16 ม.ค. 2022 เวลา 12:45 • กีฬา
เข้าได้...แข่งไม่ได้ : สรุปเหตุการณ์ โนวัค ยอโควิช ถูกเนรเทศจากออสเตรเลีย | Main Stand
1
หาก โนวัค ยอโควิช ลงแข่งขัน ออสเตรเลียน โอเพ่น 2022 และสามารถคว้าแชมป์สมัยที่ 10 ในรายการนี้ได้ เขาจะกลายเป็นนักเทนนิสที่คว้าแชมป์แกรนด์สแลมมากที่สุดในโลกแต่เพียงผู้เดียว
2
ดังนั้นศึกแกรนด์สแลมบนดินแดนดาวน์อันเดอร์ที่กำลังจะเกิดขึ้น จึงเป็นที่จับตามองสำหรับวงการเทนนิสเป็นอย่างมากว่า ประวัติศาสตร์หน้าใหม่จะถูกเขียนขึ้นหรือไม่ ?
อย่างไรก็ตามยังไม่ทันได้แข่งก็เกิดเรื่องวุ่น โนวัค ยอโควิช นักเทนนิสมือ 1 ของโลกถูกควบคุมตัวทันทีที่เท้าแตะแผ่นดินออสเตรเลีย และถูกระงับวีซ่าเข้าประเทศ ก่อนลงเอยด้วยการถูกส่งตัวกลับ จนทำให้เกิดการถกเถียงไปทั้งโลก
1
เกิดอะไรขึ้นที่ออสเตรเลีย ทำไม ยอโควิช ถึงเข้าประเทศไม่ได้ ? ติดตามไปพร้อมกับ Main Stand ได้ที่นี่
1
ประเทศที่เข้มงวดกับมาตรการโรคระบาดที่สุด
จุดเริ่มต้นแรกของความวุ่นวายระหว่าง โนวัค ยอโควิช นักเทนนิสมือ 1 ของโลกชาวเซอร์เบีย กับประเทศออสเตรเลีย เริ่มตั้งแต่ตอนที่เขาเตรียมตัวไปลงแข่งขันเทนนิสรายการแกรนด์สแลม ออสเตรเลียน โอเพ่น 2022
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2021 รายการนี้พยายามช่วยเหลือนักเทนนิสทุก ๆ คนอย่างเท่าเทียม เนื่องจากมีการเลื่อนการแข่งขันจากเดิมออกไป 3 สัปดาห์ เช่นเดียวกับโปรแกรมการแข่งขันเทนนิสรายการอื่น ๆ ที่เว้นว่างในช่วงเวลาที่เลื่อนการแข่งขันด้วย โดยเป้าหมายคือ 2 สัปดาห์สำหรับการกักตัว 14 วัน และ 1 สัปดาห์สำหรับลงเล่นเรียกความฟิต ด้วยเหตุผลที่ว่าต้นปี 2021 วัคซีนป้องกันโควิด-19 กำลังอยู่ระหว่างการทดสอบและยังไม่ได้เริ่มใช้กันอย่างแพร่หลาย
ทว่าในปี 2022 แม้การแข่งขันจะเกิดขึ้นในช่วงที่ไวรัส COVID-19 สายพันธุ์โอมิครอนกำลังระบาดหนักไปทั่วทั้งโลก แต่ความแตกต่างคือ วัคซีนป้องกันโควิด-19 ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายแล้ว และนั่นทำให้ทางการของออสเตรเลียต้องออกกฎหมายอย่างเข้มข้นเกี่ยวกับการคัดกรองนักท่องเที่ยวหรือชาวต่างประเทศที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศของพวกเขา
