31 ส.ค. 2020 เวลา 23:30 • หนังสือ
สรุปหนังสือ วิธีปั้นคนแบบโตโยต้า
Toyota No Sodatekata กูญแจสู่ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่
คือการฝึกฝนให้คิดเป็น
พิเศษกว่า เพราะคนรีวิวเคยเป็นพนักงานโตโยต้า
เคยไปอยู่ที่ โตโยต้าญี่ปุ่น 2 ปี ตลอดชีวิตทำงาน
มีแต่หัวหน้าชาวญี่ปุ่นครับ ^^
สรุปโดย: SenseiPae
1
Toyota No Sodatekata
วิธีปั้นคนแบบโตโยต้า
หนา 252 หน้า ราคา 240 บาท
ไม่แพงเลยเมื่อเทียบกับวิธีคิด
ของบริษัทระดับโลก
ที่สร้างคนเก่งได้เองไม่ต้องพึ่งพาใคร
1
ไปเรียนรู้กัน
24 Apr 2019 ผู้ชายบ้ารถคนหนึ่งเดินขึ้นบนโพเดี่ยมข้างๆกายเขามีรถยนต์สีแดงคันงามจอดอยู่เขาพูดอะไรบางอย่างกับพนักงานใหม่นับร้อย
”ผมอยากให้พวกคุณทุกคนเป็นเหมือน สมบัติ (たから)
พวกเรารู้ดีว่า เสียงสะกด JINZAI (อ่านว่า จินไซ)สามารถเขียนได้หลายๆแบบ
คนแรกอาจจะเขียน JINZAI ว่า 人材 (แปลว่า ทรัพยากรมนุษย์)
คนที่สองอาจจะเขียนว่า 人財 (แปลว่า สมบัติ หรือความหมายแฝงว่าคนที่มีคุณค่า)
คนที่สามอาจจะเขียนว่า 人在 (แปล ว่า คนที่แค่มาอยู่อาศัย)
และคนสุดท้ายอาจจะเขียนว่า 人罪 (แปลว่า คนบาป)
ทั้งสี่คำนั้นผมคิดว่าพวกเราเข้าใจ ความหมายเป็นอย่างดี
วันนี้ทุกคนคือ ทรัพยากรมนุษย์ (人材)วันข้างหน้าจะกลายเป็นอะไรนั้น ขึ้นอยู่กับความพยายาม
จงเป็นคนที่ทรงคุณค่า (เปรียบเสมือนสมบัติ)
และถ้าเป็นไปได้ จงเป็นคนที่ทรงคุณค่า ต่อโลกใบนี้เช่นกัน"
เขาคือ Akio ToyodaประธานบริษัทคนปัจจุบันของToyota Motor Corporation หลายคนอาจจะสงสัยว่า
อะไรคือเคล็ดลับที่ทำให้บริษัทรถยนต์อย่าง Toyota
เติบโตได้อย่างต่อเนื่องมียอดขายดีอย่างยาวนาน
ไม่ใช่ระบบการผลิตที่โด่งดัง
ไม่ใช่เทคโนโลยีที่ล้ำเลิศ
แต่เป็นการสร้างคนเก่งได้ไม่รู้จักจบสิ้นต่างหาก
วันนี้ผมจะพาไปดูวิธีปั้นคนแบบโตโยต้ากันครับ
แถมบวกประสบการณ์ตรงให้ด้วยฮะ
เครดิต หนังสือ วิธีปั้นคนแบบโตโยต้า
Toyota No Sodatekata
สำนักพิมพ์ We Learn
หนังสือ Toyota No Sodatekata
แบ่งออกเป็น 5 บท ใหญ่ๆด้วยกัน
ทุกบท ก็เต็มไปด้วยเคล็ดลับการปั้นคนในแบบโตโยต้า
(แนะนำว่าใครที่เป็นผู้บริหาร ไม่ควรพลาดเล่มนี้)
แต่ในฐานะที่เคยเป็นทั้งคนถูกปั้น
