10 ต.ค. 2021 เวลา 14:54 • คริปโทเคอร์เรนซี
รู้จักการ DCA เทคนิคลงทุนง่าย ๆ ไม่ต้องดูกราฟเป็นก็ทำได้
.
มือใหม่ที่อยากเริ่มต้นลงทุน แต่ติดปัญหาที่ไม่มีประสบการณ์ในวงการคริปโตเลย
และมึนงงกับทั้งตัวเลขที่วิ่งไปมา และกราฟที่เดี๋ยวขึ้นสูงลงต่ำ วันนี้แอดมีทางออก “ลงทุนง่าย ไม่ต้องโปรก็สร้างผลตอบแทนได้ด้วย DCA”
DCA คือหนึ่งในรูปแบบการลงทุนที่เหมาะทั้งสำหรับมือใหม่ และผู้ที่ไม่มีเวลาในการเทรด
ด้วยรูปแบบการลงทุนที่เหมือนการออมประจำ แต่แทนที่จะออมเงินแบบทั่วไป
จะดีกว่าไหม ถ้าเลือกออมกับเหรียญคริปโต เงินออมไม่นอนนิ่ง และสร้างผลตอบแทนได้มากกว่า
.
รายละเอียดของ DCA จะเป็นอย่างไรบ้าง และมีวิธีการลงทุนยังไง
ไปติดตามกันต่อได้ในโพสต์นี้กันเลย ^^
.
ปล.ไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนโปรดศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง
==========================
ถ้าชอบคอนเทนต์แบบนี้ อย่าลืมกดไลค์ กดติดตามเพจไว้นะคะ จะได้ไม่พลาดสาระดี ๆ จากเพจของเรา
DCA คืออะไร?
.
DCA หรือ Dollar Cost Average
คือ รูปแบบการลงทุนด้วยจำนวนเงินเท่า ๆ กัน
โดยผู้ลงทุนสามารถกำหนดทั้งจำนวนเงิน และความถี่ได้ด้วยตัวเอง เช่น ลงทุนเพิ่มทุก 10, 20 หรือ 30 วัน
.
ส่วนมากผู้ลงทุนจะเลือกทำ DCA กันเป็นรายเดือน
เพื่อให้พอดีกับช่วงที่เงินเดือนออก กระแสการลงทุนแบบนี้จึงเป็นที่นิยมในหมู่พนักงานประจำ
เพราะด้วยรูปแบบการลงทุนที่ง่าย และช่วยจัดระเบียบการเงินได้อีกด้วย
.
เงินเดือนออกปุ๊ป.. ก็หักเงินส่วนหนึ่งมาลงทุน
ถึงสิ้นเดือนจะรู้สึกกระเป๋าโล่งตัวเปล่า แต่ก็มั่นใจได้ว่าเหรียญที่ลงทุนไว้มีอัตราการเติบโตอยู่ตลอดเวลา
.
วิธีนี้จะเป็นการลงทุนแบบไม่สนใจสภาวะตลาด
เน้นความสม่ำเสมอในการลงทุนเป็นหลัก
.
ตัวอย่างการลงทุน DCA ฉบับมนุษย์เงินเดือน
: เงินเดือนออกวันที่ 30 หักเงิน 1,000 บาททันที เพื่อลงทุนในเหรียญที่ต้องการ
ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนเป็นวินัยในการออม ใครที่กำลังมองหาลู่ทางในการลงทุนระยะยาว
ที่เริ่มได้เลยสำหรับมือใหม่ นี่คือหนึ่งในรูปแบบการลงทุนที่แอดแนะนำ
DCA เหมาะกับใคร
.
