2 พ.ย. 2020 เวลา 00:09 • กีฬา
คุณต้องล้มเพื่อลุกขึ้น อีกครั้ง (การเดินทางสู่แชมป์ที่เอเธนส์)
” โอ้ ! หลังจากที่ ดีด้า เซฟจุดโทษในจังหวะแรกของ ชาบี้ อลอนโซ่ แต่ก็ไม่วายโดนซ้ำเข้าไป มันช่วงเป็นอะไรที่แทบ จะเป็นไปไม่ได้ เพราะลงเล่นครึ่งหลังด้วยการลิเวอร์พูลตามหลังอยู่ 3-0 แต่หลังจากนั้นพวกเขาใช้เวลาแค่ 5 นาทีตีเสมอกลับมาอยู่ในตำแหน่งที่น่าอัศจรรย์ ” – คาร์โลอันเชล็อตติบ่นด้วยความไม่อยากเชื่อสายตาจากม้านั่งสำรอง เนื่องจากก่อนหน้านี้พวกเขานำห่าง คู่แข่งอย่างลิเวอร์พูลถึง 3 ประตูในนัดชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกปี 2005 อิสตันบูล
คุณต้องล้มเพื่อลุกขึ้น อีกครั้ง (การเดินทางสู่แชมป์ที่เอเธนส์)
แม้แต่ผู้เล่นอย่างมัลดินี่ ปิร์โล ซีดอร์ฟ เครสโป อินซากี ก็ดูตกใจเป็นอย่างมาก หลังจากที่ลิเวอร์พูล ทำการพลิกนรกใช้เวลาเพียงแค่ 6 นาที ทำประตู 3 ประตูรวดและทำให้เกมส์กลับมาสูสีอีกครั้ง ในที่สุดมิลานก็แพ้การแข่งขันในการดวลจุดโทษ
อังเดรปิร์โลปลีกตัวออกมา เผยว่าเป็นจุดตกต่ำที่สุดในอาชีพของเขา มิลานกำลังแข็งแกร่งในช่วงเวลานี้ภายใต้ผู้จัดการทีมที่เก่งมากของพวกเขา แต่คืนนี้ทำให้ทุกคนกลับมาสู่ความเป็นจริงและ อันเชล็อตติ ต้องทบทวบตัวเองและทีมของเขาใหม่อีกครั้ง กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคืนนั้น เขาจะต้องเรียกศรัทธาและเดินหน้าทำงานต่อไปและสาบานว่าจะทำให้มิลานแชมป์ยุโรปอีกครั้ง
ก่อนหน้านั้น อันเชล็อตติ เชื่อมั่นในทีมของตัวเองมาก โดยเพิ่มกาก้าเพลย์เมกเกอร์ที่มีพรสวรรค์ชาวบราซิล แต่ไฮไลท์ของพวกเขาคือแบ็คโฟร์ที่น่าเกรงขามของมิลาน ที่ต้องยกเครดิตให้อันเชล็อตติ คาฟู กอสตากูร์ตา เนสต้า และ มัลดินี่ สร้างกำแพงมิลานที่ทีมอื่นๆ
ยากที่จะเจาะผ่านไปได้
อีกทั้งยังมีตัวสุดท้ายที่เฝ้าเสาอย่าง ดีด้า ซึ่งทำให้มิลานคว้าแชมป์ยูฟ่าซูเปอร์คัพ และ สคูเด็ตโต ในฤดูกาล 2003-2004 ด้วยสถิติ 82 คะแนนจาก 34 เกม อันเดร เชฟเชนโก้ เป็นผู้ทำประตูสูงสุดในลีกฤดูกาลนั้น ฤดูกาลถัดมา 2004-2005 พวกเขาไม่ประสบความสำเร็จสักเท่าไหร่ เนื่องจากมิลาน ได้แค่ถ้วย ซุปเปอร์ โคปา อิตาเลีย เท่านั้น
พวกเขาจบในลีกเป็นอันดับที่ 2 โดยแชมป์ตกเป็นของยูเวนตุสทั้งในฤดูกาล 2004-05 และ 2005-06 แต่ทั้งสองสโมสรนั้นถูกริบตำแหน่งเนื่องจากมีส่วนร่วมในเรื่องอื้อฉาวของฟุตบอลอิตาลี่ กัลโช่โปลี
ถึงกระนั้นในเวทียุโรปฤดูกาล 2004-2005 พวกเขาสามารถเข้าสู่รอบชิงจนได้ ซึ่งอันเชล็อตติและมิลานต้องการที่จะเอาชนะให้ได้ที่อิสตันบูลแต่เรื่องเหลือเชื่อก็เกิดขึ้นจนได้ เอซี มิลาน จบอันดับที่ 2 ในตารางลีกตามหลังยูเวนตุส แต่เนื่องจากพวกเขามีส่วนร่วมใน กัลโช่โปลี
เอซี มิลานถูกหักคะแนน 30 คะแนนส่วนยูเวนตุสตกชั้น ในขณะที่ตำแหน่งแชมป์ลีกตกเป็นของ อินเตอร์ มิลาน แทน
1