ออสเตรเลีย เพิ่งได้รับอนุญาตให้เดินทางระหว่างประเทศได้โดยไม่มีข้อจำกัดด้านโควิด-19 เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 600 วัน ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน 2021 หลังจากที่รัฐบาลออสเตรเลียประกาศยกเลิกมาตรการควบคุมการระบาดที่เข้มงวด ซึ่งถือเป็นการเปิดประเทศอีกครั้งในรอบนานกว่า 18 เดือนเลยทีเดียว ดังนั้นพวกเขาจึงพยายามป้องกันการระบาดครั้งใหม่อย่างเต็มที่
สาเหตุที่ออสเตรเลียจะต้องเข้มงวดกับเรื่องนี้มาก ๆ เนื่องจากการแพร่เชื้อไวรัสส่วนใหญ่มักเกิดจากการเดินทาง อย่างไรก็ตามถ้าสั่งห้ามเดินทางเลยเศรษฐกิจก็จะพัง หลายประเทศเลยต้องมีมาตรการเพื่อป้องกันการระบาดใหญ่ หนึ่งในนั้นคือการป้องกันโรคด้วยวัคซีนที่ต้องมีหลักฐานการฉีดที่ถูกต้องถึงจะสามารถเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องกักตัว
กฎของประเทศออสเตรเลียมีอยู่ชัด ๆ เป๊ะ ๆ ว่า "กำหนดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติทุกคนที่เดินทางเข้ามาในประเทศต้องฉีดวัคซีนครบโดส (โดยทั่วไปต้องฉีด 2 เข็ม) มิเช่นนั้นจะต้องถูกกักตัว 14 วัน"
เรื่องดังกล่าวจะไม่เป็นปัญหาเลยหากสถานะการฉีดวัคซีนของ โนวัค ยอโควิช มีหลักฐานอ้างอิงที่ชัดเจน ยิ่งเข้าใกล้การแข่งขันทุกคนก็ยิ่งต้องจับตาดูการเดินทางเข้าประเทศออสเตรเลียเพื่อมาแข่งออสเตรเลียน โอเพ่น ของเขาเป็นพิเศษ
สาเหตุนั้นก็มาจากตัวของ ยอโควิช เองที่เคยประกาศอย่างชัดเจนว่า เขาไม่เคยเชื่อมั่นในประสิทธิภาพของวัคซีนว่าจะป้องกันโรคโควิด-19 ได้ อีกทั้งยังต่อต้านนโยบายการบังคับว่าต้องฉีดวัคซีนเสียก่อนจึงจะสามารถเดินทางไปต่างประเทศได้อีกด้วย
นอกจากนี้เขายังเคยเพิกเฉยต่อมาตรการต่าง ๆ ในช่วงที่โรคระบาด เช่นการจัดการแข่งขันเทนนิสรายการพิเศษที่บ้านเกิด จนกลายเป็นคลัสเตอร์การแพร่ระบาด ทำให้เขาและภรรยารวมถึงอีกหลายคนติดโควิดไปเมื่อปี 2020 ขณะที่ในช่วงปลายปี 2021 ที่ผ่านมา เขาก็ติดโควิดอีกครั้งหลังจากเดินทางไปดูการแข่งขันบาสเกตบอลลีกในประเทศเซอร์เบีย
ยอโควิช จะเข้ามาป้องกันแชมป์ออสเตรเลียน โอเพ่น ของตัวเองได้ด้วยวิธีไหนในช่วงที่มาตรการกลับมาเข้มข้นอีกครั้ง ? ... นี่คือสิ่งที่หลายคนสงสัย
เข้าได้ - เข้าไม่ได้ ?
4 มกราคม คำถามดังกล่าวก็ได้คำตอบเมื่อมีการแถลงจาก Tennis Australia ว่า โนวัค ยอโควิช จะเดินทางมายังประเทศออสเตรเลีย โดยได้รับการยกเว้นทางการแพทย์จากการตรวจสอบอย่างเข้มงวดของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
1
นี่คือเอ๊ะแรก ที่ทำให้เริ่มเกิดกระแสว่า "ทำไมคนไม่ฉีดวัคซีนอย่าง ยอโควิช จึงเข้าประเทศได้ ?"