1. เหมาะกับคนที่ไม่มีเวลาในการเทรดด้วยตัวเอง
ใครที่ไม่มีเวลาในการติดตามข่าวสาร และสภาวะของตลาดคริปโตด้วยตัวเอง นี่จะเป็นทางออกในการลงทุนของคุณ
เพราะรูปแบบการลงทุนด้วย DCA จะไม่ยึดติดกับความผันผวนของตลาด
ทำให้ไม่จำเป็นต้องเฝ้าติดตามทุกความเคลื่อนไหวของเหรียญเท่ากับสายเทรด
2. มือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้น ยังดูกราฟไม่เป็น
สำหรับใครที่อยากลงสนามจริง แต่ยังขาดประสบการณ์ วิธีนี้ถือว่าเวิร์คมาก ๆ
เพราะไม่จำเป็นต้องอาศัยความรู้ในการดูกราฟ หรือใช้เทคนิคในการลงทุนเลย
3. คนที่อยากเปลี่ยนวิธีออมเงินแบบปกติ มาออมคริปโต
หลายคนที่เคยออมประจำ และหวังกับดอกเบี้ยของธนาคาร ถ้ากำลังมองหาวิธีใหม่ในการเพิ่มผลตอบแทน
DCA คือวิธีการออมที่แอดแนะนำ เพราะรูปแบบการลงทุนวิธีนี้แทบจะไม่ต่างจากการออมประจำ
แต่สิ่งเดียวที่เหนือกว่า และต่างออกไปคือ ผลตอบแทนที่มากกว่าหลายเท่าตัว
4. คนที่มีงบน้อย แต่อยากลงทุน
วิธีนี้ผู้สนใจสามารถแบ่งเงินในการลงทุนได้เองตามกำลัง และความต้องการ เพราะเหรียญคริปโตในปัจจุบัน
สามารถเลือกลงทุนได้ตั้งแต่หลักสิบบาท ทำให้นี่เป็นรูปแบบการลงทุนที่มีความยืดหยุ่น และคล่องตัวสำหรับคนที่มีงบไม่สูงมาก
5. พนักงานประจำที่มีเงินเดือนสม่ำเสมอ
มนุษย์เงินเดือนคนไหนที่มีเงินไหลเข้าตลอด แต่ไม่มีเงินเก็บ หรือกำลังมองหาโอกาสใหม่ในการสร้างผลตอบแทน
DCA แบบรายเดือน ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี เพราะต่อให้คุณเผลอใช้เงินในบัญชีหมด
แต่มั่นใจได้ว่ามีเหรียญคริปโตที่ลงทุนไว้ และเติบโตอยู่ในทุกวัน
รูปแบบการ DCA
.
DCA แบบตามเวลาที่กำหนด
DCA รูปแบบทั่วไป ที่ได้เกริ่นไปก่อนหน้าว่ามีรูปแบบเหมือนกันกับการออมเงินธรรมดา แต่เปลี่ยนเป็นการออมเหรียญคริปโตแทน
โดยที่การลงทุนรูปแบบนี้มีความยืดหยุ่นสูง ผู้ลงทุนสามารถกำหนดทั้งความถี่ และจำนวนเงินในการลงทุนได้ตามที่ต้องการ
.
เช่น เลือกลงทุน 100 บาททุก ๆ 7 วันกับ ETH หรือเลือกลงทุน 1,000 บาททุกเดือนกับ Bitcoin
ซึ่งรูปแบบในการลงทุน DCA นี้ไม่มีตายตัว ผู้ลงทุนสามารถวางแพลนให้เหมาะกับรายรับ และไลฟ์สไตล์ของตัวเองได้เต็มที่
.
การทำ DCA นี้เป็นการลงทุนในเหรียญคริปโตแบบสม่ำเสมอ โดยที่ไม่สนใจสภาวะตลาด
ไม่ว่าจะเป็นช่วงที่ตลาดขาขึ้น หรือขาลง การลงทุนจะเกิดขึ้นต่อ เพราะสิ่งที่ทำให้ DCA น่าสนใจคือความต่อเนื่องของการลงทุน
.