การจากไปของ เชฟเชนโก้ ในปี 2006 ทำให้ฤดูกาล 2006-2007 อันเชล็อตติ ได้เปลี่ยนรูปแบบการเล่นของมิลานให้เหมาะกับการมีกองหน้าเพียงแค่ตัวเดียว
อันเชล็อตติวางรูปแบบการเล่นแบบต้นคริสต์มาสได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือรูปแบบ 4-3-2-1 ที่ใช้กับ อินซากี้ ในฐานะกองหน้าคนเดียว ที่มีตัวสนับสนุนโดยกองกลางตัวรุกสองคนด้านใน ซีดอร์ฟ และ กาก้า กองกลางตัวรับสามคนที่มี ปิร์โล เป็นตัวเชื่อมเกมจากหลังไปหน้า และยังมีคู่ของ กัตตูโซ กับ อัมโบรซินียืนอยู่หน้ากองหลัง เอซี มิลานเริ่มฤดูกาลด้วยการถูกหักคะแนน 8 คะแนนตั้งแต่ช่วงต้นฤดูกาล
อันเชล็อตติ ที่ปรับทัพมิลานใหม่หลังผิดหวังครั้งใหญ่
การรณรงค์ของกัลโช่ เซเรียอา ร่วมกับการลงโทษอย่างต่อเนื่อง ในเรื่องอื้อฉาวซึ่งทำให้พวกเขาแทบจะไม่ได้ลงแข่งในลีก แต่อันเชล็อตติมุ่งความสนใจไปที่แชมเปี้ยนส์ลีกอย่างมากและพวกเขาต้องผ่านรอบคัดเลือกเพื่อไปให้ถึงรอบสุดท้ายให้ได้ พวกเขาผ่าน เร้ดสตาร์ เบลเกรด เข้าสู่รอบแบ่งกลุ่มของแชมเปี้ยนส์ลีกด้วยชัยชนะรวม 3-1
เอซี มิลานถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม H ร่วมกับ เออีเค เอเธนส์ อันเดอร์เลช และ ลีลด์ และ มิลานก็จบด้วยการเป็นแชมป์กลุ่มด้วยสถิติชนะ 3 แพ้ 2 และเสมอ 1 นัด และจะต้องเจอกับเซลติกในรอบ 16 ทีมสุดท้าย
ในเกมส์ที่ ซานซิโร่ ต้องเล่นถึงต่อเวลาพิเศษกว่าจะชนะมาได้ โดยการยิงของ กาก้า ซึ่งเพียงพอที่จะพามิลานเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ ไปเจอกับ บาเยิร์น มิวนิค
การเจอกับบาเยิร์น มิวนิค ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายเลกแรกที่ซานซิโร่ เสมอกันด้วยสกอร์ 2-2 เมื่อรู้ว่าพวกเขาต้องการประตูทีมเยือน มิลาน ก็สามารถมายิงประตู ในนัดที่ อัลลิอันซ์ อารีน่า และยิงประตูทีมเยือนได้ 2 ประตู และจบเกมส์ด้วยสกอร์ 0-2 สรุปผล 2 นัด เอซี มิลานผ่านเข้ารอบไปได้ ด้วยสกอร์ 4-2 เข้าสู่รอบรองชนะเลิศไปพบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
นัดแรกที่โอลด์แทรฟฟอร์ดเป็นเกมส์ที่สนุกตื่นเต้น หลังจากที่ คริสเตียโน โรนัลโด ทำประตูแรกให้ปีศาจแดง ต่อมา กาก้า ยิง 2 ประตูทำให้มิลานขึ้นนำ 2-1 แต่หลังจากนั้น เวย์น รูนีย์ ทำประตูให้ ยูไนเต็ด ชนะ 3-2
ต่อมานัดที่สองกลับเป็นเกมส์ที่สบายกว่าที่คิดของพวกเขา เมื่อ มิลาน สามารถเอาชนะไปได้ 3-0 รวมผล 2 นัด ชนะไป 5-3 โดยจะเข้าไปรอบชิงชนะเลิศไปเจอกับ ลิเวอร์พูล ที่เคยสร้างความเจ็บปวดให้พวกเขามาแล้วในรอบชิงเมื่อฤดูกาล 2004-2005
ด้วยรอยแผลเป็นจากค่ำคืนแห่งโชคชะตาที่อิสตันบูลยังคงแผดเผาอยู่ในใจพวกเขา ผู้เล่นมิลานและ อันเชล็อตติ ลงสนามในเอเธนส์ด้วยความมุ่งมั่น ตั้งใจ ถึงแม้ว่าจะถูกพิจารณาว่าเป็นทีมเหย้าในรอบชิงชนะเลิศ แต่พวกเขาก็เลือกที่จะสวมชุดเยือนสีขาวล้วนซึ่งเป็นชุดเดียวกับที่พวกเขาแพ้ลิเวอร์พูลเมื่อสองปีก่อน
