28 ก.ย. 2020 เวลา 04:44 • กีฬา
บาดแผล รอยร้าว ครั้งใหญ่ ของชายที่ชื่อ เป๊ป กวาร์ดิโอลา
ต้องบอกว่าเป็นสัปดาห์ที่เกิดเรื่องราวต่าง ๆ มากมายสำหรับ พรีเมียร์ลีก เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลายเกมที่พบกับความดราม่า แม้กระทั่งเกมนัดสุดท้ายคืนวันอาทิตย์เมื่อ แมนซิตี้เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของเลสเตอร์ซิตี้
บาดแผล รอยร้าว ครั้งใหญ่ ของชายที่ชื่อ เป๊ป กวาร์ดิโอลา
เกมนี้คงไม่มีใครคาดคิดการบุกมาถล่มของเลสเตอร์ในบ้านของซิตี้ เพราะแค่บุกมายันเสมอ ก็ถือว่าดีมากพอแล้วสำหรับทีมของ แบรนดอน รอดเจอร์
เปิดเกมมาด้วยแนวรุกที่ดุดันเช่นเคยสำหรับแมนซิตี้ การครองเกมแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด และสามารถทำประตูขึ้นนำได้อย่างรวดเร็วในช่วงต้นเกมนั้น คงไม่มีใครคาดคิดถึงโศกนาฏกรรมที่จะเกิดขึ้นที่เอติฮัต
ต้องบอกว่าเกมผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมง โดยที่เลสเตอร์ แทบจะโงหัวไม่ขึ้นเลยด้วยซ้ำ ผู้เล่นทั้ง 11 คนของเลสเตอร์ นั้นแทบจะมากองรวมตัวกันทั้งหมดในแนวรับ ซึ่งโอกาสที่จะสวนกลับเพื่อทำประตูนั้นแทบจะไม่มีเลยด้วยซ้ำ
แต่แล้วเหตุการณ์ทุกอย่างมันก็พลิกผัน เมื่อเลสเตอร์ได้จุดโทษตามตีเสมอได้สำเร็จจาก เจมี่ วาร์ดี้ ในนาทีที่ 37 แต่เมื่อถึงตอนนั้น ก็คงไม่มีใครคิดว่าเลสเตอร์จะสู้ได้อยู่ดี เพราะแมน ซิตี้ ยังคงครองเกมแทบจะเบ็ดเสร็จแต่เพียงผู้เดียว
จบครึ่งแรก หลาย ๆ คนคงจะคิดว่า เลสเตอร์ไม่น่ารอด เมื่อดูจากรูปเกมที่สู้ไม่ได้เลย แทบจะไม่มีโอกาสทำประตูเลยซักครั้ง แถมยังได้ลูกตีเสมอจากจุดโทษอย่างเหลือเชื่ออีก
แต่ต้องบอกว่า เกมครึ่งหลังนั้น เลสเตอร์ได้ทำสิ่งที่เหลือเชื่อ สร้างรอยร้าว บาดแผล สำคัญให้กับเป๊บ กวาร์ดิโอล่า ถึงสองแผลด้วยกัน
แผลแรกคือ เป็นการพ่ายแพ้แบบเละเทะที่สุดในบ้าน จากผลงานคุมทีมของเป๊บตลอดอาชีพการเป็นกุนซือ ตั้งแต่คุมบาร์เซโลน่ามา เป๊บ ไม่เคยแพ้เละเทะขนาดนี้คาบ้านมาก่อนเลยในชีวิต
แผลที่สองคือ แฮตทริกของ เจมี่ วาร์ดี้นั้น เป็นแฮตทริกที่สอง ของผู้ที่สามารถทำแฮตทริกในการเจอกับแมน ซิตี้ได้ (ในยุครุ่งเรือง) และที่สำคัญ ผู้ที่ทำแฮตทริกแรกในการเจอกับแมนซิตี้ ได้ นั่นก็คือ ตัวของเจมี่ วาร์ดี้เอง ในฤดูกาลที่พวกเขาคว้าแชมป์ได้อย่างปาฏิหาริย์
เจมี่ วาร์ดี้ จอมโจรจิ้งจอก ยิงแมนซิตี้ เป็นว่าเล่น