และคนปั้นคนด้วยวิธีการนี้
ผมคิดว่ามีอยู่ 3 บทสำคัญที่น่าเอามาขยายความให้ฟัง
แนวคิดหลักในการพัฒนาคน
การใช้การแก้ปัญหาพัฒนาคน
การสร้างแรงจูงใจให้คนอยากพัฒนา
แต่ละบทจะเป็นบยังไงบ้างไปติดตามกันได้ฮะ
อาชีพหลักของผมในโตโยต้า คือวิศวกรทดสอบและประเมินประสิทธิภาพยานยนต์
แต่โชคดีได้โอกาสให้เป็น เทรนเนอร์ในบริษัทเกี่ยวกับทักษะการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ
ผมจึงเริ่มค้นพบตัวเองว่า ชอบสร้างคนมากกว่าสร้างรถยนต์
ผมเลยลองสอบถามหัวหน้าว่าจะเป็นไปได้ไหมหากผม
อยากที่จะเปลี่ยนสายงานไปทำงานด้านทรัพยากรบุคคล
คำตอบที่หัวหน้าให้คือ
ได้สิ แต่ต้องทำให้น้องที่อยู่ในทีมทำงานแทนคุณได้ก่อนนะ
ตอนนั้นผมแอบคิดในใจว่า มันคือคำปฏิเสธที่ไม่ทำให้เรา
รู้สึกผิดหวังมากจนเกินไป
แต่เมื่อกลับไปย้อนคิดดูดีๆ หัวหน้าชาวญี่ปุ่นที่เคยร่วมงานกับผมทุกคน
มักจะค่อยๆเพิ่มระดับความยากของงานทุกๆครั้งที่ผมเลื่อนตำแหน่ง
ถ้าถามว่า ผู้จัดการ หรือ ผู้บริหารในโตโยต้า
ถูกต้ดสินความเก่งกาจของเขาด้วยอะไร
แน่นอนว่าความสามารถในการบริหารจัดการให้เกิดผลลัพธ์ก็สำคัญ
แต่ที่ผมคิดและเชื่อว่าสำคัญกว่าคือ การสร้างคนให้เทียบเท่าหรืเก่งกว่าตัวเองครับ
1
เวลากรรมการบริหารเดินทางมาเยี่ยมที่ไทย
สิ่งที่ผู้บริหารเตรียมรายงาน มักจะเป็นการเล่าเรื่องแผนพัฒนาบุคลากร
มากกว่าจะเป็นเรื่องงานอย่างเดียว หรือหากจะเป็นเรื่องการพัฒนารถยนต์
คนรายงานก็จะเป็น วิศวกรเด็กๆชาวไทยอย่างผมเพื่อทำให้กรรมการบริหาร
ได้รับรู้ว่า ผู้จัดการ ฝึกฝนเด็กๆของพวกเขาได้ดีแค่ไหน
ในช่วงการทำงานปีแรก งานหลักของพนักงานใหม่คือ พัฒนาตัวเอง
ผ่านการอบรม และฝึกปฏิบัติอย่างเข้มข้น
ภาพจำของผมเมื่อเริ่มเข้าบริษัทคือ ตัวเองมีตารางอบรมล่วงหน้ากว่า 5 เดือน
และเมื่อรวมกับแผนการเดินทางไปเรียนรู้งานแบบ On The Job Training
ที่ญี่ปุ่นอีก 3 เดือน หมายความว่าในทุกวันข้างหน้า 8 เดือน ผมมีตารางชัดเจนมากกว่า
วันไหนจะทำอะไร ทดสอบเมื่อไหร และจะถูกประเมินผลด้วยอะไรบ้าง
และก็ไม่ใช่แค่ผมคนเดียว เพื่อนๆพนักงานจบใหม่อีกกว่า 60 คน
ก็มีตารางอบรมเป็นของตัวเอง (ฟังไม่ผิดครับของตัวเอง)
