29 มี.ค. 2022 เวลา 03:46 • ประวัติศาสตร์
"รู้ไหม สายลับสมัยก่อนยิ้มเก่ง และชอบใส่นาฬิกาหรูราคาแพง... Rolex เหรอ?"
"Omega"
"ยอดไปเลย"
แม้จะไม่เกี่ยวข้องกับข่าวการต่อคิวข้ามคืนเพื่อซื้อนาฬิการุ่นพิเศษ (ที่เปิดให้จองออนไลน์แบบสุ่มวันนี้)แต่ทุกครั้งที่ได้ยินชื่อของ Omega ผมจะคิดถึงฉากสนทนาระหว่าง เจมส์ บอนด์ และเวสเปอร์ ลินด์ ในภาพยนตร์ชุดที่ 26 ของสายลับ 007 (Casino Royale 2006) ซึ่ง Tie-in เรือนเวลาสุดหรูมาอย่างแนบเนียน
Omega เป็นแบรนด์นาฬิกาจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ที่ลืมตาดูโลกในปี 1848 โดยมี Louis Brandt ช่างนาฬิกาหนุ่มวัย 23 ปี เป็นผู้ริเริ่มกิจการด้วยความหวังว่านาฬิกาของเขาจะมีความแม่นยำที่สุดในโลก
หลังจากปลุกปั้นนาฬิกาเป็นที่ยอมรับในทวีปยุโรป Louis Brandt ก็เสียชีวิตอย่างสงบในปี 1879 ทำให้ Louis-Paul และ Cesar ลูกชายสองคนก้าวขึ้นมารับช่วงต่อในการบริหาร
ด้วยความทุ่มเทเอาใจใส่ นำไปสู่ช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ที่ปฏิวัติวงการนาฬิกาทั่วโลก นั่นคือการเปิดตัวกลไกที่ชื่อว่า "Omega Caliber" ในปี 1894
Omega Caliber คือนวัตกรรมสุดล้ำสมัยที่ตีกรอบมาตรฐานใหม่ในการผลิตนาฬิกา เพราะนอกจากกลไกที่แม่นยำ ส่วนประกอบทุกชิ้นยังยังเอื้อให้ช่างนาฬิกาทั่วโลกสามารถซ่อมแซมเปลี่ยนแปลงได้เอง อีกทั้งการผสมผสานที่ลงตัวของระบบไขลานและการตั้งเวลาผ่านก้านและเม็ดมะยมยังเป็นสิ่งแปลกใหม่ในยุคนั้น และยังคงใช้กันอย่างแพร่หลายมาจนถึงทุกวันนี้
𝑶𝒍𝒚𝒎𝒑𝒊𝒄𝒔 + 𝑵𝒂𝒔𝒂
สิ่งที่ผมชื่นชม Omega คือการทำให้แบรนด์ตัวเองเที่ยงตรงและแม่นยำจนได้รับเลือกให้เป็นแบรนด์นาฬิกาแบรนด์เดียวที่นำมาใช้ในการตัดสินกีฬา Olympics ตั้งแต่ปี 1932 จนปัจจุบัน
ส่วน Nasa เองก็เลือก Omega เป็นพาร์ทเนอร์ในการผลิตนาฬิกาสำหรับนักบินอวกาศ แต่ที่เป็นข่าวฮือฮาที่สุดคงหนีไม่พ้น ปี 1966 ที่ยานอวกาศอะพอลโล่ 11 ของ Nasa ได้จอดบนพื้นผิวดวงจันทร์สำเร็จ เชื่อว่าคนทั่วโลกมักจดจำชื่อของ Neil Armstrong ได้ในฐานะมนุษย์คนแรกที่เหยียบดวงจันทร์
แต่สำหรับ Omega แล้ว สุดยอดความภาคภูมิใจของพวกเขา คือ 'Buzz Aldrin' นักบินอวกาศคนที่สองที่เหยียบบนดวงจันทร์ (แรงบันดาลใจในการครีเอทตัวละครชื่อดังของค่าย Pixar อย่าง Buzz Lightyear) ที่สวมใส่นาฬิกา Omega Speedmaster Professional ระหว่างการปฏิบัติภารกิจเหยียบดวงจันทร์สะเทือนถึงพื้นโลก
𝐍𝐞𝐰 𝐄𝐫𝐚
นอกจากวันดีๆ Omega เองก็มีวันแย่ๆ ด้วยเช่นกัน พวกเขาต้องเผชิญกับผลกระทบจากคลื่นเศรษฐกิจระลอกใหญ่ ทั้งสงครามโลกครั้งที่1 ไล่มาถึงวิกฤตเศรษฐกิจยุค '70 และความนิยมในนาฬิกาดิจิทัล ทำให้กิจการถูกซื้อไปขายมา
ที่สุดแล้ว การเปลี่ยนแปลงก็ถึงจุดสิ้นสุดในปี 1985 เมื่อ Nicolas G. Hayek
(หรือที่เรารู้จักในฐานะผู้ก่อตั้งบริษัท Swatch Group ซึ่งเป็นเจ้าของนาฬิกาชื่อดังกว่า 17 แบรนด์) ได้เข้ามาซื้อกิจการของ Omega
และแน่นอนว่านาฬิกา Omega x Swatch ที่วันนี้เปิดให้จองออนไลน์แบบสุ่ม (9.00-12.00น.) ก็เป็นผลงานชิ้นสำคัญของเครือ Swatch Group
#thelastbogie #omega #swatch #swatchgroup #omegaxswatch #swatchxomega #นาฬิกาomegaxswatch #นาฬิกาswatchxomega
โฆษณา