จำเป็นต้องมีการเจรจาเพื่อซื้อคืนสัมปทานจากเอกชน โดยแนวทางการซื้อคืนและมูลค่าการซื้อคืนนั้น กระทรวงคมนาคมจะหารือกับกระทรวงการคลังให้เป็นผู้พิจารณาความเหมาะสม แต่เบื้องต้นได้มีการหารือกับเอกชนผู้รับสัมปทานแล้ว ไม่ได้ขัดข้องต่อแนวคิดดังกล่าว
อ่านต่อ:
โฆษณา