ด้วยความที่เรียนจบปุ๊บเข้าทำงานที่นี่เลย
สาบานว่าผมก็ไม่รู้หรอกว่า เรื่องที่เห็นเนี่ยมันสุดยอดมาก
การเรียนรู้ในช่วงหนึ่งปีแรกต้องบอกเลยว่า ทรมาน 555
เพราะทั้งเรียนภาษาญี่ปุ่น (สำหรับหน่วยงานที่วิจัยและพัฒนา)
และเรียนรู้เรื่องที่ไม่มีคนไทยสอนได้ (ผมเป็นรุ่นแรกๆ)
ผลการเรียนของผมก็ค่อนข้างย่ำแย่
ภาษาของผมก็ไม่ดีนักเมื่อเทียบกับเพื่อนๆต่างมหาวิทยาลัย
ผมสอบภาษาญี่ปุ่นผ่านแบบฉิวเฉียด จนเกือบไม่ได้ไปฝึกงาน
ที่ญี่ปุ่น แต่สุดท้ายทุกคนที่ผ่านเขาก็ให้โอกาสจริงๆ
เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่าพนักงานที่โตโยต้าคัดเลือกเขามานั้น
ทุกคนจะได้รับโอกาสในการพัฒนาตัวเองอย่างเท่าเทียมกัน
ส่วนใครจะเติบโตเป็นไม้ใหญ่ได้นั้นก็ขึ้นกับว่า
ความพยายามทุ่มเทหลังจากนั้น
ไม่ผิดจากที่ คุณ Akio Toyoda พูดไว้เลยใช่ไหมฮะ ^^
“มันจะจริงหรือ“
นี่คือคำถามที่ผมคิดในใจเมื่อได้ยินแนวคิดนี้
ในวันปฐมนิเทศและคลาสอบรมในเวลาต่อมา
เชื่อว่าหลายๆคนคงคิดเหมือนผมเช่นกัน
เวลามีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น
ถ้าเราถามว่า ใครผิด
เรามักจะไม่ได้วิธีแก้ไขที่ยั่งยืน
เพราะหากเราเปลี่ยนให้คนอื่นๆรับผิดชอบงานนี้แทน
ก็ไม่ได้หมายความว่า ความผิดพลาดแบบเดียวกัน
จะไม่เกิดขึ้นอีกครั้ง
แต่ถ้าเราถามว่า เพราะอะไร หรือ ทำไม ระบบทำงาน
ถึงปล่อยให้คนทำผิดพลาดได้
วิธีแก้ปัญหานั้นจะสามารถครอบคลุมได้กับพนักงานทุกคน
ครั้งหนึ่งในไลน์การผลิตที่มีทั้งรถยนต์ที่ผลิตเสร็จแล้วรอเคลื่อนย้าย
รถโฟล์คลิฟต์ รถขนชิ้นส่วนอัตโนมัติ
พนักงานคนหนึ่งที่ไม่ทันสังเกต ถูกรถขนชิ้นส่วนในไลน์ชนจนเกิดอุบัติเหตุ
หากผู้บริหารถามว่าใครผิด
คำตอบน่าจะเป็น พนักงานคนนั้นไม่ระวังมากพอ
หรือไม่ก็พนักงานขับรถ ประมาท
แต่วิธีแก้ของ โตโยต้า คือ ทำสัญลักษณ์ไว้ตรงทางเดิน
เพื่อให้พนักงาน หยุด และชี้นิ้ว ทุกครั้ง เพื่อเรียกสติก่อนข้ามถนน
นี่คือความหมายของการแก้ที่ระบบครับ
หมายเหตุ โดยส่วนตัวผมชอบแนวคิดนี้มาก
เพราะมันทำให้คนทำงานยังมีกำลังใจและยิ่งรู้สึกขอบคุณหัวหน้ากับบริษัทที่ยังให้โอกาสเขาได้ปรับปรุงตัว
การมีปํญหาไม่ใช่ปํญหา
แต่การไม่แก้ไขปัญหาต่างหากที่เป็นปัญหา