รูปแบบนี้จึงเหมาะกับการฝากระยะยาว โดยที่ในบางครั้งผู้ลงทุนจะได้ลงทุนในเหรียญที่มีทั้งราคาถูก และแพงปะปนกันไป
แต่นี่เป็นข้อดีที่ทำให้ผู้ลงทุนไม่ต้องเสี่ยงภาวะตลาดผันผวน หรือขาดทุนจากการซื้อเหรียญผิดจังหวะ
2. DCA แบบตามเงื่อนไข
.
รูปแบบนี้ถือว่าขั้น advance และมีความแตกต่างกับ DCA ก่อนหน้าอยู่มาก เพราะ DCA รูปแบบนี้จะสนใจสภาวะของตลาด โดยเฉพาะช่วงที่เป็นตลาดขาลง ที่จะทำให้ผู้ลงทุนสามารถได้ราคาเหรียญที่ดีกว่า และสร้างผลตอบแทนได้มากกว่า DCA แบบตามเวลาที่กำหนด
.
แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะใช้วิธีนี้ได้ เนื่องจากจำเป็นต้องมีความรู้ในการดูกราฟเป็น
หรือสามารถใช้งานเครื่องมือ CDC Action Zone ได้ ทำให้วิธีนี้ไม่เหมาะสำหรับมือใหม่ที่ยังไม่เข้าใจกลไกของกราฟ
แอดมีตัวอย่างของกราฟที่หากเข้าใจ และอ่านออกก็สามารถเก็บเหรียญมาทำกำไรกันได้แบบอิ่ม ๆ
ตัวอย่าง: สังเกตที่วงกลมทั้ง 3 จุด ที่เป็นช่วงราคาเหรียญตก หากเข้าใจ และทำการ DCA ถูกจังหวะ
ก็จะได้ราคาเหรียญที่ดีกว่า และสร้างผลตอบแทนที่มากกว่าในเวลาถัดมาได้
.
นอกจากนี้ยังมีตัวอย่างที่น่าทำ DCA แบบตามเงื่อนไขอีก เช่น CDC Action Zone มีสัญญาณซื้อ หรือกราฟลงมาแตะ MA 200 เป็นต้น
ขึ้นอยู่กับเทคนิคของแต่ละคนด้วย
ตาราง DCA กับเหรียญ ETH
.
เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้นสำหรับการทำ DCA แอดมีตัวอย่างการลงทุนแบบ DCA กับเหรียญ ETH มาฝากกัน
.
โดยเงื่อนไขของกรณีนี้คือ เลือกลงทุนทุกเดือน เดือนละ 100 USD กับเหรียญ ETH
ตั้งแต่ช่วง ตุลาคม 2020 จนถึง กันยายน 2021 (เวลา 1 ปีถ้วนนั้นเอง)
.
จะสังเกตได้ว่าราคาของ ETH มีความผันผวนทั้งขึ้นสูง และลดลงมาเล็กน้อยช่วงเดือน มิถุนายน และกรกฎาคม
แต่เราจะไม่สนใจ และหวั่นไหวกับสภาวะตลาดตามรูปแบบการลงทุน DCA และยังลงทุนอย่างต่อเนื่องจนครบปี
.
เมื่อครบปีเงินที่ใช้สำหรับการลงทุน DCA รวมอยู่ที่ 1,200 USD หรือถ้าแปลงเป็นเงินบาทด้วยอัตราการแลกเปลี่ยนปัจจุบัน
1 บาท เท่ากับ 33.775 USD จะเป็นจำนวนเงิน 40,500 บาทที่ใช้ลงทุนกับเหรียญ ETH ไป
.
ได้เหรียญกลับมาทั้งหมด 1.2247 ETH ที่ตีมูลค่าเป็นเงินบาทปัจจุบันได้ถึง 138,364.82 บาทกันเลยทีเดียว
จึงไม่น่าแปลกใจที่กระแสของการลงทุนรูปแบบ DCA จะค่อย ๆ กำลังเป็นที่สนใจ
เพราะนอกจากจะมีความเสี่ยงต่ำในการซื้อผิดจังหวะแล้ว ยังเหมาะมาก ๆ สำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนกับคริปโตระยะยาว
1
ข้อดี - ข้อเสีย
.