การแข่งขันเป็นไปอย่างสนุกเข้มข้น แต่ครั้งนี้ เอซี มิลาน คงจะไม่มีวันปล่อยให้หลุดมืออีกครั้ง หลังจากผ่านไป 40 นาทีเมื่อ อันเดรีย ปิร์โล ได้ฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษ และจากจังหวะนี้ ปิร์โล ยิงฟรีคิกไปแชลบ อินซากี้ที่โก่งตัวไปด้านหลังของกำแพง ให้มิลานขึ้นนำไปก่อน
ในครึ่งหลังเกมส์ก็ยังสนุกสู่สีผลัดกันรุกรับอย่างมัน แต่ลูกทีมของ อันเชล็อตติ ดูจะเด็ดขาดกว่าในจังหวะสุดท้าย เมื่อ กาก้า มีโอกาส แทงทะลุช่องให้กับ อินซากี้ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปดวลตัวต่อตัวกับ เรน่า ก่อนที่จะแตะหลบก่อนหนึ่งจังหวะก่อนที่จะยิงสวนตัว เรน่า
เข้าไปอย่างใจเย็น
1
ถึงแม้ต่อมาลิเวอร์พูลสามารถตีไข่แตกได้จาก เดร์ก เค้าวต์ แต่ก็สายเกินไป จบเกมส์ เอซี มิลานสามารถเอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ 2-1 จัดการล้างแค้นจากบาดแผลในอิสตันบูลได้สำเร็จ ชัยชนะครั้งนี้หมายความว่าอันเชล็อตติคว้าแชมป์ แชมเปี้ยนส์ลีก 4 สมัย (2 สมัยในฐานะผู้เล่นและ 2 ในตำแหน่งผู้จัดการทีม)
เอซี มิลาน ล้างตา ลิเวอร์พูลได้สำเร็จ
“ผมยังจำเหตุการณ์ได้ดีในอีก 2 ปีถัดมา ที่ เอซี มิลาน ได้ล้างตากับ ลิเวอร์พูล ในนัดชิงที่เอเธนส์ กรีซ ระหว่างพวกเขาฉลองแชมป์หลังเกมประมาณ 10 นาที ผมรู้สึกดีใจมากที่ได้รับข้อความและโทรศัพท์จากนักเตะ และสตาฟฟ์โคชของ มิลาน จำนวนมาก ทั้งที่ตอนนั้นผมไปเล่นกับ อินเตอร์ มิลาน เรียบร้อย
พวกเขาบอกว่านี่เป็นการแก้แค้นแทนผมด้วย มันมีความหมายมากสำหรับผม เพราะพวกเขายังจดจำผมได้ หลังผ่านมาแล้ว 2 ปี” เอร์นาน เครสโป อดีตดาวยิงอาร์เจนไตน์ เล่าความหลังถึงตอนที่เคยอยู่กับ เอซี มิลาน ชุดที่พลิกล็อกแพ้ ลิเวอร์พูล ในนัดชิงแชมเปียนส์ ลีก ปี 2005 ที่อิสตันบูล ก่อนที่ มิลาน มาล้างตาชนะคืน 2-1 ในนัดชิง ปี 2007
อันเชล็อตติ ยังสานต่อความสำเร็จด้วยการคว้าแชมป์ทั้งยูฟ่าซูเปอร์คัพและฟีฟ่าคลับเวิลด์คัพ ในฤดูกาลถัดมาโดยทำให้เขากลายเป็นผู้จัดการทีม เอซี มิลาน คนแรกที่คว้าแชมป์ทั้ง 2 ถ้วยที่ว่ามา
แต่ฤดูกาลนั้นผลงานโดยรวมถือว่าไม่ดีสำหรับมิลาน พวกเขาพลาดที่จะไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกในปีถัดไป ต้องไปเล่นยูฟ่า คัพ แทน ในฤดูกาล 2008-2009 หลังจากที่จบอันดับที่ 5 ในลีกและอีกทั้งยังล้มเหลวในการป้องกันแชมป์เนื่องจากพวกเขาตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย ใน แชมเปี้ยนส์ลีก
ต่อมา ฤดูกาล 2008-09 ดีขึ้นเล็กน้อยสำหรับ มิลาน เนื่องจากพวกเขาจบอันดับ 3 ในลีก แต่ในยุโรปของพวกเขาจบลงด้วยความหายนะเมื่อพวกเขาตกรอบ 32 ทีมสุดท้ายในยูฟ่าคัพ และ ใน โคปา อิตาเลีย ของพวกเขาหายนะไม่แพ้กันซึ่งตกรอบ 16 ทีม หลังจากนั้นก็มีข่าวลือมากมาย ว่าอาจจะหมดเวลาของ อันเชล็อตติ แล้ว ?