เห็นด้วยกับประโยคนี้ไหมครับ
หนึ่งในวลีในตำนานของ โตโยต้า
โดยคุณ Taiichi Ohno รองประธานบริษัท
ผู้เรียกได้ว่าเป็นบิดาของระบบการผลิตแบบโตโยต้า
“คนที่บอกว่าตัวเองไม่มีปัญหา คือคนที่มีปํญหามากที่สุด”
เหตุผลง่ายๆก็เพราะบริษัทจ้างพนักงานมาแก้ปัญหา
ถ้าไม่มีปํญหา ก็เท่ากับไม่มีงานให้ทำ
การแก้ปํญหาในมุมของโตโยต้า จึงเป็นเรื่องดีน่าท้าทาย
จึงไม่แปลกที่พวกเขาใส่ใจในกระบวนการการแก้ปัญหา
ร่วมไปถึงการพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาให้พนักงานด้วย
トヨタ問題解決 หรือ Toyota Business Practice
เป็นกระบวนการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบที่โตโยต้าพัฒนาขึ้น
พัฒนาต่อยอดมาจากวงจรการทำงานให้มีประสิทธิภาพ หรือ PDCA
(PLAN-DO-CHECK-ACT)
2
ประกอบไปด้วย
Step 1. ระบุปัญหาให้ชัดเจน
Step 2. แจกแจงปัญหา
Step 3. ตั้งเป้าหมาย
Step 4. หาสาเหตุที่แท้จริง
Step 5. กำหนดแนวทางแก้ไข
Step 6. ลงมือทำจนบรรลุผล
Step 7. ตรวจสอบผลลัพธ์และกระบวนการ
Step 8. สร้างมาตรฐานส่งต่อ และปรับปรุง
1
เล่าตรงนี้คงไม่หมดเพราะเขียนเป็นหนังสือ ได้ 1 เล่มเลยฮะ
ลองไปติดตามที่ผมรีวิวหนังสือ ญี่ปุ่น ไว้ได้ครับที่
Podcast
EP_12 Review หนังสือญี่ปุ่น The Toyota Way Problem Solving #1
EP_13 Review หนังสือญี่ปุ่น The Toyota Way Problem Solving #2
หรือลองติดตามใน บทความที่เกี่ยวกับทักษะการแก้ปัญหาแบบง่ายๆที่ผมปรับให้เข้ากับคนไทยได้ที่นี่ครับ
Link
พวกเราคงได้เรียนรู้จากเรื่องเล่าของคุณ Akio Toyoda ไปแล้ว่า
ภาษาญี่ปุ่นก็มีคำพ้องเสียงอย่าง JINZAI อยู่
โตโยต้าเองก็นำการพ้องเสียงของอักษรภาพ
มาใช้ในการ พัฒนาทักษะแก้ปัญหา อีกด้วย
คำนั้นคือ คำว่า มิรุ (Mi-Ru)
Miru ตัวแรก เขียนว่า 見る แปลว่า สังเกต
Miru ตัวที่สอง เขียนว่า 観る แปลว่า แก้ไข
Miru ตัวสุดท้าย เขียนว่า 診る แปลว่า รักษา
อีกเรื่องเล่าที่ที่ผมเคยเอามาเขียนถึง
ในหนังสือ Toyota Mind คิดระดับโลกคุณก็ทำได้
น่าจะอธิบายเรื่องนี้ได้ดี
คุณ Fujio Cho ผู้ซึ่งภายหลังกลายเป็นประธานบริษัท
โตโยต้าในเวลาต่อมา เล่าให้ฟังว่า คุณ Taiichi Ohno