การถูกทีมอย่างเลสเตอร์ บุกมาถล่ม ถึง 5-2 นั้น ถือเป็นเรื่องที่ไม่ธรรมดา สำหรับทีมอย่างแมน ซิตี้ และ ผู้จัดการทีมอย่างเป๊บ และที่สำคัญชัยชนะในนัดนี้ ได้ส่งผลให้เลสเตอร์ขึ้นครองจ่าฝูงของพรีเมียร์ลีก อย่างสวยงามด้วยชัยชนะ 3 นัดรวด
ต้องบอกว่าจุดอ่อนในเกมรับของแมนซิตี้ นั้น มีให้เห็นกันตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว และดูว่าจะไม่สามารถปิดจุดอ่อนนี้ลงไปได้อย่างง่าย ๆ
แมนซิตี้ นั้นมีเกมรุกที่ไหลลื่น แต่ เราจะเห็นได้ว่า พวกเขาสามารถเสียประตูได้ง่ายมาก ๆ จากโอกาสบุกของคู่แข่งเพียงไม่กี่ครั้ง
โดยเฉพาะแนวฟูลแบ็ค ที่ดันเกมรุกแทบจะตลอดเวลา ทำให้พื้นที่ว่างเปิดให้กับคู่แข่งได้สวนกลับได้อย่างง่ายดายมาก ๆ ซึ่งเป็นแผลที่เป๊บ นั้นยังแก้ไม่ได้เสียที
ดูเหมือนปัญหาเกมรับของแมนซิตี้นั้น จะเป็นจุดอ่อนที่สำคัญมาก ๆ เมื่อเทียบกับทีมอย่างลิเวอร์พูล ที่ดูจะมีความสมดุลกว่าทั้งเกมรุก และเกมรับ ซึ่งต่างจากแมนซิตี้ ที่เน้นไปที่แนวรุกระดับเวิร์ลคลาสเพียงอย่างเดียว
แต่แนวรับอ่อนปวกเปียกอย่างที่เราได้เห็นกันในหลาย ๆ นัด หรือ ใน แชมเปี้ยนลีกที่เจอกับลียงในฤดูกาลที่แล้ว มันเป็นแผลที่เป๊บต้องทำการแก้ไขโดยด่วน ไม่อย่างงั้น ในฤดูกาลนี้ คงต้องจบฤดูกาลด้วยความผิดหวังอีกเช่นเคยนั่นเองครับ
มีเรื่องน่าสนใจอย่างนึง ในฟุตบอลยุคโควิด ก็คือ การที่ไม่มีแฟนบอลเข้ามาร่วมเชียร์นั้น ต้องบอกว่า ทำให้เกมในบ้าน กับนอกบ้าน แทบจะไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญอีกต่อไปสำหรับเกมฟุตบอลลีกของทุกลีกที่เล่นกัน
เพราะฉะนั้น เราจะได้เห็น ผลการแข่งขันที่พลิกไป พลิกมา เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากความได้เปรียบในเรื่องการเป็นเจ้าบ้านนั้น แทบจะไม่มีผลต่อการแข่งขันอีกต่อไป อย่างที่เราได้เห็นในเกมพรีเมียร์ลีก อาทิตย์ นี้ ที่เกิดดราม่าขึ้นหลายเกมมาก ๆ และแน่นอนว่า มันทำให้การแข่งขันสนุกมากยิ่งขึ้นนั่นเองครับ
เขียนและเรียบเรียงโดย : ด.ดล
ติดตาม ShirtLocker.co เสื้อบอลคลาสสิค ผ้าพันคอ เข็มกลัด ลายเซ็นต์นักบอล หายากมากมาย
แค่เพิ่มเพื่อนไลน์แอด ให้คุณได้รู้ข่าวก่อนใคร มีรางวัลแจกทุกวัน กดที่ลิงค์นี้ครับ
Facebook :facebook.com/shirtlocker.co
Website :www.shirtlocker.co
Blockdit :blockdit.com/shirtlocker.co
Twitter :twitter.com/ShirtlockerCo
Instragram :instragram.com/shirtlocker.co
โฆษณา