อย่างแรกต้องเข้าใจกันก่อนว่าการฉีดวัคซีนนั้นไม่สามารถบังคับกันได้ ทุกคนมีสิทธิและเสรีภาพที่จะเลือกรับวัคซีนหรือไม่ และตามกฎของประเทศออสเตรเลีย หาก ยอโควิช ที่เปิดตัวชัดเจนว่าไม่ฉีดวัคซีนจะเดินทางเข้าประเทศก็ย่อมได้ แต่ก็ต้องมีข้อแม้ด้วยว่าจะต้องเข้ากักตัว 14 วัน
เพียงแต่สำหรับนักกีฬาอาชีพ โดยเฉพาะนักเทนนิสมือ 1 ของโลกที่มีคิวทองอย่าง ยอโควิช การจะกักตัว 14 วันนั้นส่งผลกระทบหลายอย่าง ทั้งเรื่องรายรับ เรื่องร่างกาย รวมถึงเรื่องตารางงานต่าง ๆ ในการแข่งขันอื่นที่เขาวางไว้ ดังนั้นเขาจึงต้องหาวิธีอื่นเข้ามาทดแทนการกักตัว นั่นคือการ "ยื่นหลักฐาน"
โดยตามเอกสารที่ นักเทนนิสมือ 1 ของโลก ให้กับเจ้าหน้าที่ระบุว่า เขาไม่เคยเดินทางไปไหนในช่วง 14 วันก่อนหน้าจะบินมาออสเตรเลีย และได้รับการยกเว้นวัคซีน เพราะมีผลตรวจเป็นบวกเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2021
จะบอกว่าเป็นการเลี่ยงบาลีก็ย่อมได้สำหรับคนที่ยืนยันว่าจะไม่ฉีดวัคซีนและไม่ยอมเข้ากักตัว 14 วัน แต่หลักฐานที่ว่านี้ตรงกับตามที่ทางออสเตรเลียต้องการ ดังนั้น ยอโควิช จึงสามารถเข้าแข่งขันออสเตรเลียน โอเพ่น ครั้งนี้ได้ตามที่ Tennis Australia ได้แถลงไปในวันที่ 4 มกราคม
อย่างไรก็ตามโลกยุคนี้ไม่มีสิทธิ์จะมองข้ามกระแสสังคมได้เลย เมื่อมีการอนุญาตให้ ยอโควิช เข้าแข่งขันในออสเตรเลียน โอเพ่น คนออสเตรเลียจำนวนมากจึงวิจารณ์กันอย่างหนักสำหรับมาตรการของรัฐบาลกลางออสเตรเลีย ที่เข้มงวดกับผู้คนในประเทศและทำให้ชาวออสเตรเลียต้องเสียสละตัวเองหลายอย่างในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แต่พอกับคนดังระดับโลกอย่าง ยอโควิช ที่ก็เห็นชัด ๆ ว่าไม่ยอมฉีดวัคซีน ไม่ยอมกักตัว พวกเขากลับปล่อยให้เข้ามาในประเทศได้อย่างหน้าตาเฉย
ในขณะที่การถกเถียงเรื่องดังกล่าวเริ่มร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ 1 วันต่อมา โนวัค ยอโควิช ก็เดินทางมาถึงประเทศออสเตรเลียเรียบร้อยเพื่อเตรียมตัวสำหรับการลงแข่งขัน หลังจากได้รับการอนุญาตอย่างเป็นทางการ
แต่เมื่อเครื่องบินที่เขาโดยสารลงจอดที่สนามบินนครเมลเบิร์น สังเวียนจัดการแข่งขัน ออสเตรเลียน โอเพ่น สถานการณ์ก็พลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังมือ เนื่องจากเขากลับไม่สามารถผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองได้ และวีซ่าของเขาถูกยกเลิก ณ ที่เกิดเหตุ โดยฝั่งออสเตรเลียให้เหตุผลว่า นักหวดมือ 1 ของโลก "ยื่นหลักฐานเป็นเท็จ"
หลักฐานของ ยอโควิช ผิดตรงไหน ? ... คำตอบคือไทม์ไลน์ที่เขาเขียนมาไม่ตรงกับสิ่งที่เกิดขึ้นรวมถึงสิ่งที่เขาทำ เขาบอกว่าหลังจากติดโควิดในวันที่ 16 ธันวาคม 2021 เขาก็อยู่กักตัวตลอด 14 วัน แต่สุดท้ายก็มีภาพที่เขาไปออกงานอีเวนต์และให้สัมภาษณ์กับสื่อในศูนย์เทนนิสที่กรุงเบลเกรด และภาพนั้นเกิดขึ้นในวันที่ 17 ธันวาคม 2021 ซึ่งหมายความว่าเขาไม่ได้กักตัวครบ 14 วันตามที่ได้แจ้งไว้