เคยสั่งให้ยืนอยู่นิ่งๆ หน้าเครื่องจักรที่กำลังเคลื่อนไหว
แล้วถามคำถามสั้นๆว่า “เห็นอะไรบ้าง”
เมื่อไม่ได้คำตอบที่พอใจ คุณ Ohno ก็สั่งให้คุณ Cho
ยืนตรงนั้นจนกว่าจะสังเกตเห็นปัญหา
นี่คือเคล็ดลับการสอนงานที่สอดคล้องกับหลัก Toyota Way
หลายข้อ
Genchi GenButsu ปัญหาอยู่ที่หน้างาน ถ้าอยากแก้ปํญหาจงหมั่นไปที่หน้างานและสังเกตสิ่งที่เกิดขึ้น
Respect เราทุกคนมีศักยภาพ หัวหน้าโตโยต้าจะไม่บอกคำตอบจนกว่าจะถึงที่สุด
สังเกต เพื่อ ค้นหา ปัญหา
แก้ไข เพื่อให้ปัญหา หายไป
รักษา เพื่อให้ปัญหา ไม่เกิดซ้ำ
เป็นกระบวนการแก้ปัญหาง่ายๆที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ทันที
ลองเอาไปปรับใช้กับองค์กรตัวเองกันนะครับ
ปี 2014 ผมทำงานร่วมกับหัวหน้าในฝันของลูกน้องทุกคน
หัวหน้าท่านนี้เป็นคนที่ พอดี สุดๆ ไม่เร่งรัด ให้โอกาส
และมีคำตอบและตัวช่วยให้ในยามที่ต้องการเสมอ
จุดเด่นของหัวหน้าท่านนี้ที่ใครเห็นก็ต้องจำได้คือ
โต๊ะทำงาน
เวลาคุยงาน หัวหน้าจะใช้แค่กระดาษ A4
เขียนสมการ หรือ กราฟบางอย่างอธิบายให้น้องในทีมฟัง
เขียนเสร็จก็มอบให้น้องเอาไปต่อยอด
โต๊ะทำงานของท่านจึงไม่เคยรภเลย
และก่อนกลับบ้านทุกวันโต๊ะทำงานก็จะกลับไปอยู่สภาพเหมือน
ตอนเช้าอีกครั้งราวกับว่าไม่เคยมีใครมานั่งเป็นอย่างนี้ตลอด 3 ปี
ความเป็นระเบียบของโต๊ะ สะท้อนมายังการทำงานที่ชัดเจน
และความเรียบง่ายในการบริหารงานของท่าน
ถ้าจะมีใครสักคนที่ “ทำน้อยได้มาก”
หัวหน้าผม เป็นคนๆนั้นได้ครับ
ยามที่ผมรับไม้ต่อเป็นผู้จัดการ
ผมเริ่มสังเกตตัวเองว่า เมื่อใดก็ตามที่การจัดระเบียบข้าวของ
บนโต๊ะทำงานเริ่มไม่เป็นระเบียบ การสั่งงานหรือการทำงาน
ก็จะลดประสิทธิภาพตามไปด้วย
1
เลยชวนให้นึกย้อนไปได้ว่าสมัยที่อยู่ญี่ปุ่น
เวลาดูตารางทำงานของคนอื่นๆ
กว่า 80% จะใส่คำว่า 片付け (KATATSUKE)
ที่แปลว่าจัดระเบียบของใช้ไว้ด้วยเสมอ)
ยิ่งถ้าไปขอร้องให้ฝ่ายทดสอบทำงานให้
พวกเขาก็จะขอบวกเวลาทำงานสำหรับการ
จัดระเบียบข้าวของไว้ด้วยเสมอ 30-60 นาที
ในแต่ละวันทำงาน
การจัดระเบียบข้าวของจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ยิ่งใหญ่
ในการพัฒนาคนแบบโตโยต้า
ว่าแล้วก็มาจัดโต๊ะทำงานกันดีกว่าครับ^^
