1 ธ.ค. 2021 เวลา 03:47 • ไลฟ์สไตล์
เงินดิจิทัล คริปโทเคอร์เรนซีเงินทางเลือกที่อาจไม่ต้องเลือก
กระแส"เงินดิจิทัล"มาแรงขึ้นทุกขณะ โดยเฉพาะเมื่อมีสกุลเงินคริปโทอย่างเช่น "KUB Coin" พันธุ์ไทยแท้เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่ปีมานี้ ทำให้ทุกภาคส่วนตื่นตัว และหันมาใช้ประโยชน์จาก "สกุลเงินดิจิทัล" {Digital Currencies} เหล่านี้กันมากยิ่งขึ้น
“Bitcoin, Ethereum, Litecoin, Ripple, Stellar”
ในมุมมองของผู้เขียนมองว่า ผู้คนส่วนหนึ่งกำลังให้ความสนใจกับการใช้จ่ายผ่านสกุลเงินเหล่านี้ บ้างก็เก็บเป็นสินทรัพย์ส่วนบุคคล และหลายคนก็ซื้อขายทำกำไรได้อย่างมหาศาลในช่วงปีที่ผ่านมา ซึ่งสกุลเงินที่นิยมเทรดกันได้แก่
1. Bitcoin {บิตคอยน์} สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2552 โดยโปรแกรมเมอร์ชาวญี่ปุ่น เป็นเงินดิจิทัลที่นิยมและแพร่หลายทั่วโลกที่สุด
2. Ethereum (ETH) สร้างในปี พ.ศ. 2556
3. Litecoin (LTC) โดดเด่นเรื่องความรวดเร็วในการประมวลผลทางการทำธุรกรรม เร็วกว่าบิตคอยน์ถึง 4 เท่า พร้อมค่าธรรมเนียมที่ถูกลงอย่างมาก
4. Ripple (XRP) เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในบริษัทชั้นนำทั่วโลก เช่น Google
5. Stellar (XLM) ได้รับการพัฒนามาจาก Ripple สำหรับถ่ายโอนแลกเปลี่ยนกับสกุลเงินหลัก
ไม่นานมานี้ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) รับชำระเงินด้วยคริปโทเคอร์เรนซีเป็นรายแรกของกลุ่มธุรกิจพลังงาน โดยเริ่มที่ร้านอินทนิล เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้ลูกค้ายุคดิจิทัล นอกจากนี้ยังมีอีกหลากหลายบริษัทในประเทศไทย ที่มีนโยบายให้ลูกค้าซื้อสินค้า และบริการด้วยสกุล "เงินดิจิทัล" ได้ ดังเช่น เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ เอ็กซ์พีเดีย สตาร์บัคส์ และ นันยาง เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ด้วยความผันผวนของค่าเงิน ไม่ว่าจะเป็นเงินจับต้องได้ หรือ "เงินดิจิทัล" ก็ตามที ทุกอย่างต้องอาศัยการศึกษาข้อมูลต่างๆ เพื่อใช้ในการบริหารจัดการ และซื้อขาย เมื่อมีสิ่งใหม่ๆ เกิดขึ้นย่อมต้องใช้เวลาเรียนรู้ ขอเพียงตั้งอยู่ในความไม่ประมาท เพราะเงินนั้นไม่มีตัวตน แต่เป็น "เงินดิจิทัล" นั่นเอง
1
ภาพประกอบ โดย Roger Brown จาก Pexels
เรียบเรียงโดย รมิดา
ขอบคุณ :
โฆษณา