นอกจากนี้การติ๊กยืนยันในช่องที่เขียนว่า "ไม่เคยเดินทางออกนอกประเทศเซอร์เบียในช่วง 14 วันก่อนหน้านี้" ก็ยังไม่ใช่ความจริงอีก เพราะมีภาพที่ยืนยันชัดเจนว่าเขาปรากฏตัวในการลงซ้อมที่เมืองมาร์เบยา ประเทศสเปน ในช่วงที่อ้างว่าอยู่ในประเทศเซอร์เบียอีกด้วย
เข้าได้ … แข่งไม่ได้
1
การยกเลิกวีซ่าทำให้ ยอโควิช ไม่สามารถเดินทางเข้าประเทศออสเตรเลียได้ นอกจากนี้เขายังถูกนำตัวไปกักตัวไว้ที่โรงแรม Park Hotel ซึ่งเป็นโรงแรมสำหรับกักตัวผู้ลี้ภัยและอพยพ โดยสภาพโรงแรมนั้นว่ากันว่าเก่าและอับชื้น และมีอาหารการกินที่ไม่ถูกสุขลักษณะ จากคำเปิดเผยของ จามาล โมฮัมเหม็ด ผู้ลี้ภัยที่ถูกคุมตัวมาตั้งแต่ 9 ปีก่อน และยังคงอยู่ที่โรงแรมแห่งนี้
ทีมกฎหมายของ ยอโควิช เริ่มงานทันทีเมื่อเขาถูกกักตัวเอาไว้ที่โรงแรมดังกล่าว มีการยื่นอุทธรณ์เพื่อขอปล่อยตัว ยอโควิช โดยจะยื่นเรื่องให้ไปสู่กันบนชั้นศาล
ขณะที่ฝั่งออสเตรเลียนำโดย นายกรัฐมนตรี สกอตต์ มอร์ริสัน ก็ได้ยืนยันว่าเรื่องนี้จะไม่มีการอ่อนข้อและเห็นแก่ชื่อเสียงของนักหวดมือ 1 ของโลกอย่างแน่นอน เขาโพสต์ข้อความบนทวิตเตอร์ของตัวเองว่า "กฎก็คือกฎ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพูดถึงพรมแดนของเรา"
1
10 มกราคม การสู้ทางกฎหมายยกแรก ฝั่ง ยอโควิช เป็นฝ่ายชนะ เนื่องจาก แอนโธนี่ เคลลี่ ผู้พิพากษาได้มีการตัดสินให้คืนสถานะวีซ่าของยอโควิช โดยพิจารณาว่าเขาไม่มีเวลาพอที่จะพูดคุยกับทนายของเขา เคลลี่จึงสั่งให้รัฐบาลปล่อยตัวยอโควิชออกจากศูนย์ตรวจคนเข้าเมือง และ 1 ชั่่วโมงหลังจากนั้นก็ปรากฏภาพ โนวัค ยอโควิช ลงฝึกซ้อมเทนนิสแบบแทบจะทันที
ยอโควิช เองหลังจากกลับมาซ้อมได้ก็ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า เขาขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น และหลักฐานที่มีการตีข่าวว่าเขาพยายามบิดเบือนนั้นก็ไม่เป็นความจริง มันเป็นแค่ความผิดพลาด เพราะเอเยนต์ของเขาเป็นคนกรอกข้อมูล
“นี่เป็นความผิดพลาดของมนุษย์ที่เกิดขึ้นโดยความไม่ตั้งใจ เราอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก และบางครั้งความผิดพลาดแบบนี้ก็เกิดขึ้นได้ วันนี้ทีมงานของผมจะให้ข้อมูลที่ชัดเจนเพิ่มเติมกับรัฐบาลออสเตรเลีย" ยอโควิช กล่าวผ่านสื่อ
1
หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง ชื่อของ ยอโควิช ก็ถูกใส่ไปในการจับสลากประคู่ศึกออสเตรเลียน โอเพ่น 2022 รอบแรก โดยเขาจะได้พบกับ มิโอเมียร์ เคซมาโนวิช เพื่อนร่วมชาติของเขาเอง
เหตุการณ์ดูเหมือนกำลังจะคลี่คลาย แต่สุดท้ายหลังจากมีการวิจารณ์การทำงานของรัฐบาลกลางออสเตรเลียหนักขึ้นยิ่งกว่าเดิม ถึงการผ่อนปรนข้อปฏิบัติต่าง ๆ ให้กับยอโควิช ซ้ำร้ายสถานการณ์การระบาดของโควิดในประเทศออสเตรเลียตอนนี้ก็ไม่ได้น่านิ่งนอนใจ เพราะในรัฐนิวเซาธ์เวลส์และรัฐวิกตอเรีย (สถานที่แข่งขันออสเตรเลียน โอเพ่น) ก็มีผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นกว่า 1 หมื่นคนภายในเวลาไม่ถึงสัปดาห์