บริษัทที่ให้เกียรติผมไปแบ่งปันความรู้ กว่า 50% ทำกิจกรรม 5ส ด้วย
แต่พอถามว่า 5ส มีอะไรบ้างสิ่งที่ผมสัมผัสได้คือ พนักงานบางท่าน
ยังคนเน้นการท่องจำอยู่บ้าง
โดยส่วนตัวแล้ว การทำ 5ส นั้นไม่ใช่การท่องจำแต่เป็นการเข้าใจ
ถึงกระบวนการและขั้นตอนที่เชื่อมโยงกัน
เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ Fan Page Leanovative Thinking
อัลบั้มภาพ 5ส เข้าใจไม่ต้องท่องกันนะครับ (มีเขียนไว้ 2 ตอน)
หรือลองติดตามใน Website ได้เช่นกันนะครับ
#5สเข้าใจไม่ต้องท่อง
สมัยทำงานปีแรก งานส่วนใหญ่ของผมเป็นงานเปรียบเทียบรถยนต์
ของคู่แข่งในเอเชียเหตุผลหลักๆก็เพื่อให้เข้าใจวีธีการใช้งานและมุมมอง
ต่อรถของคนเอเชียที่ผู้พัฒนารถยนต์ชาวญี่ปุ่นนึกไม่ถึง
สิ่งที่หัวหน้าให้มาเพื่อทำงาน ก็มีเพียง กระดาษสรุปสิ่งที่ต้องการ
จากญี่ปุ่น 1 ใบถ้วนที่บอก เวลาและงบประมาณมาให้
ที่เหลือ แล้วแค่คุณเลย
สำหรับเด็กจบใหม่วัย 23 การถืองบประมาณราวๆ 3 ล้านบาท
และเวลาทำงานที่ต้องบริหารกว่า 1,000 ชั่วโมงนั่นสร้างแรงกดดันให้กับผมมาก
เช้าวันจันทร์ของทุกๆสัปดาห์หัวหน้าก็จะสอบถามความคืบหน้าของงาน
ที่น้องๆแต่ละคนถืออยู่ ปีแรกของการทำงานจึงเป็นปีที่ไม่ง่ายเลย
เพราะต้องเรียนรู้และลงมือทำเองทุกอย่างตั้งแต่ การวางแผน การทดสอบ การเขียนรายงาน
ตอนนั้นแอบรู้สึกว่าทำไมหัวหน้าไม่เห็นทำอะไรเลยวะ 555
แต่อีก 10 ปีให้หลังเมื่อเปลี่ยนตัวเองเป็นผู้จัดการบาง
ผมก็ทำแบบเดียวกัน (วะฮ่าฮ่า)
เหตุผลก็ง่ายๆเลยครับ
การทำงานเริ่มจากการคิด
ถ้าคิดไม่เป็น ก็ทำงานไม่ได้
ถ้าหัวหน้าบอกคำตอบที่ใช้ทั้งหมด
ว่าทำอย่างนั้น ทำอย่างนี้สิ
ก็เหมือนการฆ่าตัดตอน ศักยภาพในตัว
ของคนเก่งๆที่เราคัดเลือกมาเป็นอย่างดี
หันหน้าที่ดีในแบบของโตโยต้า จึงไม่บอคำตอบ
แต่จะระบุสิ่งที่ต้องการให้น้องได้ฝึกคิดว่า
ทำยังไง สิ่งที่หัวหน้าอยากได้ถึงจะเป็นจริง
โอ้ว ผมลืมบอกไปว่าในระหว่างทำงานเนี่ยทรมานมากก็จริง
แต่ตอนที่เห็นผลลัพธ์ที่หัวหน้าอยากได้เสร็จเนี่ย
มันฟินสุดๆไปเลยฮะ เพราะผมรู้สึกได้เลยว่า
มันคือผลงานของผมจริงๆ ^^
ที่โตโยต้า พนักงานไม่ได้มาที่ทำงาน เพื่อทำงาน
แล้วมาเพื่อ???