สำหรับ คาร์โล อันเชล็อตติ ในอดีตมักถูกขนานนามว่าเป็นโค้ชที่ไม่มีความยืดหยุ่นในเชิงกลยุทธ์ แต่สิ่งนี้เปลี่ยนไป เมื่อเขาเข้ามารับงานที่ เอซี มิลาน ซึ่งเขาเริ่มปรับเปลี่ยนรูปแบบการเล่นให้เหมาะกับผู้เล่นโดยเฉพาะ
สิ่งนี้เกิดขึ้นจากการตัดสินใจครั้งก่อนของเขาเมื่อเขาปล่อยให้ โรแบร์โต บาจโจ้ ย้ายไปที่สโมสรอื่นในขณะที่เขาเป็นผู้จัดการทีมปาร์ม่า เพียงเพราะเหตุผลที่ บาจโจ้ ต้องการเป็นกองหน้าและไม่เล่นตำแหน่งที่อันเชล็อตติต้องการ
บาจโจ้ ทำประตูถึง 25 ประตูให้กับสโมสรใหม่ของเขา และนี่กลายสิ่งที่เป็นการเปิดมุมมองเปลี่ยนความคิดของ อันเชล็อตติ ถึงความเป็นไปได้ใหม่ ๆ
อันเชล็อตติ คุม เอซี มิลาน เป็นเวลา 9 ปี ซึ่งเขาคุมทีมลงแข่งทั้งหมด 423 นัดที่ เก็บชัยชนะ 238 เสมอ 101 และแพ้ 84 ทำให้มีเปอร์เซ็นต์การชนะที่สูงถึง 56.26% ช่วงเวลาของเขาในฐานะผู้จัดการทีม มิลาน ประสบความสำเร็จอย่างมาก
ด้วยการนำ เอซี มิลาน คว้าแชมป์เซเรียอา , โคปา อิตาเลีย , ซุปเปอร์ โคปา อิตาเลีย และ ฟีฟ่าคลับเวิลด์คัพ 1 ครั้งในขณะที่เขาคว้าถ้วยยูฟ่าซูเปอร์คัพและยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก 2 ครั้ง เป็นเรื่องยากสำหรับมิลาน แต่เขาสามารถทำมันได้ด้วยความระมัดระวังสูงสุด เพื่อนำทางพวกเขาผ่านวิกฤตการณ์ กัลโช่โปลี และกลับมาทวงแชมป์ยุโรปได้สำเร็จ
และอันเชล็อตติ จะได้รับการต้อนรับกลับมาที่ ซานซิโร่ ด้วยความรักและความเคารพสูงสุดเสมอนั่นเองครับ
References : หนังสือ Carlo Ancelotti The Beautiful Games of an Ordinary Genius
เขียนและเรียบเรียงโดย : มินวัง
ติดตาม ShirtLocker.co เสื้อบอลคลาสสิค ผ้าพันคอ เข็มกลัด ลายเซ็นต์นักบอล หายากมากมาย
แค่เพิ่มเพื่อนไลน์แอด ให้คุณได้รู้ข่าวก่อนใคร มีรางวัลแจกทุกวัน กดที่ลิงค์นี้ครับ
Facebook :facebook.com/shirtlocker.co
Website :www.shirtlocker.co
Blockdit :blockdit.com/shirtlocker.co
Twitter :twitter.com/ShirtlockerCo
Instragram :instragram.com/shirtlocker.co
โฆษณา