ข้อดี
สร้างวินัยในการลงทุนให้กับตัวเอง
ใครที่ยังไม่เคยลงทุน และมักจะเผลอแอบใช้เงินเก็บ นี่จะเป็นการฝึก และสร้างวินัยทางการเงิน และการลงทุนให้คุณได้ดีมาก
ด้วยรูปแบบการลงทุนที่ต้องเกิดขึ้นตลอด ๆ ทำให้เกิดเป็นนิสัยทางการเงินที่ดี และเป็นการเก็บเงินเย็นที่สร้างผลตอบแทนได้อีกด้วย
สะสมสินทรัพย์ได้มากขึ้นเรื่อย ๆ
แน่นอนว่าการลงทุนแบบ DCA จะทำให้ผู้ถือเหรียญมีสินทรัพย์มากขึ้นเรื่อย ๆ
และยิ่งระยะการลงทุนมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้ได้เหรียญมากขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน
ทำได้ง่าย ๆ ไม่ต้องมีความรู้เรื่องคริปโตก็ทำได้
เห็นได้ชัดเจนว่าการลงทุนแบบนี้นั้น ไม่ต้องอาศัยความรู้ หรือความเข้าใจเรื่องคริปโตเท่าสายเทรด
ทำได้ง่าย ๆ มือใหม่เองก็สามารถทำได้เลย เพราะจุดเด่นที่จะทำให้การลงทุนรูปแบบนี้มีประสิทธิภาพคือ ความสม่ำเสมอในการลงทุน
มีเงินน้อยก็ลงทุนได้
ผู้ลงทุนสามารถจัดการ และบริหารเองได้ทั้งหมด ตั้งแต่ระยะความถี่ในการลงทุน
รวมไปถึงจำนวนเงินที่จะใช้ในการลงทุนแต่ละครั้ง ทำให้นักลงทุนที่มีเงินไม่สูงมากมักเลือกลงทุนแบบ DCA
ข้อเสีย
มีโอกาสขาดทุน ถ้า DCA ผิดตัว
หากผู้ลงทุนเลือกลงทุนเหรียญผิด หรือเหรียญที่กำลังจะตาย มีโอกาสสูงมากที่จะขาดทุน
เพราะมูลค่าเหรียญพวกนี้จะค่อย ๆ ลดลงจนทำให้เงินที่ลงทุนไปอาจเหลือเป็นศูนย์
โดยส่วนมากนักลงทุนที่เลือกทำ DCA มักจะเลือกลงทุนในเหรียญที่มั่นคง และมีอนาคตแข็งแรงอย่าง Bitcoin และ ETH เป็นหลัก
กำไรน้อยกว่าคนที่เป็นสายเทรด
ต้องยอมรับว่ากำไรที่ได้จากการเทรดแบบถูกช่วง ถูกจังหวะให้ผลตอบแทนที่สูงกว่ามาก
เพราะใครที่ตั้งใจจะมาสาย DCA จำเป็นต้องใช้วินัยในการลงทุน และระยะเวลาที่นานพอสมควรถึงจะปั้นเงินออกมาเป็นกอบเป็นกำได้
ถ้าเป็นตลาดขาขึ้นจะได้กำไรน้อยลง
หากลงทุนเหรียญที่ค่อย ๆ พุ่งตัวสูงขึ้นทีละนิดจากราคาตั้งต้นที่ลงทุน
กำไรที่ได้ก็จะไม่ได้สูงมาก เมื่อเปรียบกับบางคนที่เก็บราคาเหรียญช่วงตลาดขาลง
และอยู่ ๆ ราคาเหรียญพุ่งสูงขึ้น ในกรณีนี้ก็รับกำไรไปเลยแบบจุก ๆ
โฆษณา