คำตอบคือ
แต่พวกเขามาเพื่อคิด
อีกหนึ่งคำคมของคุณ Taiichi Ohno
ถ้าฟังครั้งแรกจะงงมากว่า ทำงาน กับคิดต่างกันอย่างไร
ทำงานในมุมของคุณ Ohno หมายถึงการ เคลื่อนไหวร่างกาย
แต่ในการเคลื่อนไหวร่างกายนั้นจำเป็นต้องผ่านการคิดมาเป็นอย่างดีก่อนเสมอ
การคิดว่าทำอย่างไรถึงจะลดเวลาทำงานแต่ยังคงได้สินค้า
ที่มีคุณภาพดีแถมต้นทุนต่ำกว่าคนอื่นๆนั้น คือ งานของพนักงานโตโยต้า ทุกคน
3
ส่วนการเคลื่อนไหวที่ทำให้เราเห็นว่าคนๆนั้นดูยุ่งตลอดเวลามีงานมากนั้น
ไม่ใช่ การทำงาน แต่เป็นความสูญเปล่า
เมื่อใดก็ตามที่ใครสักคนทำงานได้เร็วขึ้นและยังมีประสิทธิภาพกว่าเดิม
จากการลดความสูญเปล่า พวกเขาย่อมมีกำลังใจ
น้องในทีมของคุณตอนนี้ เคลื่อนไหว หรือ ทำงานอยู่ครับ^^
ถ้ายังจำบทความที่ผมเคยเขียนให้อ่านเรื่อง บันได 5 ขั้นปั้นคนให้เก่ง (แบบโตโยต้า) กันได้
Link
ผมมีพูดเรื่องนี้ไว้เช่นกัน
ไม่ว่าจะเป็นการทำงานแบบไหน
แม้หัวหน้าจะไม่บอกคำตอบก็ตาม
แต่พวกเขาก็จะให้ทรัพยากรที่มากพอที่จะต่อยอดเองได้
พวกเขาจะส่งเราไปอบรม ทำให้ดู และโอกาสได้ลองเรียนรู้ก่อนเสมอ
เสมือน บอกว่า อยากให้ต่อเลโก้ เป็นรูปรถยนต์
พวกเขาก็จะให้รู้จักก่อนว่า เลโก้ หน้าตาเป็นไง
หลักการของการต่อเลโก้ คือ กดให้แต่ละชิ้นยึดกัน
ทำให้ดูเป็นไอเดีย จากนั้นก็ให้ลงมือทำเอง
เอาผลลัพธ์ที่ได้มาให้ตรวจสอบ
และให้ไอเดียเพิ่มเติมสำหรับการทำให้ดีขึ้น
เมื่อทำได้เองจนชำนาญแล้ว
ก็เปลี่ยนตัวเองเป็นคนสอนงานแทนหัวหน้าต่อไป
เพียงหลักการ ฟัง ดู ทำจริง ง่ายๆแค่นี่
แต่ถ้าใช้อย่างจริงจัง เป็นระบบ
พนักงานทุกคนก็จะพัฒนาได้อย่างก้าวกระโดด
ลองดูนะฮะ
ที่โรงงานโตโยต้าในญี่ปุ่น
เรามักจะเห็นป้ายความปลอดภัยมากมาย
เพื่อให้มั่นใจว่าพนักงานสามารถทำงาน
ได้โดยไม่มีอุบัติเหตุ และส่งมอบสินค้าคุณภาพ
ในได้ในเวลาที่ลูกค้าต้องการ
แต่ป้ายที่ใหญ่ที่สุดและอยู่สูงที่สุดมักจะเป็น
良い品良い考え
สินค้าที่ดี มาจากความคิดที่ดี
แล้วความคิดที่ดีมากจากไหน
คำตอบคือมาจากคนเก่ง
แล้วคนเก่งหละจะมาจากไหน
คำตอบก็คือ ปั้นพวกเขาขึ้นมาให้สร้างสินค้าที่ดีให้บริษัทไงครับ
หวังว่าคงจะได้ไอเดียกันนะครับเกี่ยวกับการสร้างคน
อยากให้แบ่งปันอะไรอีกเม้นทิ้งไว้ หรือ Inbox มา
โฆษณา