เรียกได้ว่างานนี้เจ็บจี๊ดกันตั้งแต่หัวถึงหางสำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องในการอนุญาตให้ ยอโควิช เข้าประเทศ คนทั้งประเทศกำลังด้อยค่ารัฐบาลถึงการกระทำที่เลือกปฏิบัติและสองมาตรฐาน
1
การวิจารณ์ที่ร้อนแรงทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นอีกครั้ง คนออสเตรเลียหลายคนลุกฮือกับเรื่องนี้ และเริ่มมีม็อบชุมนุมไม่เห็นด้วยที่แสดงความคิดเห็นแง่ลบกับทั้งรัฐบาลของพวกเขาตลอดจนนักหวดมือ 1 ของโลกเพิ่มขึ้น
ที่สุดแล้วในวันที่ 14 มกราคม 2022 อเล็กซ์ ฮอว์ก รัฐมนตรีตรวจคนเข้าเมืองของออสเตรเลียประกาศว่า เขาได้ใช้อำนาจส่วนตัวในการยกเลิกวีซ่าของ ยอโควิช เป็นครั้งที่ 2 ด้วยเหตุผลเกี่ยวกับเรื่อง "สุขภาพและระเบียบที่ดี บนพื้นฐานที่เป็นสาธารณประโยชน์"
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ยอโควิช และทีมงานต้องยื่นอุทธรณ์อีกครั้ง เพราะแกรนด์สแลมรายการแรกของปีกำลังใกล้เข้ามา แถมเขาที่เป็นแชมป์ 9 สมัย คือเต็ง 1 ของรายการนี้ ซึ่งแม้ศาลออสเตรเลียจะรับเรื่องเข้าสู่การพิจารณาเป็นกรณีพิเศษไม่มีหยุดเสาร์-อาทิตย์ แต่บทสรุปสุดท้ายในการตัดสินเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2022 ก็ไม่เป็นไปอย่างที่เจ้าตัวหวัง
วีซ่าออสเตรเลียของ โนวัค ยอโควิช ถูกยกเลิก ทำให้เขาจะต้องถูกส่งตัวกลับและหมดสิทธิ์ลงแข่งขันออสเตรเลียน โอเพ่น 2022 และอาจมีบทลงโทษเพิ่มเติมในภายหลังคือการถูกแบนห้ามเข้าออสเตรเลียเป็นเวลา 3 ปี
เรื่องดังกล่าวไม่เดือดเฉพาะแค่ชาวออสเตรเลียเท่านั้น เพราะมันอาจกระทบถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในทันที ประธานาธิบดีเซอร์เบีย อเล็กซานดาร์ วูซิก เริ่มเคลื่อนไหวกับกรณีดังกล่าว และเริ่มมีการถามไปยังทางออสเตรเลีย หากพวกเขาคิดจะไม่ให้ ยอโควิช เข้าประเทศ เหตุใดพวกเขาจึงไม่ปฏิเสธ ยอโควิช ตั้งแต่การขอวีซ่าเข้าประเทศในตอนแรก
1
ด้าน นิโคลัส วูด ทนายของ ยอโควิช อ้างว่าเหตุผลที่ทางการออสเตรเลียพยายามทำสิ่งนี้ให้เกิดขึ้น ไม่ได้มาจากความกังวลที่ว่า ยอโควิช เป็นอันตรายต่อสาธารณะในแง่ของสุขภาพ แต่เพราะทางการของออสเตรเลียพยายามจะปลุกเร้ากระแสของกลุ่มต่อต้านวัคซีนถึงข้อเสียของสิ่งที่จะเกิดขึ้นหากคุณไม่ยอมฉีดวัคซีน หรือว่าง่าย ๆ เป็นการเขียนเสือให้วัวกลัวอะไรประมาณนั้น
ด้านกองบรรณาธิการข่าวต่างประเทศของสำนักข่างใหญ่อย่าง BBC ได้อธิบายเรื่องนี้เพิ่มเติมว่า แท้จริงแล้วเรื่องราวของ ยอโควิช กับ เทนนิส ออสเตรเลียน โอเพ่น อาจจะมีเหตุผลด้านการเมืองมาเกี่ยวข้อง เพราะ ณ ปัจจุบันประชาชนในประเทศเริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับรัฐบาลที่นำโดยนาย สกอตต์ มอร์ริสัน เกี่ยวกับการรับมือโควิด-19 ที่ล้มเหลว
1
ชาวออสเตรเลียกำลังตั้งคำถามกับรัฐบาลว่า พวกเขาจะทำอะไรได้อีกในเมื่อเขาทำตามทุกอย่างที่รัฐบาลได้ขอและยอมเสียสละเพื่อส่วนรวมทำตามมาตรการต่าง ๆ ที่รัฐบาลสั่งมาตลอด แต่สุดท้ายสถานการณ์ก็ยังไม่ดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีการวิจารณ์เกี่ยวกับการแย่งชิงทางการเมืองระหว่างรัฐและรัฐบาลกลางของประเทศ ที่ส่งผลให้เกิดความล้มเหลวทางการสื่อสาร ทำให้การระบาดของโรคยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สวนทางกับที่ประชาชนได้เสียสละตัวเองมาตลอดสองปี
1
สิ่งดังกล่าวโยงไปถึงการยกเลิกวีซ่าของ ยอโควิช เพื่อแสดงให้ทุกคนได้เห็นว่ารัฐบาลพยายามอย่างมากและพร้อมใช้กฎเดียวกันสำหรับทุก ๆ คนโดยไม่มีการสองมาตรฐานอย่างที่ประชาชนในประเทศสงสัย
"เมื่อนักกีฬาที่เก่งที่สุดในโลกคนหนึ่งโดนห้ามเข้าประเทศเพราะไม่ยอมฉีดวัคซีน นั่นทำให้เกิดภาพว่าเหล่านักการเมืองของออสเตรเลียกำลังพยายามอย่างหนักสำหรับเรื่องนี้" Shaimaa Khalii ผู้สื่อข่าวของออสเตรเลียจาก BBC วิเคราะห์สถานการณ์ดังกล่าวในบทความที่เพิ่งเผยแพร่ไปทางออนไลน์ เมื่อวันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา
เรื่องเลยเถิดเพราะเธอไม่ชัดเจน
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้นเลยหาก โนวิค ยอโควิช ฉีดวัคซีน หรืออย่างน้อยที่สุดเขาก็ซื่อสัตย์กับสิ่งที่ตัวเองทำ เช่นกักตัวให้ครบ 14 วัน หรือยื่นหลักฐานที่ถูกต้องตามจริง อะไรก็ว่ากันไปสุดแท้แต่ทางฝ่ายออสเตรเลียจะเรียกร้องจากเขา
ตอนนี้ ยอโควิช จึงถูกมองในแง่ลบมากขึ้นจากผู้คนมากมาย ซึ่งสุดจะทนกับสถานการณ์โควิด-19 ที่ระบาดมา 3 ปี แต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่าย ๆ และยังคงมีข่าวการเกิดเชื้อสายพันธุ์ใหม่ ๆ ขึ้นทุกวัน
1
มีประโยคหนึ่งที่ ราฟาเอล นาดาล ยอดนักเทนนิสชาวสเปน และเป็น 1 ใน 3 คนที่คว้าแชมป์แกรนด์สแลมได้ 20 รายการเท่ากับ ยอโควิช (อีกคนคือ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์) พูดถึงยอโควิชไว้อย่างน่าสนใจ
นาดาลกล่าวว่า เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น ยอโควิช สามารถตัดสินใจได้ว่าเขาจะจบเรื่องนี้แบบไหน เขาจะทำให้มันยากขึ้น หรือง่ายลง ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเขาทั้งสิ้น
"สิ่งที่ชัดเจนสำหรับผมคือ ถ้าคุณได้ฉีดวัคซีนแล้วคุณก็จะสามารถลงเล่น ออสเตรเลียน โอเพ่น และทุกที่ได้อย่างไม่มีปัญหา ส่วนตัวผมคิดว่าโลกนี้ได้รับความทุกข์ทรมานมามากพอแล้วสำหรับการไม่ยอมปฏิบัติตามกฎเกณฑ์"
2
"เขาเป็นคนตัดสินใจเอง ทุกคนมีอิสระที่จะตัดสินใจ แต่แน่นอนว่ามันต้องมีผลตามมา ผมไม่ชอบที่มีเรื่องนี้เกิดขึ้นและเสียใจกับเขาในสิ่งนี้ แต่เขาย่อมรู้เงื่อนไขดีอยู่แล้วว่ามันจะเป็นอย่างไร ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นก็มาจากการตัดสินใจของเขาเอง" ราฟาเอล นาดาล ว่าไว้
1
ซึ่งเชื่อว่า โนวัค ยอโควิช คงจะต้องทบทวนอีกสักครั้ง ในวันที่เรื่องวุ่นวายเหล่านี้ทำให้เขาต้องเสียอะไรไปมากมายเช่นนี้
แหล่งอ้างอิง
โฆษณา